โดย:มะเมี้ยะ | ||||
ลองมาดูกันสักหน่อยว่า มีเมืองใดในโลกที่ติดอันดับบ้าง เริ่มจาก อันดับ 10 “เมืองซิดนีย์”(Sydney) ประเทศออสเตรเลีย ซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศออสเตรเลีย มีประชากรราว 4.5 ล้านคน มีท่าเรือและชายหาดบอนได (Bondi Beach)ที่สวยงาม มีโรงโอเปร่า(Opera House)ที่มีชื่อเสียง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของเมือง การออกแบบโครงสร้างของตัวโรงละคร ได้กลายเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โด่งดังของศตวรรษที่ 20 มีเพียง 2 ฤดูกาลที่เมืองซิดนีย์ ได้แก่ฤดูร้อน และฤดูหนาว แต่โดยปกติบรรยากาศจะเป็นแบบสบาย ๆ อุณหภูมิเฉลี่ย25 เซลเซียส นอกจากจะเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 10 ของโลกแล้ว Mercer ยังระบุว่า ซิดนีย์เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 15 ของโลกอีกด้วย | ||||
ที่สำคัญ เมืองเบอร์น ยังเป็นสถานที่ซึ่ง อัลเบิร์ต ไอน์ไตน์ เคยเข้ามาอาศัยและทำงานราวปี ค.ศ. 1903(พ.ศ. 2446) ปัจจุบัน บ้านของเขาซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 49 ถนนแครมกาซเซ่ (Kramgasse) ได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์บ้านไอน์ไตน์ ที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก | ||||
| ||||
| ||||
| ||||
ในภาษาเมารีอ็อคแลนด์มีชื่อว่า Tamaki-Makau-Rau แปลว่า หญิงสาวที่มีผู้มาขอความรักถึง 100 คน อ็อคแลนด์ได้สมญานามนี้มาจาก การที่เป็นภูมิภาคที่ชนเผ่าต่างๆ ต้องการครอบครอง บรรยากาศที่ผสมผสานกันของอ่าว หมู่เกาะ วัฒนธรรมโพลีนีเชี่ยนและความเป็นเมืองที่ทันสมัยก็ทำให้อ็อคแลนด์ติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก | ||||
ปัจจุบัน แวนคูเวอร์ เป็นศูนย์กลางด้านการช้อปปิ้ง และการถ่ายทำภาพยนตร์ ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก | ||||
เจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร อาทิ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้ เจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์กรสันนิบาตชาติ และกาชาดสากล ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของ www (World Wide Web) ตลอดจนเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่และมีพลังงานสูงสุดในโลก หรือที่เรียกว่า Large Hadron Collider (LHC) | ||||
นอก จากนี้ ซูริค ยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพการดำเนินชีวิตดีที่สุดในโลกจาก ผลการสำรวจของหลายสำนัก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006-2009 | ||||
| ||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * มี 10 เมืองน่าอยู่ของโลก ก็ต้องมี 10 เมืองที่ไม่น่าอยู่ของโลก 10 อันดับ "เมืองที่ไม่น่าอยู่อาศัยที่สุดในโลก" จากผลการสำรวจของ Mercerนั้นจะมีเมืองใดบ้างมาดูกัน อันดับ 10 เมืองปอร์โตแปรงซ์ สาธารณรัฐเฮติ 'ปอร์โตแปรงซ์' เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮติ เป็น ประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลาในทะเลแคริบเบียน และเป็นชาติที่ยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2.5-3 ล้านคน ในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่อยู่กันอย่างแออัดในพื้นที่สลัม แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองของที่นี่ จะยังไม่ค่อยสงบนัก แต่ปอร์โตแปรงซ์ ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเยี่ยมเยือนเป็นระยะๆ อันดับ 9 เมืองกินชาซ่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 'กินชาซ่า' เป็นเมืองหลวง และเมืองใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มีประชากรอาศัยอยู่ราว 8 ล้านคน เมื่อปีค.ศ. 2004 กินชาซ่า ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองอันตรายที่สุดในแอฟริกา เนื่องจากหลังสิ้นสุดสงครามคองโกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 2003 (สงครามเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998-2003) อันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน ประชาชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมืองกินชาซ่า มีอัตราการเกิดคดีอาชญากรรมสูงมาก คิดเป็นอัตราส่วนอาชญากร 112.3 คน ต่อประชากร 100,000 คน เลยทีเดียว | ||||
อันดับ 8 เมืองนูแอกช็อต สาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมอริเตเนีย ตั้งอยู่บนฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เดิมทีเป็นเมืองเล็กๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพทำประมง แต่หลังจากปี ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) เป็นต้นมา เมืองดังกล่าวก็เริ่มแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว และมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน นูแอกช็อต มีประชาชนอาศัยอยู่เกือบ 9 แสนคน และในจำนวนนี้ มีไม่น้อยที่อพยพเข้ามาเพื่อหนีปัญหาความแห้งแล้ง อันดับ 7 เมือง Pointe Noire สาธารณรัฐคองโก เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศคองโก ตั้งอยู่ท่ามกลางบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกากลาง เมืองนี้มีสถิตินักท่องเที่ยวโดนทำร้ายและปล้นทรัพย์บ่อยครั้ง จนทางการต้องประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังโดนทำร้ายร่างกายเพื่อแย่งชิง รถ และไม่ให้ออกมาเดินตามท้องถนนในยามค่ำคืน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไปยังเมืองนี้ก็คือ ชายหาดสวยๆ และเหมาะแก่การเล่นเซิร์ฟหลายแห่งนั่นเอง อันดับ 6 เมืองซานา สาธารณรัฐเยเมน เป็นเมืองหลวงของประเทศเยเมน มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน นอกจากตึกระฟ้าและอาคารบ้านเรือนที่ทันสมัยแล้ว เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยโบราณสถานและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่มากมาย องค์การยูเนสโกจึงประกาศให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) แต่หลังเกิดเหตุการณ์ทำร้ายชาวต่างชาติ และระเบิดสถานทูตสหรัฐ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในเมืองซานาน้อยมาก อันดับ 5 เมืองคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน เป็นเมืองหลวงของรัฐคาร์ทูมและประเทศซูดาน ตั้งอยู่บริเวณที่มีการบรรจบกันของแม่น้ำไวท์ไนล์ ซึ่งไหลมาจากทะเลสาบวิกตอเรีย และแม่น้ำบลูไนล์ที่ไหลมาจากประเทศเอธิโอเปีย ตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2,207,794 คน ปัจจุบัน ซูดานยังคงมีปัญหาความไม่สงบและมีการสู้รบกันภายในประเทศ เป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก อันดับ 4 เมืองบราซซาวิล สาธารณรัฐคองโก เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของ "สาธารณรัฐคองโก" มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1 ล้านคน เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคองโก โดยมีกินชาซ่า เมืองหลวงของ "สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงกันข้าม บราซซาวิลถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) โดยนักสำรวจชาวยุโรปที่ชื่อ "ปิแอร์ เซเวอร์แกน เดอ บราซซา" อุตสาหกรรมหลักของเมืองนี้ คือ สิ่งทอ และการฟอกหนัง อย่างไรก็ตาม เมืองนี้มักเกิดปัญหาความขัดแย้งและมีเหตุการณ์นองเลือดบ่อยครั้ง นับตั้งแต่ยุคปี 90 เป็นต้นมา ทั้งความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลและผู้ก่อการจราจล รวมถึงความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงเกิดการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อหนีภัยสงครามในที่สุด อันดับ 3 เมืองเอ็นจาเมนา สาธารณรัฐชาด (Chad) ถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) ปัจจุบัน เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศชาด มีประชากรอาศัยมากกว่า 700,000 คน อันที่จริงเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง น่าเสียดายที่มักเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและเกิดปัญหาการจราจลบ่อยครั้ง (เหตุการณ์นองเลือดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว) ทำให้คิดอันดับเมืองไม่น่าอยู่เป็นอันดับ 3 ของโลก อันดับ 2 เมืองบังกี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง เดิมเป็นที่ตั้งทางการทหารของประเทศฝรั่งเศส และเป็นศูนย์กลางการปกครองนับตั้งแต่ยุคโคโลเนียลจวบจนกระทั่ง ปัจจุบัน เมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 5 แสนคน โดยมีอุตสาหกรรมหลัก คือ สิ่งทอ สบู่ และเบียร์ ที่สำคัญ โบราณสถานซึ่งมีอยู่มากมายทั้งในและรอบนอกเมืองบังกี ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สาขาวัฒนธรรม จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2006 สิ่งที่ทำให้บังกี ติดอันดับรองแชมป์เมืองไม่น่าอยู่ที่สุดในโลกคือ เหตุการณ์ความไม่สงบและ ปัญหาความรุนแรงที่มักเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปีนั่นเอง อันดับ 1 เมืองแบกแดด สาธารณรัฐอิรัก เป็น เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอิรัก ทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอาหรับ (รองจากไคโร) และใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ (รองจากกรุงเตหะราน) มีประชากรอาศัยในเขตเมืองมากกว่า 6.5 ล้านคน เมืองแบกแดด ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาการและวัฒนธรรม เพราะได้รับมรดกด้าน ตัวเลข ตัวอักษร ดวงดาว โหราศาสตร์ และการแพทย์ มาจากรุ่นบรรพบุรุษ ที่ผ่านมามักเกิดสงครามและเหตุการณ์ ไม่สงบบ่อยครั้งในเมืองแบกแดด (ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ สมาชิกรัฐสภาอิรัก เพิ่งถูกลอบยิงเสียชีวิต) แม้เหตุการณ์ต่างๆ จะเริ่มเบาบางลง แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นระยะ จนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทำให้เมืองนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่อาศัยที่สุดในโลก จากผลการสำรวจของ Mercer |
โดย ผู้จัดการออนไลน์