
เตรียมงานวันพรุ่งนี้
หลังจากเคลียร์งานของวันนั้นหมดแล้ว เวลาเลิกงาน อย่าเพิ่งดีใจหิ้วกระเป๋ากลับบ้านตัวลอย จัดเอกสารที่ต้องใช้พรุ่งนี้ไว้บนโต๊ะใกล้ตัวก่อน ถ้ามีเวลาก็จดไว้ว่ามาแล้วต้องทำอะไรบ้างเป็นลิสท์ออกมา พอวันต่อมาอะไรที่ทำเสร็จแล้วก็ขีดทิ้งไปทีละอย่างจนหมด
นอนให้พอ
บางทีเราอาจทำงานดึกจนเคย ทำให้ตื่นมาทำงานไม่ไหว กว่าจะถึงที่ทำงาน เรียกสติกลับมาได้ เสียเวลาไปมากกว่าเดิม กลายเป็นไปอัดงานแน่นช่วงท้ายของวันแทน ตกบ่ายปวดหัวง่วงนอนอีก ยิ่งถ้าทำบ่อยๆ สุขภาพจะพังเอา
งานไหนเร่งทำก่อน
บางคนจะเรียงงานที่ทำไม่เป็นระบบ ทำงานที่ตัวเองชอบก่อน แต่มานึกดูบ่ายนี้ลูกค้าขอดูอีกงาน ทำมั่วมึนไปหมดไม่ไหวแล้วเอาเป็นว่าถ้าจัดระบบไม่เป็น รีบทำงานที่เร่งส่งมากที่สุดก่อน แต่ถ้าเวลาส่ง 2 งานพร้อมกัน ให้ปั่นงานใหญ่ (หรือส่งผลมากกว่าอีกงาน) เวลาที่เหลือให้รีบทำอีกงานตามไปติดๆ
นี่คือเวลาที่ทำงานของเรา
สำหรับบางคนจะให้มานั่งจดจ่อหน่าคอมพิวเตอร์ทั้งวันอาจจะยากหน่อย แต่ทุกคนจะมีเวลาทำงานของตัวเอง บางคนจะพลังงานเหลือเฟือในช่วงเช้า แต่ถ้าบ่ายจะเริ่มอ่อนลง ล้าที่ดวงตา แต่สำหรับอีกหลายคนอาจจะอยากมาประสภาพตอนเช้าก่อนด้วยงานเบาๆ ส่วนตอนบ่ายขอลุยเต็มที่ แต่ถ้าไม่มีช่วงไหนเลย อันนี้แถวบ้านเรียกขี้เกียจแล้วล่ะ
ออกไปสูดอากาศบ้าง
งานที่ต้องใช้ไอเดียความคิด เช่น งานออกแบบ งานศิลปะ บางครั้งนั่งทั้งวันก็คิดอะไรไม่ออก ฝืนนั่งต่อไปอาจเสียเวลาไปเปล่าๆ ออกไปนอกตึก ไปสูดอากาศธรรมชาติ มองต้นไม้เขียวๆ 15 นาที จิบกาแฟเย็นหน่อย เข้ามาทำต่อ ไฟทำงานอาจลุกโชนยาวจนมืดค่ำเลยก็ได้
รู้ใจตัวเองให้ดี
ก่อนอื่นต้องสังเกตตัวเองว่าชอบสมาธิหลุดไปกับเรื่องไหนมากที่สุด เช่น นั่งทำงานอยู่ดีๆ ได้ยินเพื่อน 2 คน ข้างหลังคุยเรื่องละครหลังข่าวเมื่อคืน โอ้โห ใครจะอดใจไหว ขอวิจารณ์ด้วยคนสิ แบบนี้ให้ป้องกันได้วก่อนด้วยการใส่หูฟังเพลง ไม่ต้องสนใจเสียงคนอื่น อาการวอกแวกจะได้น้อยลง
ใช้เวลาคุ้มมั้ย?
ระหว่างทางกลับบ้าน ลองคิดดูเล่นๆ ว่า วันนี้เราใช้เวลาจากเรื่องนั้น น่าจะทำงานนู้นเสร็จไปอีก แต่ไม่ต้องเครียดถ้าทำได้ไม่ครบตามที่หวัง
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday