(Beauty Tips) :แตงกวา เพื่อความงาม 8 ประการ
แตงกวา เป็นผักที่เหมาะกับการกินยามอากาศร้อน เพราะมีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 96 ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ธาตุโพแทสเซียมและแมงกานีส ในเปลือกแตงกวาช่วยควบคุมความดันเลือดและสมดุลของสารอาหารใน
ร่างกาย ธาตุแมงกานีสช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และระบบขับ
ถ่าย มีพลังงานต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
แตงกวาเป็นมิตรแท้ของดวงตา บรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา ลบถุงดำใต้ตา ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวหน้าผุดผ่อง สดใส ป้องกันสิวและสิวหัวดำ มีสูตรทำเองได้ง่ายๆ มา
ฝาก ดังนี้
1. บรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา
หั่นแตงกวาเป็นแว่นตามขวาง หลับตาวางแว่นแตงกวาลงบนเปลือกตา นอนในที่เงียบแสงสลัวๆจะช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา ที่เกิดจากการใช้งานนานๆได้รับฝุ่นควัน แสงจ้า หรือใส่คอนแท็กเลนส์นานเกินไป
2. ลบถุงดำใต้ดวงตา
ใช้น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำคั้นมันฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ ทารอบดวงตา พักราว 15 นาที จึงล้างออก
3. ผิวหน้าผุดผ่อง
ใช้น้ำคั้นผลแตงกวาและนมสดปริมาณเท่าๆกัน เติมน้ำแช่กลีบกุหลาบ 2-3 หยด (เลือกดอกกุหลาบที่ปลูกอย่างปลอดสาร ใช้กลีบกุหลาบมากหน่อย น้ำไม่ต้องมาก วัตถุประสงค์ คือ ให้น้ำมันหอมจากกลีบกุหลาบออกมาอยู่ในน้ำ) ทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำให้ผิวหน้านุ่มและขาวขึ้น
4. ผิวหน้าสดใสสำหรับคนหน้ามัน
ใช้น้ำมะนาวเล็กน้อยและน้ำแช่กลีบกุหลาบ ผสมกับน้ำคั้นผลแตงกวา ทาบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน
5. ป้องกันสิวและสิวหัวดำ
ใช้เนื้อแตงกวาขูดฝอยพอกบริเวณใบหน้าและคอ ทิ้งไว้ 15?20 นาที ช่วยบำรุงผิว ใช้ บ่อยๆช่วยป้องกันผิวหน้าแห้ง ป้องกันการเกิดสิวและสิวหัวดำ
6. ลบรอยด่างดำ
การดื่มน้ำคั้นแตงกวา ร่วมกับการทาน้ำแตงกวาผสมน้ำแช่กลีบกุหลาบอัตราส่วนเท่าๆกัน ช่วยลดร่องรอยยุงกัด และลดรอยด่างดำบนผิวหนังได้
7. บำรุงผิว
ผสมน้ำคั้นแตงกวา น้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำแช่กลีบกุหลาบ กลีเซอรีน และน้ำผึ้งอย่าละเท่าๆกัน ใช้ทาผิว ช่วยให้ตึงกระชับ เพิ่มความอ่อนเยาว์
8. ลดรอยหมองคล้ำใต้รักแร้
ใช้น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และผงขมิ้นครึ่งช้อนชา หลังจากอาบน้ำเช็ดตัวให้ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณใต้รักแร้เป็นวงกลม หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวา น้ำมะนาว และผงขมิ้นให้เข้ากัน ทาใต้รักแร้
ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกและเช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ขอบคุณบทความจาก womaninfocus