'ฅน'ไม่พ้นกรรม
ตอนนี้อยากให้เน้นมากคือ...คนในปัจจุบันมีไม่น้อยเลยที่เห็นว่า...
ทำดีแล้วได้ชั่วแล้วได้ดีมันมาอย่างไร?...เรื่องนี้มันมีอยู่..'สองสูตร'
สูตรหนึ่งเขาเรียกว่า...'จุฬกัมมวิภังคสูตร' พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔
มีพูดถึงว่า...ทำอะไรแล้วได้อย่างนั้น เช่น คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจะทำ
ให้อายุสั้น คนเบียดเบียนสัตว์ ทรมานสัตว์แล้วมาเกิดจะมีโรคมาก
อันนี้ตรงตัว แต่มีอีกสูตรหนึ่งเขาเรียกว่า...'มหากัมมวิภังคสูตร'
อยู่เล่มเดียวกัน บอกว่าคนทำดีแล้วไปนรก คนทำชั่วแล้วไปสวรรค์
ในนั้นอธิบายไว้หมดเลย นี่ถ้าคนอ่านละเอียดจะแจ่มแจ้ง
ยกตัวอย่าง. กรรมบถ10 ไม่ใช่ศีล 5 ศีล 8 กรรมบถ10 ข้อหนึ่ง
คือ ไมฆ่าสัตว์ แล้วก็เรื่อยไปตลอดชีวิตไม่ฆ่าสัตว์เลย แต่ตอนที่จะ
ดับจิตไปหวนนึกถึงสิ่งที่ชั่วที่เลว แล้วเวลาตายจะไปเกิดในทางต่ำ
ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน นรกอะไรก็แล้วแต่
อันนี้เรามีตัวอย่างจริงในพระสูตร พระนางมัลลิกา มเหสีของพระเจ้า
ปเสนทิโกศล พระนางทำความดีไว้มากมาย ทานที่ว่าใหญ่ที่สุด
เรียกว่า...'อสทิสทาน' พระนางทำเป็นคนแรกคือ บริจาคอย่างละ
เจ็ดอย่างใหญ่ที่สุด พระเจ้าปเสนทิโกศลขนาดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ยังไม่ทำเลย เเล้วนางนึกถึงธรรมมีเรื่องอะไรปรึกษาธรรมตลอด
แต่ว่าถึงคราวที่นางจะตายกลับไปตกนรกเจ็ดวัน
เพราะเหตุที่ว่าครั้งหนึ่ง พระนางเข้าไปที่ซุ้มอาบน้ำและมีสุนัขตัว
โปรดรักกันมาก พระนางกำลังก้มอยู่ตอนนั้นจะเปลือยด้วยหรือเปล่า
ไม่รู้ สุนัขเลยเสพ พระนางก็คงยินดีเลยให้มันเสพ แต่ปรากฏว่า
พระเจ้าปเสนทิโกศลยืนอยู่สูงกว่าแล้วเห็น แล้วด่าเลย คนเลว!
ทำไมทำอย่างนี้
พระนางก็รีบกลับตัวทันที เพราะปฏิภาณที่เขาเรียกว่าฉลาดแกมโกง
ถามว่า...พระองค์ตรัสอะไร พระราชาบอกว่า อ้าว!ก็ที่กำลังทำอยู่
เดี๋ยวนี้ แล้วเล่าให้ฟังว่า พระองค์เห็นอะไร พระราชาบอกก็เห็นเธอ
น่ะเสพกับสุนัข พระนางบอกว่า พระองค์น่ะผิดแล้ว ซุ้มนี้เป็นซุ้มประ
หลาด ถ้าคนมาอยู่ในซุ้มนี้ คนที่อื่นมองมาจะเห็นเป็นอย่างนี้หมด
พระราชาถามว่าจริงหรือ
เผอิญว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นคนโง่ แล้วผลที่สุดนางก็โกหกว่า
ซุ้มห้องน้ำนี้มันประหลาดใครมาอยู่ตรงนี้แล้วเป็นอย่างนี้ทั้งหมด
ถ้าพระองค์ไม่เชื่อหม่อมฉัน เชิญเสด็จลงมาแล้วหม่อมฉันจะขึ้นไป
ข้างบน พระนางก็ขึ้นไป พระเจ้าแผ่นดินก็มาอยู่ที่นางล้างหน้า
ทันทีนั้น พระนางตบมือลั่นร้องว่า...มาดูเร็ว! พระราชาทำอสันถวะ
กับนางแพะ พระราชาเชื่อสนิทเลยคิดว่าจริง เลยทำลายซุ้มห้องน้ำ
นี้เสีย เพราะคิดว่าเป็นซุ้มอัปมงคล จึงสั่งรื้อแล้วทำใหม่
นี่เพราะกรรมนิดเดียวเอง พระนางทำบุญกับพระพุทธเจ้าตั้งมาก
มาย ฉลาดเฉลียว สามารถสอนพระเจ้าแผ่นดิน แก้ปัญหาให้หมด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบูชายัญ ฆ่าสัตว์ ทั้งคนด้วย เด็กหญิงเท่านั้น เด็ก
ชายเท่านี้ ฆ่าสัตว์อย่างละหลายพัน พระนางบอกทำไมไม่ไปทูลถาม
พระพุทธเจ้าก่อน แล้วก็สามารถพาไปเดี๋ยวนั้นเลย ผลที่สุดพอพระ
นางจะดับจิต บุญทั้งหลายมันมาไม่ทันหรือคิดไม่ถึงก็ไม่รู้ เสียใจ
ว่าเราไม่ควรมุสาพระเจ้าแผ่นดินเลย นี่ตัวมุสาตัวเดียว ตัวเสพไม่
เกี่ยว แต่ไม่จริงโกหกจนพระเจ้าแผ่นดินเชื่อ
มีคนกล่าวว่า...ถ้าคนรู้เทคนิคตรงนี้ก่อนเสียชีวิตไม่ได้ทำผิดอะไร
มาก ลักทำแบบจะไปจิกหัวคิว โอกาสเป็นไปได้น้อยมากที่สุด เพราะ
ว่าวิถีชีวิตประจำวันมันจะประทับจิตและจดจำ เช่นการทำมาหากิน
ถ้าหากจะมีอันนี้จะเป็นได้ก็จะมีโอกาสอันเดียวคือ.'สติกับสัมปชัญญะ'
คือถ้าหมายความว่า มีสติต้องไปเกิดสุคติ สุคติคืออะไร...มนุษย์
สวรรค์..สองชั้นนี้ไปได้ ถ้าหมายความว่าขณะจะดับจิตจะทำกรรม
อะไรไว้มากมาย จะไปเกิดสุคติก่อน แต่อย่าลืม ถ้าไปเกิดในสุคติ
แล้ว ถ้าไม่มีบุญหนุนจะอยู่ได้ไม่นาน แล้วก็จะกลับมาที่เดิมอีก ฉะนั้น
อย่าไปคิดลักหัวคิวกินตอนนั้นไม่สำเร็จ ไม่ได้ประโยชน์
แล้วอย่างหนึ่งในข้อเท็จจริง นี่เป็นความรู้สึกนะ ในตำราไม่มี ก่อน
ที่คนจะดับจิตไปมันจะดับไปตามลำดับ สังขารร่างกายจะไปก่อน
จิตจะไปสุดท้าย เขาบอกว่าประสาทอะไรมันจะหมดไปก่อน บางคน
ตามองไม่เห็นแต่ยังพูดรู้เรื่อง บางคนพูดก็ยังได้ยินอยู่ มันจะดับ
ไปหมด จะเอาอะไรไปคิด
มีเรื่องเขาเล่าว่า คนที่อ่างทองหรือที่ไหนจำไม่ค่อยได้ มีแม่ค้าคน
หนึ่งหากินทางปลา อีกคนหนึ่งทางหอย หน้าแล้งแกจะขุดหอยตาม
บึงตามที่ต่างๆมาส่งที่เยาวราช ขึ้นภัตตาคารที่ราคาแพง แกก็หา
กินมาตั้งนาน ใครหาไม่ได้แต่แกหาได้ ตรงไหนมีเดี๋ยวไปขุดเอามา
ได้...ปรากฎว่าเมื่อใกล้ตาย ลูกสาวเป็นห่วงกลัวแม่จะตกนรกไปได้
รับทุกข์ทรมาน ก็โบราณเขาให้บอกว่า..'อะระหังๆ' ใช่ไหม ก็กระ-
ซิบแม่ที่หู ใกล้จะขาดใจแล้วแต่ยังได้ยินอยู่ แกท่องไปเรื่อยตอนแรก
ว่า...'อะระหัง' ตอนหลังๆเป็น'อะระหอยๆ' เพราะจิตไปประหวัดถึง
หอยตลอด
ส่วนอีกคนหนึ่ง ผู้หญิงเหมือนกันบอกแม่ให้นึกถึง..'อะระหัง'ไว้นะแม่
ตอนแรกบอก..'อะระหังๆ'ท่องไม่ชัดแกบอกว่า อะไรนะอีหนู...พระมี
หางด้วยหรือ กลับไปนึกถึงปลา เพราะแกฆ่าปลามาตลอด
ฉะนั้น โอกาสนี่ยากมาก อย่าดีกว่า...แต่ถ้าอยากจะได้ต้องฝึกสติใน
ปัจจุบันมากขึ้น อย่างน้อยถึงไม่มีใครบอกเราก็ดึงมาได้ เพราะอะไร
หรือ เพราะความชำนาญขึ้นเองโดยอัตโนมัติ แล้วมันจะคล่องเหมือน
คนเขียนหนังสือ ถ้าเราเริ่มหัดเขียนใหม่เป็นตัวที่ไหน อ่านมาก็ไม่รู้
เรื่องเลย เด็กบางคนยังเขียนกอไก่ เขียนข้างหลังไว้หน้า นี่เขียนใหม่
เขียนหัวก่อนแล้วค่อยเขียนหาง แต่ถ้าเขียนเป็นแล้วแป้บเดียว นี่
ฉันใดก็ดี...ฯ
~ธรรมรักษา~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์