ใคร..? จะชนะ.!
ใครจะชนะ
เชื่อไหมว่า.. คนทำดีในปัจจุบันนี้ มีอำนาจต่อรองในสังคมน้อย
ในยามที่เรายืนอยู่กลางทุ่งกว้าง ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ เราจะปลอดโปร่ง หายใจได้คล่อง แต่ถ้าหากมีกลุ่มควันอันเกิดจากเผาขยะลอยมาขับไล่อากาศอันบริสุทธิ์นั้นไป แล้วแผ่ขยายเข้าไปปกคลุมพื้นที่นั้นแทน ย่อมทำให้เรารู้สึกอึกอัด หายใจติดขัดจนแทบกระอักกระอ่วนไปหมด เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่ต่างกับกระแสบาปที่มีพลังมากมาผลักดันกระแสบุญออกไปจากใจ ความเป็นสิริมงคลและความเจริญในชีวิตก็พลอยมลายสิ้นไปด้วย แถมความชั่วร้ายต่างๆ ก็ยังเข้ามาแทนที่อีก
ชายคนหนึ่งทำความดีมาค่อนชีวิต แต่เขาต้องพบกับความหายนะต่าง ๆ ที่พัดกระหน่ำโหมชีวิดแทบปางตาย ด้วยเหตุเพราะกระแสบุญบาปที่เคยทำไว้ในอดีต ที่มันมีพลังเชี่ยวกรากรุนแรงยิ่งกว่ากระแสบุญที่มีอยู่
ในจิตใจของมนุษย์มีพลังงาน 3 อย่างได้แก่
พลังแห่งกุศลธรรม (กระแสบุญ)
พลังแห่งอัพยากฤต (กระแสเป็นกลาง) และ
พลังแห่งอกุศลธรรม (กระแสบาป)
ต่างก็คอยแย่งชิงเข้าครอบครองจิตใจมนุษย์อยู่ตลอดเวลา มนุษย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันถูกพลังแห่งอกุศลธรรมครอบคลุมจิตใจมากขึ้น คนใจบาปจึงมีมากตาม
ธรรมะย่อมชนะอธรรมจะเป็นจริงได้อย่างไร ถ้าหากฝ่ายธรรมะมีกำลังน้อย การพ่ายแพ้แก่อธรรม ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงเหมือนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ..
จริงอยู่บุญนั้นอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คอยส่งเสริม สนับสนุนให้เรามีสมบัติอันเป็นโลกิยะ (อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข) และโลกุตระ (มรรค ผล นิพพาน) เมื่อใดถ้ากระแสบุญมีพลังน้อย เราจะเอาพลังงานจากไหนมาผลักดันและเอาชนะกระแสบาปได้ สมบัติต่างๆ ที่เราปรารถนาจะมีมาอย่างไร ด้วยเหตุนี้เอง พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนให้หมั่นทำบุญบ่อยๆ แม้เพียงเล็กน้อย เหมือนตุ่มน้ำย่อมเต็มด้วยการตกลงของหยดน้ำทีละหยดฉันนั้น
สามเณรติสสะ ศิษย์ของพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรอายุเพียง ๗ ขวบ
บวชวันแรกก็ออกบิณฑบาตได้ของมาต้องพันอย่าง ผ้านุ่งห่มตั้งพันผืนภายในวันเดียว เพราะใครเห็น ใครก็รัก เนื่องจากบุญเก่าที่ทำมาดี จึงมีพลังมากได้ตามมาส่งผล หรือในช่วงฤดูหนาว ภิกษุทั้งหลายไม่มีผ้าขนสัตว์ห่ม สามเณรเข้าไปในเมืองก็สามารถบอกบุญผ้าขนสัตว์ซึ่งหาได้ยาก
สามารถนำมาถวายแด่พระภิกษุได้ภายในวันเดียว ดังตัวอย่างมีพ่อค้าคนหนึ่งถูกความตระหนี่ครอบงำจิต เพราะถูกคนใจบาปชี้นำและพูดขัดขวางชวนให้เลิกถวายและให้นำผ้าไปซ่อนเสีย ด้วยเกรงว่าสามเณรจะมาขอบริจาค แต่ครั้นเมื่อได้เห็นสามเณร ก็กลับเปลี่ยนใจถวายผ้าราคาตั้งแสน จำนวน ๒ ผืน ทั้งๆ ที่สามเณรยังไม่ได้พูดอะไร
ขณะเดียวกันพ่อค้าคนนั้นยังกล่าวด้วยความปิติอีกว่า เมื่อได้เห็นสามเณร อย่าว่าแต่ผ้าราคาตั้งแสนเลย แม้ดวงหทัยของเรา เราก็พร้อมจะควักสละให้ได้ นี่ก็เป็นเพราะกระแสบุญที่มีพลังมากกว่ากระแสบาปนั่นเอง
กระแสบุญจะชนะกระแสบาปได้นั้นต้องสร้างคนดี คนมีบุญให้เกิดขึ้นในโลกให้มากที่สุด
ขอขอบคุณ : ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
โดย พรพมสุโภ
จาก ธรรมะดอทเน็ท