เตือน มดคันไฟ อิวิคต้า พิษร้ายกัดถึงตาย

เตือน มดคันไฟ อิวิคต้า พิษร้ายกัดถึงตาย


คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยข้อมูลล่าสุดของมดคันไฟตัวใหม่ “อิวิคต้า”ที่กำลังแพร่พันธุ์เข้าสู่เอเชีย มีพิษร้ายทำให้หมดสติและถึงขั้นเสียชีวิตได้


รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า มดคันไฟตัวใหม่ หรือ มดคันไฟอิวิคต้า (Solenopsis invicta) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาได้แพร่กระจายไปเกือบทั่วโลก และเริ่มขยายพันธุ์เข้ามาในเอเชียเมื่อสองถึงสามปีนี้พบได้ในไต้หวันและ ฮ่องกง และคาดว่าจะเข้ามาสู่ประเทศไทยในไม่ช้านี้


"มด คันไฟ อิวิคต้าสามารถปรับตัวและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จนประเทศที่มีการระบาดของมดคันไฟอิวิคต้าต้องมีการจัดตั้งศูนย์เตือนภัยขึ้น มาเพื่อยับยั้งการขยายพันธุ์ บรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่โดนต่อย และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการกัดกินพืชผักต่าง ๆ มดคันไฟอิวิคต้าชอบสร้างถิ่นอาศัยบริเวณที่มีน้ำไหลเวียน มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 550 มิลลิเมตร / ปี อาทิ พื้นที่การเกษตรสวนป่า ทุ่งหญ้า ฝั่งแม่น้ำลำคลอง ชายฝั่งทะเล ทะเลทราย และสนามกอล์ฟ มักสร้างถิ่นอาศัยแบบเป็นรังหรือเป็นจอมโดยใช้ มูลดิน ซึ่งจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 เมตร ความสูงประมาณ 4 – 24 นิ้ว"


โดย ส่วนมากมดคันไฟที่มีอยู่ในไทย จะสร้างรังเรียบ ๆ กับพื้น ไม่มีจอม และมีจำนวนประชากรมากถึง 500,000 ตัวต่อรัง ขณะที่มดคันไฟธรรมดาจะมีเพียง 10,000 ตัวต่อรัง สำหรับรูปร่างหน้าตาภายนอกของมดคันไฟอิวิคต้านี้แทบจะไม่มีความแตกต่างจากมด คันไฟที่พบเห็นในประเทศไทย แต่จะมีผิวลำตัวเรียบและสดใสกว่า


รศ.ดร.เดชา ชี้แจงเพิ่มเติมถึงวิธีการสังเกตมดคันไฟ "อิวิคต้า"


"ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีฟันตรงกลางริมฝีปากบน ซึ่งส่วนใหญ่จะมองด้วยตาเปล่าไม่ค่อยเห็นต้องอาศัยแว่นขยายช่วย มด คันไฟตัวใหม่นี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศเพราะอาณาจักรของมดชนิดนี้ชอบ ทำลายอย่างมาก พวกมันจะคลอบคลุมอาณาเขตบ้าน เนื่องจากมดชนิดนี้มีจำนวนมากและรุกราน การขาดศัตรูธรรมชาติจึงทำให้ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มดคัน ไฟตัวใหม่นี้จะเข้าโจมตีไข่ นก และสัตว์เลื้อยคลานที่อายุน้อยจำนวนมาก และในพื้นที่ที่มีมดชนิดนี้สูงมากจะเข้าทำลายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น พวกสัตว์ฟันแทะ และยังล่ากลุ่มผึ้งที่หากินเดี่ยว ๆ


.. เหล็กในจากมดชนิดนี้มีพิษสะสมทำให้เกิดอาการไหม้และคันอย่างรุนแรง พิษจะออกฤทธิ์อยู่นานเป็นชั่วโมงและเป็นเม็ดตุ่มพองซึ่งกลายเป็นหนองสีขาว เมื่อตุ่มหนองนี้แตกก็สามารถมีแบคทีเรียเข้าไปและเป็นแผลเป็น บางคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงจะก่อให้เกิดอาการหมดสติและเสียชีวิตได้"


ทั้ง นี้ จากการรายงาน พบว่า ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกามีประชาชนประมาณ 25,000 คน ที่ต้องหาหมอเพื่อรักษาจากการโดนต่อยของมดชนิดนี้ และด้วยวิธีการโจมตีเหยื่อแบบรุมต่อยเป็นร้อยๆ ตัว ทำให้เหยื่อที่มีขนาดไม่ใหญ่มากได้รับบาดเจ็บถึงขั้นวิกฤติได้เลยในสหรัฐ อเมริกา


มดชนิดนี้สร้างความเสียหายทางการเกษตรได้ในวงกว้าง ด้วยการเข้าไปทำลายระบบรากของพืช เช่น ถั่วเหลือง พืชตระกูลส้ม ข้าวโพด กะหล่ำ มันฝรั่งถั่วลิสง ทานตะวัน ข้าวฟ่าง มะเขือ ถั่วเขียว เป็นต้น และทำความเสียหายในเครื่องมือการเกษตร สัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า พื้นที่สาธารณะ อุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ รถยนต์


"ปัจจุบันมดชนิดนี้สร้างความเสียหายมากกว่า 320ล้านเอเค่อร์ ใน 12 รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและเปอร์โตริโก้ อย่างไรก็ตามในอเมริกามดคันไฟชนิดนี้เป็นตัวห้ำหั่นที่ดีเยี่ยมในธรรมชาติและเป็นการควบคุมทางชีววิธีสำหรับศัตรูพืชหลายชนิด เช่น หนอนเจาะต้นอ้อย มวนที่เป็นศัตรูข้าว แมลงหางหนีบ เพลี้ยอ่อน ด้วงงวง หนอนคืบถั่วเหลือง หนอนกินใบฝ้าย ต่อสน แต่มดชนิดนี้ก็ยังเป็นตัวทำลายแมลงพวกผสมเกสร เช่น ผึ้งที่สร้างรังใต้ดิน และยังกินเมล็ด ใบ ราก เปลือก น้ำหวาน น้ำเลี้ยง เชื้อรา และมูลต่าง ๆ เป็นอาหารด้วย ซึ่งจะสร้างมูลค่าความเสียหายต่อ อุตสาหกรรมการเกษตรนับพันล้านบาทต่อปี


ขณะ นี้มีแนวโน้มสูงที่มดคันไฟชนิดนี้จะเข้ามาในประเทศไทยด้วยการติดมากับเรือ สินค้าหรือการขนส่งอื่น ๆ ดังนั้นหากพบให้รีบทำลายหรือส่งตัวอย่างมาให้นักวิชาการตรวจก่อนที่จะแพร่ พันธุ์ในประเทศไทย" รศ.ดร.เดชา กล่าวทิ้งท้าย


ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการอนามัย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์