
กล่องข้าวที่หายไป

ผมนำ “กล่องข้าว” ไปกินที่โรงเรียนครั้งแรกตอน ม.1 เหตุผลสำคัญจริงๆ ก็คือทำตามเพื่อน
ใน ชั้นเรียนนั้นมีเพื่อนนำอาหารมากินตอนพักเที่ยงกันกว่าครึ่งห้อง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีทั้งที่ใส่ปิ่นโต ใส่กล่อง และบางคนใส่ห่อมาก็มี
เมื่อถึงเวลาพักก็เอามาแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันกิน ถามเพื่อนว่าทำไมเอาข้าวมากิน ส่วนใหญ่บอกว่าซื้อกินเองแพง ไม่มีเงินพอ บางคนบอกว่าอาหารที่โรงอาหารไม่อร่อย กินของแม่อร่อยกว่า เลยนำอาหารที่บ้านมาเอง และบางคนเห็นเพื่อนกินข้าวกล่องกันเยอะๆ ดูแล้วสนุกดี แถมบางคนก็เป็นเพื่อนสนิท ไม่อยากจะแยกกัน ก็เลยเอามากินเป็นเพื่อนด้วย
ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มหลังนี้ ที่บ้านมีปิ่นโตอยู่แล้ว แต่ผมไม่สะดวกกับการหิ้วปิ่นโต เพราะบ้านอยู่ต่างอำเภอ ขณะที่โรงเรียนอยู่ในตัวจังหวัด ถ้าต้องหิ้วปิ่นโต และโหนรถสองแถวด้วยคงลำบากแม่จึงซื้อกล่องข้าวอันใหม่ให้จำได้ว่าเป็นกล่องสีฟ้า ข้างในนอกจากมีพื้นที่ใส่ข้าวแล้วยังแบ่งเป็นช่องเล็กๆ ใส่อาหารได้ถึง 3 ช่อง สำหรับบางคน การห่อข้าวเป็นความสะดวกและเรียบง่าย
แต่กับผมไม่ใช่เพราะที่บ้านปกติ จะซื้ออาหารสำเร็จมาทาน
เนื่องจากแม่ผมไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายด้วยโรคมากมายรุมเร้า ทั้งโรคหัวใจ โรคความดัน โรคอ้วนและไขมันในเส้นเลือดสูง แต่ผมไม่อยากจะซื้อแกงถุงสำเร็จรูปเพราะธรรมเนียมของการกินข้าวกล่องที่โรงเรียน คือต้องเป็นอาหารที่ทำมาจากบ้าน มีการชื่นชมและอวดฝีมือของแม่ๆกัน ถ้าซื้อแกงไปก็เสียฟอร์ม
เมื่อผมบอกแม่ว่าอยากได้อาหารที่แม่ทำเองไปอวดให้เพื่อนเห็นฝีมือบ้าง ท่านก็ยิ้มรับคำ
จากนั้นทุกเช้าแม่จะต้องฝืนสังขารลุกขึ้นมาหุงข้าวเตรียมอาหารให้
ปัญหาต่อมาคือ ตอนเด็กๆ ผมไม่กินผัก และไม่กินพวกไข่ต้ม ไข่เจียว แม่จึงต้องทอดไก่ ทอดเนื้อ
หรือทำแกงต่างๆ ให้ ซื่งต้องใช้เวลาและขั้นตอนต่างๆ นานพอสมควร แต่กระนั้น
ทุกเช้า “กล่องข้าวสีฟ้า” ของผม ก็ถูกเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยเสมอ
แต่แล้วกินข้าวกล่องอยู่ได้ไม่นานนักผลก็ล้มเลิกโครงการนี้ เพราะรู้สึกอึดอัดกับคำถามและสายตาของคนรอบข้างเพราะเริ่มเป็นวัยรุ่น จึงอายที่จะถูกมองว่าเป็นเด็กที่ห่อข้าวมากินเพราะความยากจน
เมื่อกลับมาบอกยอกเลิกที่บ้าน โดยบอกเหตุผลว่าอายเพื่อนนั้น แทนที่แม่จะโล่งใจเพราะไม่ต้องเหนี่อยอีก ท่านกลับอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา และจากวันนั้นมา ผมก็ไม่สนใจอีกว่าแม่จะเก็บกล่องข้าวสีฟ้าไว้ที่ไหน
...แม่ตายตอนผมเรียน ม.6 ไม่ทันอยู่จนเห็นผมเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยทำงาน
และมีครอบครัว ตามที่ท่านอยากจะเห็น เราย้ายบ้านอีกหลายครั้ง ทั้งข้าวของและคนในครอบครัวเริ่มกระจัดกระจายพลัดพรากกันไป
ไม่ใช่แต่เพียงกล่องข้าวใบนั้นหรอกที่หายไป ความทรงจำหลายอย่างก็สลายสูญ ขณะที่ชีวิตของผมก็ต้องดำเนินต่อไป
...สองสามเดือนมานี้ ผมเริ่มทดลองที่นำอาหารจากบ้านใส่กล่องไปทานทำงานตอนพักเที่ยงแล้วก็ได้พบว่า นอกจากจะได้ทานอาหารแนวสุขภาพที่เราควบคุมได้เต็มที่เพราะทำเองแล้วยังสามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก ซึ่งภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ค่อนข้างมีความจำเป็น
น่าแปลกที่การนำข้าวกล่องมากินครั้งนี้ผมไม่อายสายตาคนรอบข้างอีก หลังผ่านวันเวลาของชีวิต ผมเรียนรู้ว่า ถ้ากระทำในสิ่งที่มีเหตุผมพอก็ไม่ต้องเกรงว่าใครจะหมิ่นหยาม
ความหวั่นไหวมักจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเริ่มดูถูกตัวเองต่างหาก เช้าวันนี้ ผมมองดูภรรยาจัดเตรียมอาหารใส่กล่อง แค่ผัดผักบุ้งไฟแดงและปลาทูนึ่งสองตัวก็คงพออิ่มสำหรับมื้อเที่ยงร่างเล็กๆนั้นเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งบริเวณครัวอย่างกระฉับกระเฉง ทั้งๆที่เธอเองก็เพิ่งฟื้นไข้มาไม่นานนัก
ผมพลันหวนนึกถึงแม่ วูบขึ้นมา
เห็นภาพหญิงอ้วนวัยกลางคน ซ้อนทับอยู่กับภาพหญิงสาวร่างเล็กเบื้องหน้า แล้วน้ำใสในดวงตาผมก็ท้นเอ่อออกมา...
มองกล่องข้าวสีขาวเบื้องหน้า ผมพลันรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่า “กล่องข้าวสีฟ้า” ที่เคยคิดว่ามันหายไปแล้วนั้น แท้จริงมันไม่ได้หายไหนเลย
เพียงแต่ผมค้นหามันพบช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง....

ขอบคุณมุมไทย
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday