ของดี..มีอยู่แล้ว.!
ของดี..มีอยู่แล้ว
ชีวิตในช่วงทารก บริสุทธิ์ไร้เดียงสา เราจึงมีความสุข.....
เพราะเป็นช่วงชีวิตที่ปลอดจากความคิดความวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อเจริญเติบโตมาเรื่อยๆ สิ่งแวดล้อมได้หล่อหลอมชีวิต
ทำให้เรามีความคิดมากขึ้น ยิ่งมีอายุมากภารกิจก็มีมาก
และทำให้เกิดพันธนาการชีวิตมากมาย
จนทำให้เราลืมความสุข ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาในวัยเด็กอย่างสูญสิ้น
สังคมปัจจุบัน ชีวิตถูกกำหนดให้มีการแข่งขัน หรือมีความรู้สึกว่าเราจะต้องเป็นเลิศเป็นที่หนึ่ง
ความคิดก็มากขึ้นกว่าปกติ ยิ่งถูกหล่อหลอมให้แข่งขันที่เกี่ยวพันในสังคมโลกและมีผลกระทบมาถึงเรา
ทำให้เรามีความคิดเพิ่มพูน แม้เวลาพักผ่อนก็ยังเอาความคิดไปคิดต่อ
และหากคิดด้วยใจที่ฟุ้งซ่าน ปัญญาก็ไม่เกิด
ทำให้กลุ้มหนักขึ้นไปจนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ชีวิตดังกล่าวนี้จึงตกอยู่ในอิทธิพลของความคิด ที่มีความเครียดสั่งสมเพิ่มพูนตลอดเวลา
เป็นชีวิตที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน ไม่มีความสุข แล้วเราจะทน....ทรมานตนไปทำไม?
จะปล่อยให้ความทุกข์ทับทวีเหมือนดอกเบี้ยในธนาคารที่พอกพูนขึ้นทุกวัน
เป็นทุกข์กินเปล่าในชีวิตอยู่ร่ำไป
เพื่อให้เกิดความสว่างสามารถขจัดความมืดในห้องนั้นให้หมดสิ้นไป ของดีมีอยู่แล้วในตัวเอง
ถ้าเราลองย้อนยุคกลับไปสู่วัยเด็กน้อยไร้เดียงสา ซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดจากความวิตกกังวล
แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายความนึกคิดที่มีมาให้ลดหายจนละทิ้งหมดสิ้นไป
ด้วยการกำหนดใจ ... ไว้ที่กลางกายภายในตน ประคองใจให้หยุด...นิ่ง
อย่างนุ่มนวลละมุนละไม อย่างต่อเนื่องโดยปลอดจากความคิดวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
ไม่ช้าใจก็จะหยุดนิ่ง...รวมถูกส่วน ในที่สุดใจก็จะหลุดจากความคิดทั้งมวล
เสมือนดอกไม้ที่เบ่งบานกำลังคลี่ขยายกลีบทีละน้อยๆ ออกไป
ใจที่ปลอดจากความคิดวิตกกังวล กายจะเบา จิตใจโปร่งโล่งเบาสบาย
อาการอย่างนี้ที่เรียกว่า เบิกบานโดยไม่ต้องเบ่ง
ใจจะขยายความสุขอารมณ์สบาย ไปรอบตัวทุกทิศทุกทาง
เมื่อความบริสุทธิ์เต็มที่ ไม่ช้าก็จะเกิดแสงสว่างในดวงจิต
ความสุขก็เพิ่มพูนทับทวียิ่งขึ้น เพราะสิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวเรา
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
ธรรมะ ดอทเน็ท
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!