เปลี่ยนคนรักให้เป็นเพื่อน
เมื่อถึงวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เคยรักกันที่สุดต้องสะดุดหยุดลงด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม คนเคยรักกัน จะเปลี่ยนแปรสถานภาพเป็น คนอื่น ที่เฉยชา ห่างเหิน และไม่เข้าใจกันเลยเชียวหรือ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนมาเป็น เพื่อนที่ดีต่อกันและถ้าเป็นเช่นนั้นได้จริงจะดีอย่างไร
แต่ถ้าลองพิจารณาดูให้ดีแล้ว ถ้าไม่มีสาเหตุใดร้ายแรงถึงขั้นต้องเลิกคบกันไปเลย เราก็น่าจะยังคบหาเป็นเพื่อนกับคนที่เคยรักกันได้ แถมน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกว่าเพื่อนคนอื่นเสียด้วยซ้ำไป
คนพิเศษที่ได้เรียนรู้กันแล้ว
คนรักคือคนที่พร้อมจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของกันและกัน เป็นคู่ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่ โดยเฉพาะในทางกฎหมาย เมื่อผ่านการจดทะเบียนสมรสแล้ว ถือว่าคนสองคนนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันเลยทีเดียว
แล้วที่จะเป็นเช่นนั้นได้แสดงว่าจะต้องใช้เวลาเรียนรู้จนเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีมาแล้ว ซึ่งในขณะที่ความรักยังสดใสคงไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดว่าเป็นการสูญเสียหรือสิ้นเปลืองเวลาแต่อย่างใด
แต่ทว่าวันหนึ่งเมื่อสัมพันธภาพขาดสะบั้นลง จะมีใครคิดบ้างไหมว่า ช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันจนรู้จักกันอย่างลึกซึ้งนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
หากเขาไม่เหมาะที่จะเป็นคนรักของเราจริง ๆ ก็น่าจะยังพอคบหาสมาคมเป็นเพื่อนฝูงกันต่อไปได้ไหมเพราะเราต่างก็ได้ใช้เวลาศึกษาตัวตนกันมาแล้วระยะหนึ่ง
ทุกวันนี้ หลายคนเฝ้าเสาะหาเพื่อนใหม่ ผู้คนจำนวนมากเลือกหาวิธีการที่จะได้พบได้รู้จักผู้คนใหม่ ๆ เพื่อมาเป็นเพื่อน ทั้ง ๆ ที่เมื่อรู้จักกันแล้วก็ต้องมาศึกษาเรียนรู้กันอีกตั้งมากมาย
แล้วคนที่เราได้เรียนรู้แล้ว แถมยังเคยคิดหรือเตรียมการเอาไว้ว่าเขาจะเป็นคนที่เราจะใช้ชีวิตคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปตลอดชีวิตล่ะ เราจะทิ้งเขาไปเหมือนขยะที่ไม่มีคุณค่าใด ๆ เลยหรือ
เดี๋ยวนี้แม้แต่ขยะก็ยังนำกลับมารีไซเคิลทำประโยชน์อื่นได้เลย นับประสาอะไรกับคนคนหนึ่ง แถมยังเป็นคนที่เราเคยรู้จักลึกซึ้งเป็นอย่างดีด้วย
การสูญเสียเขาจากความเป็นคนรักอาจจะเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่การทิ้งเขาไปเปล่า ๆ น่าจะถือเป็นความสูญเสียที่มากมายพอสมควรสำหรับคนที่รู้จักกันอย่างดีแล้ว
เลิกคิดอย่างคนรัก
เมื่อครั้งเป็นคนรักกัน แน่นอนว่าเราต้องตั้งความหวังในตัวเขาไว้มากมาย แถมบางอย่างอาจสูงเลิศเลอเสียด้วยซ้ำไป แต่เมื่อไม่ได้เป็นคนรักกันแล้ว เราก็ไม่ได้ไปคาดหวังให้เขาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ตามที่เราต้องการอีกต่อไป จึงน่าจะปรับเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยาก
ไม่ว่าเขาจะมาสายปล่อยให้เรารอจนก้นชา หรือทำตัวเปิ่นเฉิ่มอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเหมือนครั้งที่เป็นคนรักกันแล้ว
ลองคิดดูว่าใครจะไปเสียหน้าถ้าเพื่อนพูดจาไร้สาระเมื่ออยู่ต่อหน้าธารกำนัล ใครจะไปเดือดร้อนกับเพื่อนที่ใส่เสื้อยับเหมือนไม่ได้รีดหรือผมยุ่งกระเซิงตลอดเวลากันเล่า แม้แต่วันสำคัญหรือโอกาสพิเศษ
ถ้าตอนที่รักกันอยู่ละก็ เราคงจะทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ ทั้งอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่างผสมปนเปกันเป็นค็อกเทลรสชาติไม่ได้เรื่องอยู่ในหัวใจ แต่พอเขากลายเป็นเพื่อนแล้ว ถึงจะลืมอย่างไรก็ช่าง เพื่อนลืมก็ทวงเอาได้ตรง ๆ เลย ไม่เห็นต้องคิดมาก
คนเคยใกล้ชิดที่รู้ใจกว่า
คนรักกันย่อมเป็นคนที่ใกล้ชิดกันมาก ๆ หรืออย่างน้อยก็ใกล้ชิดกว่าคนอื่นในบางแง่มุม ซึ่งไม่ได้หมายความถึงเฉพาะความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่หมายรวมถึงความเข้าใจในจุดละเอียดอ่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางอารมณ์และความรู้สึกบางประการที่คนทั่ว ๆ ไปไม่เข้าใจ หรือไม่แม้แต่จะเคยรับรู้
แม้ว่าเพื่อนที่มีอยู่จะสนิทสนมกันมาก หรือเป็นเพื่อนที่คอยรับรู้เรื่องราวของเราทุกเรื่องก็ตาม แต่จะมีสักกี่คนที่คอยง้องอน ดูแลเอาใจใส่ หรือแม้แต่คอยปรนนิบัติพัดวีให้
ที่สำคัญก็คือ เพื่อนมักไม่รู้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น เพื่อนมักไม่รู้หรอกว่าเวลาเราเศร้าควรทำอย่างไร เวลาเสียใจเรื่องนี้ต้องทำอย่างโน้น เวลาเสียใจเรื่องโน้นต้องทำอย่างนั้น แต่แฟนหรือคนรักผ่านกระบวนการการเรียนรู้มาแล้วด้วยประสบการณ์โดยตรง จุดนี้จึงน่าจะเป็นข้อได้เปรียบ
เป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง
เพื่อนที่เปลี่ยนสถานะมาจากแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้วมักจะเป็นที่ปรึกษาที่ดี โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจและความรัก เพราะเขาเองเคยอยู่ในสถานะเช่นนั้นด้วยตัวเองมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน ก็ลองแต่งตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจเสียเลยเพื่อที่เราจะได้ทำความเข้าใจกับความสัมพันธครั้งต่อ ๆ ไปได้ง่ายขึ้น
ปัญหาที่ที่ปรึกษาคนนี้ถนัดนักหนาเห็นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัมพันธ์ภาพระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว ที่เราอาจจะไปพบพานซ้ำรอยเข้าอีกเป็นรอบที่ 20 หลังจากเลิกราจากเขาไปแล้ว แต่ก็ยังคงแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ หรือวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้ามไม่ถูกต้องเสียที
จึงจำเป็นต้องใช้แฟนเก่าที่เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนคนนี้ให้คุ้ม และก็คุ้มจริง ๆ เพราะเขาจะรู้ปัญหาและสถานการณ์ดีราวกับเป็นแม่ของเราก็ไม่ปาน ยิ่งเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับแฟนใหม่หรือหนุ่มรายใหม่ของเราละก็
บางครั้งไม่ต้องเล่ารายละเอียดมากมาย แค่เกริ่นนำเพียงคร่าว ๆ เท่านั้นเพื่อนคนนี้ก็เข้าใจละเอียดราวกับว่าไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์กับเราและแฟนใหม่ด้วยอย่างนั้นเลย
ที่สำคัญเขายังสามารถแนะนำเราได้อย่างดีว่า “เธอไม่ควรจะทำอย่างนี้นะ” หรือ “เธอต้องพูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้สิ” แถมบรรยายร่ายยาวได้เป็นฉาก ๆ ว่าที่เราทำอย่างนั้นอย่างนี้มันไม่ดีอย่างไร หนุ่มรายใหม่เขาจะรู้สึกอย่างไร ก็เขาเคยทั้งทำเองโดนมาเองแล้วทั้งนั้นนี่นา
ดังนั้น หากเลิกกับแฟนหรือคนรักรายล่าสุดเมื่อไหร่ละก็ หาทางเก็บเขาไว้เป็นเพื่อนเอาไว้ดีกว่าปล่อยให้สูญเสียคนรู้ใจไปเปล่า
บทความจาก mcot