ขำขัน : ยุคสมาพันธ์เฟื่องฟู
เดี๋ยวนี้กิจกรรมหรืธุรกิจต่างๆเริ่มมีการรวมตัวเป็นสหกรณ์ หรือสมาพันธ์เพื่อการจัดสรรผลประโยชน์ให้เป็นธรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอ้อย เรื่องแท็กซี่ หรือเรื่องอื่นๆ บุญจ้อย หนุ่มนักเคลื่อนไหวมวลชนได้ไปทำการเผยแพร่หลักการและรณรงค์ให้มีการรวมตัวแบบสมาพันธ์ในจังหวัด แห่งหนึ่ง ครั้นตกเย็น เขาออกไปเที่ยวในแหล่งโลกีย์ เขาไปยังบ้านโสเภณีแห่งหนึ่ง เขาเจอหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยถูกใจจึงเดินไปหามาม่าซัง
บุญจ้อย : ผู้หญิงที่นี่ได้มีการรวมตัวเป็นสมาพันธ์หรือเปล่า ?
มาม่าซัง : เปล่า ที่นี่เราไม่มีสมาพันธ์
บุญจ้อย : อ้าว แล้วอย่างนั้นที่นี่แบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร ? ติ๊งต่างว่าผมจ่ายค่าบริการ 1,000 บาท ผู้
หญิงจะได้กี่บาท และที่ร้านจะได้กี่บาท ?
มาม่าซัง : อ๋อ เราแบ่งให้ผู้หญิง 200 บาท ส่วนเราจะเก็บไว้ 800 บาท
บุญจ้อย : โห เอาเปรียบมากนะ มันไม่ยุติธรรมเลย ผมไม่ใช้บริการที่นี่หรอก
บุญจ้อยเดินออกจากบ้านนี้ไปด้วยความเสียดายในตัวหญิงสาวคนนั้น เขาไปอีกหลายบ้านก็เป็นในทำนอง
เดียวกัน ในที่สุด เขามาเจออีกบ้านหนึ่งที่มีหญิงสาวอายุ 18 สวยเป็นที่ถูกอกถูกใจของเขา
บุญจ้อย : ที่นี่มีการรวมตัวของผู้หญิงเป็นสมาพันธ์หรือเปล่า ?
มาม่าซัง : มี ที่นี่เรามีสมาพันธ์
บุญจ้อย : แล้วที่นี่แบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร ? สมมติว่าผมจ่ายค่าบริการ 1,000 บาท ใครได้เท่าไร ?
มาม่าซัง : อ๋อ เราแบ่งให้เด็ก 800 บาท เราเก็บไว้เพียง 200 บาท
บุญจอย : อืม์... ดีมาก งั้นผมจะออฟเด็กสาวคนนั้นไปค้างคืนกับผม
มาม่าซัง : อ๋อ ไม่ได้หรอก คุณต้องเอาแม่อ้วนคนนั้นไป เพราะกฏของสมาพันธ์ต้องเรียงลำดับตามอาวุโส