เตรียมรถก่อนเดินทาง เที่ยว “ปีใหม่”

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาล "ปีใหม่" เชื่อว่าหลายคนต่างมีโปรแกรมที่จะเดินทาง ไปยังสถานที่ต่าง ๆ  ทั้งใกล้และไกล วันนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" ได้รวบรวมเอาเทคนิคการเตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อน ออกเดินทางมาฝาก เพื่อให้ทุกสภาพการเดินทางในเทศกาลแห่งความสุขนี้เป็นไปอย่างราบรื่น

            เริ่มต้นตั้งแต่ การตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง ให้อยู่ในระดับ Upper และ Lower เสมอ น้ำมันเบรก ให้สังเกตว่าน้ำมันเบรกใสหรือมีสีเข้มเหมือนกาแฟ ถ้ามีสีเข้มเราแนะนำให้นำรถไปเปลื่ยนน้ำมันเบรกเพราะน้ำมันเบรกอาจเสื่อมสภาพและ   ทำให้เบรกจมหรือเบรกไม่อยู

            หม้อน้ำ เช็กระดับน้ำในหม้อน้ำก่อนสตาร์ตรถ ช่วงเครื่องเย็นน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง ถ้าคุณต้องเติมน้ำ ทุก ๆ อาทิตย์ให้นำรถไปตรวจรอยรั่วของหม้อน้ำก่อนเดินทาง สายพาน ควรเปลี่ยนสายพานถ้าเห็นรอยแตกตามสายพาน หรือเมื่อครบเวลา  5 ปี แม้สายพานจะดูปกติ

            น้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ให้อยู่ระหว่างระดับ Upper และ Lower เสมอ ต่อไปให้สังเกตวันที่ติดตั้งซึ่งทางร้านจะทำเครื่องหมายที่แบตเตอรี่ อายุการใช้งานจะอยู่ที่ 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา แบตเตอรี่บางยี่ห้อจะแจ้ง

            วันเดือนปีผลิตด้วย (ขึ้นต้นด้วย MFG) อย่าสับสนกับวันที่ติดตั้ง เพราะแบตเตอรี่ใหม่ที่ยังไม่ใช้จะมีอายุ 5 ปี จากวันที่ผลิต

           และเมื่อเกิดกรณีไม่คาดฝันหรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางนั้น หากเกิดปัญหาในช่วงกลางคืนบนเส้นทางที่เราไม่ คุ้นเคย จะมีวิธีใดที่จะช่วยให้เราเสียเวลา น้อยและปลอดภัย ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายทำประกันชั้นหนึ่ง ต้องขอแนะนำว่าคุณสามารถแยกย้ายไปก่อนโดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ประกันภัย โดยให้ฝ่ายที่ผิดเขียนในใบเคลม/ ใบ Knock ว่าตนเป็นฝ่ายผิดและจะรับผิดชอบพร้อมระบุจุดที่เสียหาย ทั้งสองฝ่ายควรจดทะเบียนของคู่กรณี ชื่อบริษัทประกัน และเลขที่กรมธรรม์ก่อนแยกย้าย

            กรณีที่รถของคุณหรือคู่กรณีเป็นประกันประเภทสอง 3+ หรือ 3 แนะนำว่า
 
คุณไม่ควรแยกย้ายก่อนเจ้าหน้าที่ประกัน จะมา หรือถ้าเราเป็นฝ่ายถูก ให้นำเอกสารของอีกฝ่าย (ใบเคลม) ติดต่อบริษัท    ประกันฝ่ายผิด เพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายภายใน 7 วัน และสอบถามอู่ในเครือประกันของฝ่ายผิดที่ใกล้บ้านคุณ หรือไปที่อู่โดยตรงก็ได้ นอกจากนี้ควรถ่ายเอกสารสำเนาทะเบียนรถเอาไว้เผื่อกรณีที่รถชนจนเจ้าหน้าที่ประกันภัยไม่สามารถเปิดฝากระโปรงหน้ามาหาเลขตัวถังรถยนต์จะช่วยให้ไม่เสียเวลา

            นี่เป็นวิธีเล็กน้อย ๆ ก่อนออกเดินทางที่เราไม่ควรจะละเลย เพราะหากเกิดกรณีที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อย่างน้อยเราก็ได้เตรียมความพร้อมไว้ระดับหนึ่ง