หนาวสุดขั้ว ร้อนสุดขีด ปรากฏการณ์ที่ต้องรับมือ
โลกของเราเป็นอะไรไปแล้ว...!!! จากที่เคยมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดู หน้าฝนเข้าหน้าหนาว จากหนาวเข้าร้อน แต่ปัจจุบันกลับไม่เป็นแบบนั้น ในวันเดียวกลับมีทุกฤดู ฝนตกปนหนาวปนร้อน สลับกันให้วุ่นวาย หนำซ้ำบางพื้นที่ “หนาว” ก็หนาวสุดขั้ว แบบที่ “ร้อน” ก็ร้อนจนเหมือนไฟเผา
ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนเช่นนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ของโลก ต้องเผชิญพายุหิมะและสภาพอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ ที่เผชิญฤดูหนาวยาวนานที่สุดในรอบอย่างน้อย 28 ปี มีอุณหภูมิทุบสถิติติดลบถึง 22.3 องศา ซึ่งพบยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศเลวร้าย ตั้งแต่ก่อนเทศกาลคริสต์มาสอย่างน้อย 22 ราย
...ประเทศสวีเดนก็ต้องเผชิญหน้ากับอากาศหนาวสุดที่อุณหภูมิลบ 30-40 องศา โปแลนด์มีผู้หนาวตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับยอดล่าสุดที่พุ่งไป 138 คนแล้ว ขณะที่ฟากฝั่งภาคกลางของสหรัฐก็คาดว่าจะหนาวจัดทำสถิติถึงลบ 45.58 องศา
เพื่อนบ้านเราอย่าง “ประเทศจีน” ก็โดนมรสุมนี้เช่นกัน...ที่ต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่มาเร็วและเย็นผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หิมะตกหนักทั่วตอนเหนือของประเทศ ขณะที่ภาคใต้ซึ่งปกติมีอากาศไม่หนาวนัก ก็มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และที่สำคัญกลับมีพายุหิมะกระหน่ำกรุงปักกิ่ง อุณหภูมิติดลบ 16.7 องศาเซลเซียส นับว่าหนักหน่วงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ประเทศอินเดียก็เช่นกันหลังพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน จากคลื่นความเย็นที่พัดผ่านภาคเหนือและตะวันออกของประเทศ ขณะที่หมอกหนาและอุณหภูมิลดลงต่ำถึงจุดเยือกแข็งในหลายพื้นที่...
ปรากฏการณ์ของสภาพอากาศในวันนี้ ไม่ได้มีเฉพาะความหนาวเย็นแบบสุดขั้วรอบหลายสิบปีในยุโรป สหรัฐ หรือจีนเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้าม ฝั่งซีกโลกเหนือหลายพื้นที่ อาทิ ประเทศแคนาดา กลับต้องพบกับความ "อุ่น" ขึ้นอย่างผิดปกติ เพราะแทนที่จะต้องเจอกับอุณหภูมิติดลบ 23 องศาในเดือนม.ค. อากาศในวันนี้กลับอยู่ที่เพียง 0 องศาเท่านั้น
ประเทศเราก็ไม่น้อยหน้า... จากสภาพอากาศในช่วงนี้ ที่มันควรจะหนาว แต่กลับร้อนอบอ้าว แถมฝนยังตกเอาเสียอีก แล้วทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร???
ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายราย ต่างออกมากล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจเกิดจาก “ภาวะโลกร้อน” ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ เพราะนั้นมีโอกาสทำให้สภาพอากาศเลวร้ายและสามารถเกิดได้บ่อยครั้งมากขึ้น เช่น คลื่นความร้อน พายุ อุทกภัย ภัยแล้ง หรือแม้แต่อากาศที่หนาวจัดก็ตาม หรือบางทีอาจเป็นเพราะ "ความแปรปรวนของขั้วโลกเหนือ" (Arctic Oscillation : AO) ที่อาจเป็นคำตอบของความผิดปกติของอากาศที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้
นอกจากนี้ในกรณีของประเทศไทย ยังมีการคาดการณ์ออกมาถึงเรื่องปรากฏการณ์เอลนินโญ ที่กำลังจะเกิดขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตามมา จากปรากฏการณ์ที่ผิวน้ำทะเลที่อุ่นบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ไหลไปแทนที่กระแสน้ำเย็นที่ไหลอยู่เดิมบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและบริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เอลนินโญจะทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะร้อนและแห้งแล้งมากที่สุดในรอบ 10 ปี และจะทำให้บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40-42 องศา โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็วในวันนี้ ส่งผลกระทบต่อทุกส่วนทั่วโลก ทั้งความหนาวจัดในซีกโลกตะวันตกและความร้อนจัดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศแถบศูนย์สูตรอย่างไทย โดยไม่มีใครหลีกเลี่ยงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้
เมื่อเราไม่อาจที่จะยับยั้งความความรุนแรงและอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้... แต่เราเองสามารถที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอนาคตได้ ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับธรรมชาติรอบๆ ตัวเราให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษา เริ่มจากการประหยัดและสร้างหัวใจรักสิ่งแวดล้อม ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา หากไม่ใช้ก็ควรปิดให้เรียบร้อย รวมไปถึงกระดาษก็ควรใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุด สามารถนำมารีไซเคิลได้ก็ต้องทำ ไม่ใช้อย่างฟุ่มเฟือยเพราะทรัพยากรเหล่านี้หากใช้ไปสักวันมันก็ “หมด” และจะยิ่งส่งผลกระทบให้ปรากฏการณ์ต่างๆ ทวีความรุนแรงขึ้นได้...
ที่สำคัญทุกคนจำเป็นต้องรักษาธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลายไม่ว่าจะกรณีใดๆ ไม่ทำอะไรที่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ทำอะไรที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทางน้ำและเสียงโดยเด็ดขาด.. ยังไม่หมดเท่านี้ เราทุกคนควรหันมาสร้างพฤติกรรมใหม่ๆ ด้วยการใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เพราะนอกจากจะรักษาสิ่งแวดล้อมแล้วยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย...
และที่จะลืมไปไม่ได้เลยนั้น เราควรเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วยการ มีนิสัยรักสุขภาพ เพื่อร่างกายแข็งแรง หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นผักผลไม้เป็นหลัก เพียงเท่านี้คุณก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ต่อให้อากาศแปรปรวนหรือเปลี่ยนแปลงแค่ไหนคุณก็รับมือไหว...