คบเพื่อนยังไง ไม่ผิดใจเรื่องแฟน
และเราก็จะคุยกับเพื่อน โดยใช้คำว่า ชั้นกับแก (ชั้นกับเธอ) หรือ กูกับมึง กันโดยไม่เคอะเขิน และไม่ค่อยคาดหวังว่าจะได้อะไรตอบแทนจากเพื่อนมากมายนัก เช่น ไม่ค่อยหวังให้เพื่อนมาซื้อของขวัญวันเกิดให้...เออ แต่ถ้าได้ก็ดี อ้าว! เพียงขอให้เพื่อนดีกับเราก็พอแล้ว
แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ทะเลาะกับเพื่อนซะเลยนะ อู้ย...ไม่อยากจะบอกว่าชนวนเหตุที่ทำให้เพื่อนกันเนี่ย มีปากเสียงจึงถึงขั้นทะเลาะตบตี เอ๊ย...มีความเห็นขัดแย้งกันน่ะ มีเยอะแยะจะตายชัก
ส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกันก็มีทั้งเรื่องมีสาระและ ไร้สาระ เช่น บางทีคุณชวนเพื่อนไปทานข้าว แต่เพื่อนยังติดธุระจึงบอกให้เดินไปก่อน แต่พอเพื่อนมาเห็นเราทานอาหารไปล่วงหน้าแล้วจริง ๆ ไอ้เพื่อนคนนี้ก็ดันเกิดไม่พอใจซะงั้น หาว่าไม่รอกัน ยังมีเลย เนี่ยมันไร้สาระแบบหยุมหยิมไหมล่ะ
ส่วนเรื่อง "รักแฟน" ยังต้องให้จาระไนกันอีกรึ? เพราะดูเหมือนแต่ละคนจะเชี่ยวชาญและชำนาญการในเรื่องเลิฟแฟนซะเหลือเกินนะ ยิ่งคู่ไหนเพิ่งเป็นแฟนกันด้วยละก็ โอ๊ย...อาการติดหนึบ, อยากเจอหน้ากันทุกวัน, อยากอยู่ด้วยกันทุกนาที และอยากจูงมือ (หรือแต๊ะอั๋ง) กันตลอดเวลา รู้สึกจะเป็น ไปตามสัญชาตญาณแห่งความเลิฟนี้โดยอัตโนมัตินะฮ้า
งั้นในเมื่อมนุษย์ทุกคนมีทั้งความรักเพื่อนและรักแฟน (แต่ใครจะมีแฟนหรือไม่มีแฟนนี่ยังไม่นับนะเฟ้ย) ดังนั้น เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์สังคม จึงควรมีกฎเกณฑ์มารยาทในการคบเพื่อนกับคบแฟนให้สมเหตุสมผล เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรของทุกฝ่าย ดังนี้สิจ๊ะ...
1. ถ้าเกิดคุณไปปิ๊งเลิฟคนคนเดียวกับเพื่อนเข้าละก็
ไอ้หยา...อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เด็ดขาดนะเฟ้ย เอางี้ละกันถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้ว่า เพื่อนของคุณเกิดไปสนอกสนใจใครสักคนขึ้นมา ซึ่งอาจเป็นคนเดียวกับคนที่คุณเองก็อยากคบหาและชวนมาเป็นแฟนเหมียนกันละก็ เห็นทีคุณต้องสลัดความรู้สึกชอบพอ "เค้าคนนั้น" ออกไปจากใจของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ซะแล้วล่ะ
แต่บางท่านคงอยากถามใช่ไหมล่ะ ว่าทำไมจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละด้วย? ในเมื่อ "ใครคนนั้น" ซึ่งเป็นคนที่ทั้งเพื่อนและทั้งคุณชอบเค้าน่ะ...ยังไม่ทันได้จ๊ะเอ๋, ได้คบหรือได้พูดคุยกับคุณเลย แล้วเผื่อคุณกับเค้าเข้ากันได้มากกว่าละ โอ๊ย หยั่งงี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคุณดิ...ใช่ปะ
โถ...หนูจ๋า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่บังเอิญคุณไปกิ๊กคนคนเดียวกับที่เพื่อนชอบ แต่เพื่อนคนนี้ดันสนิทสนมกับคุณอย่างมากมาก่อนแบบเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก โอ้... มายก็อดแม้จะทำใจลำบาก แต่เชื่อว่าสาว "ใจพระ" อย่าง คุณ ยังไง้
ยังไงก็ย่อมเลือกที่จะตัดใจมากกว่าจะไปแข่งกับเพื่อนจีบ "คนที่พวกคุณชอบ" แหง ๆ เพราะถ้าขืนประกาศตัวเป็น "คู่แข่งทางใจ" ละก็ คุณกัลเพื่อนยังจะคบกันได้อีกเรอะ คงเปลี่ยนไปเป็น "ศัตรูหัวใจ" กันมากกว่า แล้วคุณจะยอมเสียเพื่อนสนิทเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลย!
2. ถ้า "แฟนของเพื่อน" มากะลิ้มกะเหลี่ยคุณจงอย่าเล่นด้วยเชียว
เอ๊า มีนะที่แฟนเพื่อนสนิทของคุณ อาจเป็นพวกที่ไม่รู้จักพอ ขนาดเพื่อนของคุณแสนจะสวยน่ารักและเอาอกเอาใจเค้าแค่ไหน แต่เท่าที่ผ่านมาคุณก็รู้อยู่แก่ใจนั่นแหละ ว่าแฟนของเพื่อนเป็นคนเจ้าชู้มากแค่ไหน แถมจะไปเจ้าชู้ที่ไหนก็ไม่ไป ดันเล็งมาที่คุณซะด้วยแฮะ
เฮ้อ....ขืนเจอเข้างี้ ก็เข้าใจละนะว่า เหตุการณ์ทำนองนี้ย่อมทำให้คุณเก๊กซิมและไม่อยากจะเจอ "ไอ้แฟนบ้า ๆ ของเพื่อนคนนี้" เอาซะเลย แต่ด้วยความที่คุณยังต้องติดต่อกับเพื่อนของคุณอยู่ จึงหนีหน้ากันไม่ค่อยพ้น โอ๊ยโหยว หยั่งงี้เห็นทีเวลาคุณจะเจอเพื่อนเมื่อไหร่ จึงควรนัดเพื่อนให้ไปเจอกันตามลำพังโดยที่ไม่ให้เพื่อนพาแฟนมาด้วยละกัน จะได้สบายใจไปเปลาะนึง
อ้อ แล้วหวังว่า แฟนของเพื่อนจะไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว ไม่ว่าที่บ้านหรือเบอร์มือถือของคุณนะ เพราะไม่งั้นเค้าคงโทร.มาตื๊อและหวังหว่านเสน่ห์คุณ ก็ซวยอ่ะดิ
แล้ว...ไอ้แฟนเพื่อนคนนี้ก็บ้าว่ะ ทำอย่างกะโลกนี้ไม่มีใครที่มันจะแกล้งมาจีบเล่น ๆ ได้อีกแล้ว อื้อหือแบบนี้มันน่าจะโดนตบสั่งสอนสักเปรี้ยงนะ จะได้รู้ซะมั่งว่าไผเป็นไผ
ถามว่าเกิดกรณีเช่นนี้จะบอกเพื่อนให้รู้ตัวไหม? ถ้าเผื่อแฟนเพื่อนทำอะไรที่เว่อร์จนคุณรับไม่ได้ เช่น มาหาคุณถึงบ้าน, พยายามหว่านล้อมให้คุณไปเที่ยวด้วย หรือด่าว่าเพื่อนของคุณให้คุณฟัง ขืนเป็นงี้เห็นทีต้องบอกเพื่อนให้รู้ซะมั่งแล้วล่ะว่า แฟนของหล่อนมันหน้าไหว้หลังหลอกไงบ้าง เชอะ ในเมื่อไม่รักเพื่อนคุณจริงก็ต้องโดนแฉมั่งฮี่
3. สัญญากับเพื่อนซี้ไว้เลยว่า ถ้าต่างฝ่ายต่างมีแฟนก็อย่าลืมเพื่อนละกัน
ไม่ควรรักแฟนจนไม่ลืมหูลืมตารู้ป่าว แม้แฟนจะน่ารัก, น่าซบแต่เพื่อนก็ยังน่าคบนะยะ...จำไว้เซียะด้วย! แต่ก็มีเว้ยเฮ้ย ที่บางคน โธ่พอมีแฟนแล้วก็ลืมตัวมัวแต่ "ติดแฟน" ซะจนห่างเหินเพื่อน หรือบางคนอาการสาหัสกว่านั้นอีก ถึงกับเลิกคบเพื่อนไปเลยก็มี อู้ย...อย่าถึงกับบ้าแฟนหรือติดแฟนขนาดนั้นเลย เพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูงก็เป็น สิ่งที่ควรรักษาไว้ให้ดี อย่าลืมสิฮ้า