4 ท่า…ตีลังกาคิดให้ชีวิตงาน HAPPY
2. เปลี่ยนใหญ่ให้เล็ก อุปสรรคสำคัญของความทุกข์และปัญหาที่คอยถ่วงการเดินทางสู่จุดหมายไม่ใช่ตัวบุคคลที่เกลียดชัง หรือสถานการณ์เลวร้าย แต่คืออารมณ์ภายในใจของคุณเองที่ต้องจัดการให้ถูกต้อง หากรู้จักการอยู่ร่วมกับมันได้ก็เท่ากับควบคุมสถานการณ์ใหญ่ให้หดเล็กลง กำจัดเรื่องหยุมหยิมให้หมดสิ้นได้ หลักสำคัญคือการมีสติ รู้ตามอารมณ์ และปล่อยวาง มีสติเริ่มจากการสร้างสำนึกความรู้ตัวให้เกิดขึ้นมากที่สุด เมื่อทำงานก็มีจิตใจจดจ่อต่อสิ่งนั้น เมื่อพบเจอปัญหาก็รู้ตัว และไม่ลนลาน ระหว่างนั้นหากมีอารมณ์ความคิดต่างๆ แทรกเข้ามาทั้งความรู้สึกกลัว วิตกกังวล ก็รู้ตามอารมณ์ว่าภายในใจรู้สึกอย่างไรโดยไม่ปรุงแต่งต่อยอดไปตามอารมณ์ หรือหากความคิดเตลิดเปิดเปิงไปแล้วโดยที่สถานการณ์จริงยังไม่เกิดขึ้น ก็ต้องรู้ตัวว่านั่นคือสิ่งที่จิตใจปรุงแต่งและไม่คิดผสมโรงกดดันให้ตัวเองยิ่งเลวร้าย เมื่อจิตใจรู้เท่าทันอารมณ์ก็จะเกิดความสงบมากขึ้น ทำให้เกิดความคิดที่รอบคอบ และแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังช่วยลดการสร้างศัตรู และยังแสดงความหนักแน่นของตัวคุณในการรับสถานการณ์ต่างๆ 3. อยู่ร่วมกับศัตรู ศัตรูบุคคล คือตัวแทนของศัตรูที่เกิดจากสภาวะจิตใจที่เป็นลบของเราเอง ดังนั้นการอยู่ร่วมกันที่ดีที่สุดคือการปรับสมดุลทางอารมณ์ให้เป็นกลางด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องคือ ความเข้าใจที่แต่ละคนเหมือนบัวเหล่าต่างๆ มีทั้งสวยงามและผุเปื่อย ดังนั้นจึงควรอยู่ร่วมด้วยการยอมรับไม่ใช่การคาดหวัง หากสิ่งที่เขาทำไม่ดีไม่ควร ก็ต้องยอมรับว่าตัวเขามีพื้นฐานในแบบนั้น ตัวเราหากสำคัญว่าดีก็ไม่ควรลดตัวลงไปทำสิ่งเดียวกันตอบโต้ หรือเก็บคำพูด การกระทำที่เขาปฏิบัติมาตกค้างในใจให้เกิดกระแสลบให้คลั่งแค้น อาฆาต เรียกว่าไม่คบเป็นมิตรสหายแต่ไม่นับเป็นศัตรู เพียงร่วมงานและให้ความบริสุทธิ์จริงใจกันตามหน้าที่งาน เมื่องานจบคุณก็จบไปด้วยดี การรับมือควรใช้สติความรู้เท่าทันอารมณ์เป็นที่ตั้ง ตามด้วยการตัดการปรุงแต่งยั่วยุ และปิดท้ายด้วยการปล่อยวางในแบบทางใครทางมัน เท่านี้คุณก็สามารถอยู่ด้วยกันกับศัตรูได้อย่างสันติแล้ว จริงไหม 4. กำจัดอนุมูลทางอารมณ์ อนุมูลอิสระจากสารตกค้างทำให้เกิดมะเร็งในร่างกาย อนุมูลอิสระทางอารมณ์ก็ย่อมทำให้เกิดมะเร็งในจิตใจได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเคลียร์ความขุ่นมัวของจิตใจให้บ่อยและเร็ว ยิ่งทำได้ในสถานการณ์ยิ่งดีที่สุด เริ่มจากการมีสติกำกับตามรู้ลมหายใจเข้า-ออกบ่อยๆ ในแต่ละวัน รู้กิจกรรมที่กำลังกระทำให้มากที่สุด และที่สำคัญ รู้ตัวว่ามีอารมณ์ใดมากระทบจิตใจ แล้วลดการปรุงแต่งยึดติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ที่ทำให้เกิดความหดหู่ กังวล และเศร้าหมอง ธรรมชาติของอารมณ์และความรู้สึกนั้นมักเกิดขึ้นกระทบจิตใจ ตั้งอยู่เพียงชั่วครู่ และดับไปเสมอ ดังนั้นหากใครเฝ้าสังเกตจะพบว่าถ้าเกิดอารมณ์ใดขึ้นแล้วไม่หน่วงเหนี่ยวยึดติด และปรุงแต่ง อารมณ์นั้นก็จะหายไปเองเป็นธรรมดา การลดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดมะเร็งในจิตใจจึงควรรักษาสติให้ทันความรู้สึก เพียงแค่รับรู้ การเกิดขึ้น ดำรง และดับไปบ่อยๆ เป็นประจำทุกวันก็สามารถรักษาความแจ่มใสได้เสมอ ผลไม่เพียงแค่สุขภาพจิตดี ยังช่วยเพิ่มบุคลิกภาพ ปัญญา ความสามรถ และความสุขในการทำงานได้อีกด้วย คุณจึงสามารถ HAPPY ได้ในทุกที่ทุกเวลาและทุกออฟฟิศ
1. สร้างความราบรื่นสู่เป้าหมาย เป้าหมายในการทำงานของแต่ละคนอาจเล็กใหญ่และมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนคือไม่มีใครต้องการเผชิญขวากหนาม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้การเดินทางราบรื่นที่สุดคือการไม่นำตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องปลีกย่อยที่คอยถ่วงความก้าวหน้าและกำลังใจ
ใคร…ทำอะไร ไม่มีผลเท่า เรา…คิดอย่างไร ปัจจัยความทุกข์แบบเดิมๆ อาจไม่สร้างความทุกข์ให้คุณเหมือนเดิม หากรู้จักเปลี่ยนและเลือกที่จะหกหัว มองในมุมอื่นด้วยสติที่เจริญ