เป็นสุขทุกขณะจิต เมื่อชีวิตไม่ติดลบ
เวลากินข้าว เราไม่เพียงตักอาหารบำรุงเลี้ยงร่างกายเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสที่เราจะได้บำรุงเลี้ยงจิตใจด้วย โดยเฉพาะเมื่อเรากินอย่างมีสติ รู้จักประมาณในการกิน กินอย่างรู้คุณค่าที่แท้จริงของอาหาร และด้วยสำนึกในบุญคุณของทุกชีวิตที่นำอาหารมาให้เรา สติและสำนึกดังกล่าวจะช่วยบ่มเพาะจิตใจของเราให้งดงามและเป็นกุศล นำไปสู่ชีวิตที่สงบเย็นและมีเมตตา
เวลาหายใจ เราไม่เพียงดูดออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสที่เราจะนำเอาความสงบเย็นไปหล่อเลี้ยงจิตใจด้วย ในยามเครียดหรือเกิดโทสะ ลองหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ สัก ๕-๑๐ ครั้ง จิตจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ จะพบว่าความเครียดบรรเทาลง และจิตใจหายรุ่มร้อน ยิ่งในยามปกติด้วยแล้ว การหายใจอย่างมีสติจะช่วยให้จิตสงบนิ่ง มั่นคงแต่อ่อนโยน เต็มไปด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อม
เวลาเดิน เราไม่เพียงพาตัวเองไปให้ถึงจุดหมายเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสที่เราจะพาใจให้เข้าถึงความผ่อนคลาย เป็นสมาธิ เมื่อเดินอย่างมีสติรู้ตัวในทุกย่างก้าว ไม่กังวลกับจุดหมาย ไม่สนใจว่าต้องเดินอีกไกลเท่าใด ไม่เร่งเร้าว่าเมื่อไหร่จะถึง เมื่อนั้นเราจะเป็นอิสระจากระยะทางและเวลา การเดินจึงกลายเป็นการพักใจในทุกก้าว แม้กายเหนื่อย แต่ใจหาเหนื่อยไม่