ใครๆ ก็อยากมีบุคลิกภาพที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะคนที่กำลังมีความรัก ไม่อยากให้คนรักทิ้งร้างห่างไปง่ายๆ จำเป็นจะต้องรู้วิธีปฏิบัติที่อีกฝ่ายจะรู้สึกรัก ประทับใจ ไว้ใจ และผูกพันกัน แต่หากจะให้แนะนำ ดิฉันขอแนะนำว่า ให้เริ่มต้นจากการมีคติที่เกี่ยวกับความรักที่ถูกต้องเสียก่อน อย่าสับสนระหว่างความฝันกับความจริง หรือความเป็นไปได้ในชีวิตจริง
คติรักข้อที่ 1 สักวันหนึ่งฉันจะได้พบคนที่ถูกใจที่สมบูรณ์แบบ
เป็นความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องได้พบคู่รักที่ดีพร้อมสรรพเหมือนกับเจ้าหญิง เจ้าชายในเทพนิยายนั่นแหละ และเมื่อถูกพรหมลิขิตขีดเส้นมาให้พบกันแล้วต่างก็จะตกหลุมรักและรักกันตลอดไปตราบนานเท่านาน ความรู้สึกนี้อยู่บนรากฐานของความรักด้วยใจพิศวาสปรารถนา หรือ Romantic Love และเพราะการตกหลุมรักใครสักคนจะก่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น สุขสม
คนที่มีคติรักแบบนี้จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดรักแรกพบ เนื่องจากจะมองแต่ส่วนดีและคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายนั้นดีพร้อม
ความต้องการของคู่รักแบบนี้จะหวังเพียงการได้อยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกันด้วยความสุขแต่เมื่ออารมณ์รักรุนแรงผ่านพ้นไป และเริ่มมองเห็นข้อบกพร่องของกันและกัน ต่างก็จะรู้สึกว่าได้มองกันผิดไปตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากคู่รักนั้นมีวุฒิภาวะพอ เขาจะสามารถปรับตัวเข้าหากัน แก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง ยอมรับข้อเสียของอีกฝ่ายหนึ่งได้มากขึ้น และสานความรักให้มั่นคงต่อไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในสัมพันธภาพระหว่างกัน ย่อมมีทั้งเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายจะมีอารมณ์เสีย อารมณ์ดี และมีเวลาแห่งความทุกข์และความสุข
คติรักข้อที่ 2 รักแท้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
คติรักแบบนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่า รักแท้มิใช่ความหลงใหลลุ่มหลง คนที่เชื่อในคติรักข้อนี้ จะสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างรักแท้กับอารมณ์อื่นๆ ออกจากกันได้ นอกจากจะผ่าประสบการณ์ความรักมายาวนาน เช่น ตกหลุมรักหลายครั้งแล้วก็พบในบั้นปลายว่าไม่ได้เป็นรักแท้ แต่เป็นแค่อารมณ์หลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรียกว่าใช้ประสบการณ์เป็นครู จนสามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองได้อย่างถ่องแท้
เมื่อยามรักคนมักจะเชื่อว่านี่คือรักแท้ แต่พอพบว่าไม่ใช่ก็จะแสวงหาไปเรื่อยๆ ทั้งที่จริงแล้ว ความรักเพียงอย่างเดียวมิได้ทำให้ความสัมพันธ์นั้นงอกงามและยืนนาน หากมีอีกหลายปัจจัยทีเดียวที่จะทำให้การครองรักยืนยาวมั่นคง ดังนั้นรักแท้จึงมิได้ประกอบด้วยความรู้สึกรักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คติรักข้อที่ 3 ความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เมื่อกำลังตกอยู่ในความรัก คนมักจะหวังว่ารักนั้นนิรันดร หรือจะรักกันตราบเท่าฟ้าจูบลาดิน หรืออะไรทำนองนี้ และคำพูดที่พบเสมอๆ ของคนที่ถือคติรักแบบนี้คือ "สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเราคือ เรารักกันและกัน" หรือ "ความรักของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"
แต่ในโลกความเป็นจริง ความรักเป็นความรู้สึกที่เปราะบาง และเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก บางครั้งมักถูกแทนที่ด้วยอารมณ์อื่นๆ ภายใน เช่น ความโกรธ
ความกลัว ความวิตกกังวล หวาดระแวง ความเครียด ซึ่งมาบดบังทำให้ความรักหายไปชั่วขณะ หรืออาจถึงขนาดทำลายความรักให้หมดสิ้นไปได้ แต่ถ้ามีการร่วมกันเผชิญหน้ากับปัญหาและช่วยกันแก้ไข ก็จะทำให้ความรักนั้นเพิ่มพูนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ความรักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยิ่งนานวันความตื่นเต้นระทึกใจหรือความหวามไหวในอารมณ์ค่อยๆจางลง เพราะความรักปะปนด้วยอารมณ์หลายรูปแบบ บางครั้งก็เจือความรู้สึกอ่อนหวานนุ่มนวล บางครั้งยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งรักกันลึกซึ้งมากขึ้น แต่บางครั้งก็อาจจะจืดจางเย็นชา ดังนั้นความจริงของความรักข้อหนึ่งก็คือ ความรักไม่เคยเหมือนเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คติรักแบบที่ 4 สิ่งภายนอกกำหนดความรัก
คนที่ยึดถือคติรักข้อนี้จะเชื่อว่าความรักเกิดจากสิ่งที่ฝังอยู่ในความรู้สึกของตัวเราเอง แต่กลับเชื่อว่าเพราะพฤติกรรมของเขา บุคลิกภาพของเขา ประสบการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างเป็นตัวกำหนดให้ต้องตกหลุมรัก
ในขณะที่ความเป็นจริง คนเรากำหนดคุณค่าของความรัก หรือลักษณะของคนที่จะรักไว้ในใจแล้ว เมื่อมาเจอคนที่มีอะไรบางอย่างตรงกับที่วาดหวังเอาไว้ ก็จะปักใจรักได้ในทันที ดังนั้นความรักจึงขึ้นอยู่กับใจของเราเอง นักประพันธ์เรืองนามชื่อ สจ๊วต เอเมอลี เคยอธิบายว่า ถ้าเราเปิดใจและพร้อมที่จะรัก เราก็สามารถจะเกิดความรักกับใครสักคนได้ที่อยู่ใกล้ชิด และมีคุณสมบัติตรงกับที่ใจเราต้องการ
คติรักข้อที่ 5 ความรักขจัดได้ทุกปัญหา
มีคู่รักหลายคู่ที่คาดหวังในตัวอีกฝ่ายไว้ว่า เมื่อคุณรักฉัน คุณต้องช่วยฉันแก้ปัญหาในทุกเรื่อง คือ นึกถึงแต่ความต้องการของตัวเอง จนลืมมองถึงความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งลืมนึกไปว่า ถึงจะรักแต่ก็มิได้หมายความว่า เจ้าอารมณ์รักนี้จะช่วยให้ปัญหาหรือความขัดแย้งถูกละเลยหายไปได้ง่ายๆ
ในความเป็นจริง ความรักไม่ได้เป็นตัวแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป แต่อาจเป็นตัวสร้างปัญหาขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความรักจะทำให้คนเราเติบโตขึ้น ถ้าเรารู้จักเผชิญหน้า เพื่อแก้ปัญหา ความรักเป็นเสมือนการเตรียมศักยภาพให้พร้อม เพื่อพัฒนาคนให้เจริญเติบโตขึ้น
คนที่เชื่อในคติรักที่ว่า ความรักขจัดได้ทุกปัญหา มักจะเกิดความผิดหวังว้าวุ่นใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังที่คาดหวังเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ความรักจะช่วยแก้ปัญหาได้ก็ต่อเมื่อต่างฝ่ายต่างก็คำนึงถึงจิตใจและความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะความรักย่อมเป็นแรงจูงใจให้อยากช่วยแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว แต่โดยลำพังความรักเองไม่สามารถจะแก้ปัญหาอะไรได้ หากแต่เป็นตัวกระตุ้น ให้คู่รักหันหน้าเข้าหากัน คุยกันและช่วยกันคิดว่าจะหาทางแก้ไขต่อไปอย่างไรดี
คติรักข้อที่ 6 ความรักที่ดีที่สุด คือ ความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว
ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว เพราะพฤติกรรมของคนเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งมีอยู่หลากหลายอารมณ์ เช่น ถ้าอารมณ์ไม่ดี เราก็อาจทำอะไรที่แสดงถึงความเห็นแก่ตัวออกมาได้ หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกคาดหวังว่าคนที่รักกันน่าจะทำให้แก่กัน
แต่ในคู่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะพบว่า เป็นคู่ที่ต่างก็ให้ความนับถือ ให้อิสระแก่กัน และคำนึงถึงความรู้สึกของกันและกันเสมอ คือยอมรับว่า เธอคือเธอ และฉันคือฉัน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความคาดหวังในกันและกันมากจนเกินไป
♣ บุคลิกภาพที่น่าหลงใหล เพื่อการผูกรัก ♣
กระทู้นี้ไม่รับโฆษณา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!