รัก ก็คือ รัก หลายคนคงไม่ต้องการคำอธิบาย ไม่ต้องการมองหาเหตุผล แต่หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า “อะไร” ที่ทำให้คนเราเกิด “ความรัก”
- รูปร่างหน้าตา
คนที่มีรูปร่างหน้าตาดีได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย ปฏิเสธไม่ได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นความประทับใจเมื่อแรกเห็นที่ดึงดูดให้คนสองคนเริ่มต้นสานสัมพันธ์กัน โดยบรรทัดฐานของความหล่อและความสวยอาจแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม ยุคสมัย และรสนิยมส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม คนที่รูปร่างหน้าตาดีอาจได้รับความสนใจและการยอมรับมากกว่าคนหน้าตาธรรมดาเพียงในระยะแรกเท่านั้น หากนิสัยใจคอและความสามารถไม่เป็นที่ยอมรับ รูปร่างหน้าตาดีก็ไม่ช่วยอะไรอีกต่อไป เพราะความรักที่สมบูรณ์ย่อมเกิดขึ้นเมื่อเรารักกันที่ “จิตใจ” มากกว่า “เปลือกนอก”
- เสียง
มีการวิจัยที่ให้อาสาสมัครฟังเสียงของชายหญิงในแบบต่างๆ เพื่อจัดอันดับ “เสียงเสน่ห์ดึงดูดใจ” ไปจนถึง “เสียงที่ไม่น่าฟัง” ปรากฏว่า เสียงที่ได้คะแนนโหวตสูงๆ นั้น เจ้าของเสียงจะมีรูปร่างหน้าตาดีตามไปด้วย พ้องกับเหตุผลที่คนเรารักกันในข้อแรกโดยบังเอิญ
ผู้ชายเสียงทุ้มนุ่มลึกมีลูกมากกว่าผู้ชายเสียงเล็ก ซึ่งฟังดูไม่แมน ไม่เท่ ไม่อบอุ่น เสียงที่แตกต่างกันนี้เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชาย ที่ทำให้แสดงลักษณะของเพศชายออกมา ระดับฮอร์โมนยิ่งสูง เสียงยิ่งทุ้มมีเสน่ห์ และยิ่งมีบุตรมากตามไปด้วย
เหตุผล 2 ประการดังกล่าว ไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก จำนวนตัวอย่างในการวิจัยก็น้อยเกินไปที่จะสรุปได้ และหลายคนก็คงเถียงขาดใจเหมือนกันว่า
“แฟนฉันไม่หล่อซะหน่อย เสียงก็ไม่แมนสักนิด ฉันยังรักของฉันจะตาย”
ก็จริงค่ะ ถ้าอย่างนั้น ลองดูสมมติฐานข้อต่อไป
- กลิ่น
ทำไมเราจึงรักคนที่ไม่สวย ไม่หล่อ หรือแม้แต่นิสัยไม่ค่อยดี อธิบายได้ว่า ก็เพราะเขามี “กลิ่น” ที่เราพึงใจนั่นเอง
กลิ่นที่ไม่มีกลิ่นนี้ เรียกว่า ฟีโรโมน (Pheromone) สามารถรับรู้ได้ทางสมอง เป็นสารเคมีที่ร่างกายของเราหลั่งออกมาและมีผลต่อพฤติกรรมของเพศตรงข้าม
เชื่อกันว่า มนุษย์แต่ละคนมี “กลิ่น” เฉพาะตัวที่ดึงดูดให้เพศตรงข้ามต้องใจ กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกรักใคร่ อยากเป็นของกันและกัน
ผู้หญิงจะผลิตฟีโรโมนมากในช่วงที่กำลังตกไข่ ในช่วงนั้น ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะรักและดูแลห่วงใยหญิงคนรักมากเป็นพิเศษ อาจถึงขั้นหวง หรืออิจฉาผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ผู้หญิงของเขา โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหตุผล
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นเพียงสมมติฐาน นักวิทยาศาสตร์ยังเถียงกันอยู่ว่า คนเรามีสารฟีโรโมนอยู่ในร่างกายจริงหรือไม่ แต่การโยงใยไปถึงกลไกการทำงานของสมองนั้น เข้าเค้าค่ะ
- สมอง
คุณอาจจะคิดว่า คนรักของคุณ ทำให้คุณรักเขา แต่แท้ที่จริงแล้ว สมองของคุณเองต่างหาก ที่สั่งให้คุณรักเขาคนนั้น
ความรักเกิดขึ้นที่สมองใน 3 จุดสำคัญ คือ
1.Ventral Tegmental Area
เซลล์ประสาทในสมองส่วนกลางกลุ่มนี้มีหน้าที่สำคัญคือ ผลิตสารที่เรียกว่า โดปามีน (Dopamine) สมองจะผลิตโดปามีนออกมามากในเวลาที่เรามีความสุขเบิกบานใจ ใครที่ทำให้โดปามีนท่วมสมองของคุณได้ คุณก็รักคนนั้นล่ะค่ะ อย่างไรก็ตาม คู่รักจะตอบสนองต่อโดปามีนอยู่เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น
2.Nucleus Accumbens
เมื่อสมองเริ่มจดจำภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างคุณและคนรัก ก็จะเริ่มสร้างความรู้สึกผูกพันต่อกัน สารเคมีที่มีบทบาทมาแทนโดปามีนในช่วงนี้ ก็คือ ออกซิโตซิน (Oxytocin) ความผูกพันเป็นสายใยที่มองไม่เห็น เช่น ความผูกพันระหว่างแม่กับลูกที่ยังอยู่ในท้อง ไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ แต่ก็ผูกพันกันเพราะสารออกซิโตซินตัวนี้นี่เอง อาจจะไม่ร้อนแรงเท่าโดปามีน แต่ก็ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว
3.Caudate Nucleus
สมองส่วนนี้จะบันทึกความจำที่ยากจะลบเลือน เช่น ทักษะต่างๆ เป็นต้นว่า การอ่านออกเขียนได้ พิมพ์ดีด ว่ายน้ำ ขับรถ รวมไปถึง “รักมั่น” ซึ่งจัดเป็นความทรงจำที่ยากจะลบเลือนเช่นกัน
ความรักของเราพัฒนาไปเนื่องมาจากสมองทั้งสามส่วนนี้เอง จากรักอันหอมหวานดูดดื่ม เปลี่ยนเป็นความผูกพัน และกลายเป็นรักนิรันดร์ในที่สุด
ทั้งหมดนี้เป็นสมมติฐานที่นักวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลที่คนเรารักกันค่ะ
แล้วคุณล่ะคะ รักเพราะอะไร...
♣ รักเขาเพราะอะไร ♣
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!