บริหารกล้ามเนื้อด้วยการหายใจ
แม้การให้ความสำคัญในเรื่องการหายใจจะเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม เพราะแค่หายใจเข้าและออกเพื่อดำรงชีพได้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านหายใจได้อย่างถูกวิธี คือ เมื่อหายใจเข้า ท้องป่อง หายใจออก ท้องแฟบ ถือว่าหายใจได้อย่างถูกต้อง แต่ถ้าจะให้ดี ควรเรียนรู้เทคนิคการหายใจเพิ่มพลังปอดและช่วยบริหารกล้ามเนื้อ
เริ่มจากท่าแรก คือ การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องหรือกระบังลม เป็นการหายใจที่ใช้กำลังน้อยที่สุด แต่สามารถส่งลมเข้าและออกปอดได้มากที่สุด โดยการนอนหงายบนที่ราบ วางแขนทั้งสองข้างแนบลำตัว มือข้างหนึ่งวางบนหน้าอก มืออีกข้างวางที่หน้าท้อง แล้วงอเข่าสองข้างขึ้นอย่างสบาย จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก ซึ่งหน้าท้องจะป่องออก ขณะที่หน้าอกจะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนการหายใจออก ให้ค่อย ๆ ผ่อนลมออกผ่านทางไรฟัน ให้ริมฝีปากเผยขึ้นเล็กน้อย และใช้เวลาหายใจออกนานกว่าหายใจเข้านาน 3 เท่า
ท่าถัดมา การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อทรวงอกด้านข้าง โดยวางฝ่ามือทั้งสองลงบนสีข้างของทรวงอกส่วนล่าง สูดลมหายใจเข้าและผ่อนออกเหมือนท่าแรก ควรให้ทรวงอกและชายโครงด้านล่างป่องออกเมื่อหายใจเข้า และแฟบที่สุดเมื่อหายใจออก ท่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวทรวงอก และขับเสมหะได้ง่ายขึ้น
ท่าสุดท้าย ให้หายใจโดยใช้กล้ามเนื้อทรวงอกส่วนบน โดยวางมือบนหน้าอกใต้กระดูกไหปลาร้า แล้วใช้ปลายนิ้วมือกดเบาๆ เมื่อหายใจเข้าให้อกส่วนบนขยายตัวและดันนิ้วมือขึ้น แต่อย่าเกร็งช่วงไหล่ โดยการหายใจเข้าให้กลั้นไว้นาน 1-2 วินาที ส่วนการหายใจออกให้ทรวงอกบริเวณเดียวกันแฟบลงมากที่สุด โดยสามารถใช้มือช่วยกดได้
ในการหายใจท่าสุดท้าย เหมาะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจตีบเรื้อรังจนทรวงอกโป่งพอง อย่างไรก็ตาม การหมั่นหายใจด้วยท่าต่าง ๆ ทั้ง 3 อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ปอดแข็งแรงและหากป่วยด้วยโรคที่ทำให้หายใจได้ลำบาก เช่น หวัด ก็จะหายได้อย่างรวดเร็ว.