ทำไมต้อง อยู่ก่อนแต่ง?!!
ถ้ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งแล้วก็ไปๆ มาๆ ค้างบ้างไม่ค้างบ้าง และเป็นไปได้ว่าวันใดวันหนึ่งอาจเกิดความรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมเราไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเสียเลย ช่วงคบหาดูใจ เราก็เป็นแค่คู่รัก แวะมาหากัน หรือ จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับแบบนี้
โอ๊ะ โอว... ใจเย็นๆค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ เพราะการอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงไม่เหมือนกับการแวะมาค้างแค่ชั่วครั้งชั่วคราว การย้ายมาอยู่ด้วยกันนั้นคือการเลื่อนขั้นความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกระดับ มันอาจนำไปสู่การแต่งงานหรือไม่ก็การเลิกรากันก็ได้ เนื่องจากทั้งคู่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดและต้องเจอช่วงเวลาเครียด หดหู่ เศร้า เหวี่ยง งี่เง่า ฯลฯ นี่คือของจริงที่ต้องเจอ มิใช่ความเร่าร้อนและหวานชื่นเหมือนตอนที่เป็นแค่แฟนกันเฉยๆ
แต่ถ้ากำลังตัดสินใจว่าควรย้ายมาอยู่ด้วยกันดีไหม ลองดูเหตุผลดังต่อไปนี้ว่าเข้าข่ายหรือไม่
เมื่อเดทมานานพอแล้ว แต่ยังไม่พร้อมแต่งงาน
ถ้าเราอายุ 24 และออกเดทตั้งแต่อายุ 15 แต่ยังรู้สึกว่าไม่พร้อมแต่งงาน ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคนอาจเป็นเพียงใบเบิกทาง การอยู่กินด้วยกันจะเปิดโอกาสให้ได้รู้ว่าอีกฝ่ายรับพฤติกรรมของเราได้แค่ ไหน และเรายังได้ฝึกความอดทนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย
เพิ่งหย่าร้าง ไม่มีลูก และไม่พร้อมแต่งงาน
ถ้ายังเจ็บปวดจากการหย่าร้างครั้งก่อน และเดทกับคนปัจจุบันมานานพอสมควรแล้ว ดังนั้นจึงย้ายมาอยู่ด้วยกันสักพัก คนที่ล้มเหลวจากชีวิตแต่งงาน เมื่อมาพบคนใหม่ก็มักต้องการควบคุมความสัมพันธ์ให้อยู่กับร่องกับรอย การอยู่ด้วยกันเฉยๆจึงดีกว่าการกระโดดเข้าประตูวิวาห์กับคนใหม่ทันที และถ้าสามารถเยียวยาหัวใจจนหายเจ็บปวดแล้วพบว่าเราสองคนเข้ากันไม่ได้ การเลิกรากันจึงง่ายกว่าไปเลิกกันตอนแต่งงานแล้ว อย่างไรก็ตามกรณีนี้จะเวิร์คสำหรับคนที่ไม่มีลูก เพราะลูกอาจต้องมาทนรับกับความเครียดของคนที่เป็นแค่คู่อยู่กินกัน
เมื่อต้องการกำลังใจผ่านช่วงเวลาลำบากด้วยกัน
ถ้าทั้งคู่กำลังเรียนปริญญาโทหรือเอก การย้ายมาอยู่ด้วยกันอาจเป็นเดียที่เลิศ เพราะนักศึกษาระดับนี้จะมีเวลาออกเดทน้อยมาก และการมีคู่ที่ช่วยซัพพอร์ททางอารมณ์จะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงที่เครียดกดดัน กับการเรียนได้ ค่าใช้จ่ายในการเรียนก็สูง ถ้าอยู่กันสองคนก็มีคนมาช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายได้ ส่วนมากฝรั่งมักทำกันแบบนี้
เมื่อย้ายที่พักเพื่อรับงานใหม่อนาคตไกล
ถ้าเราต้องย้ายที่อยู่เพื่อรับงานใหม่ หรือเพื่อเลื่อนตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม บางคนมีงานที่ต้องย้ายไปตามประเทศต่างๆหรือไปประจำสาขาต่างๆทั่วประเทศ ชีวิตแบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ มีหลายคู่แล้วที่ต้องเลิกราหรือหย่าร้างกันเพราะความห่างไกล ดังนั้นการตัดสินใจย้ายไปอยู่ด้วยกันจึงดีกว่าแยกกันอยู่จนกว่าจะมีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งรับไม่ไหวแล้วกับการต้องย้ายไปนู่นมานี่ หรือไม่ทั้งคู่ก็เชื่อไปเลยว่าการทำแบบนี้จะทำให้สัมพันธ์เวิร์ค
เพื่อความเป็นอิสระทางการเงิน
ถ้าเราร่ำรวยมีเงินทองเข้าขั้นมหาเศรษฐีก็คงเลือกที่จะไม่แต่งงาน อยู่เป็นโสดลอยชายไปมาดีว่าต้องมาแบ่งสมบัติตอนหย่า ถึงแม้จะสามารถทำสัญญาก่อนแต่งงานได้ แต่ก็อาจทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก แล้วก็ยังสามารถลงท้ายมีการฟ้องร้องแบ่งสมบัติได้อยู่ดี ยิ่งถ้าเพิ่งหย่าและต้องแบ่งทุกอย่างกับคนเก่า แน่นอนว่าคงไม่อยากแต่งงานใหม่แล้วหย่าแบ่งสมบัติอีกรอบ เพราะฉะนั้นย้ายมาอยู่ด้วยกันเฉยๆจึงเวิร์คกว่าแน่นอน
เมื่อต้องการแค่อยู่ด้วยกันก็พอ
ในกรณีที่ทั้งคู่เพิ่งเดินออกจากชีวิตแต่งงานและไม่ต้องการแต่งงานอีกแล้ว แถมยังเห็พ้องต้องกันว่าการย้ายมาอยู่คือความสุขร่วมกัน แน่นอนว่าความสัมพันธ์นี้มีความสุขสุดๆ เพราะคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าขอแค่นี้ก็พอแล้ว
คู่ที่อายุมากแล้ว
คู่รักที่อายุมาแล้วมักไม่รู้สึกกระดี๊กระด๊าอยากแต่งงานอีกครั้ง ถ้าในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างเป็นคนดูแลครอบครัวตัวเองและคู่ชีวิตตายหรือหย่า ร้างไปแล้ว ทั้งคู่อาจไม่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยิ่งถ้าไม่มีใครในครอบครัว เพื่อนบ้านหรือแวดวงเพื่อนสนิทแคร์ว่าทั้งคู่ต้องเข้าพิธีแต่งงานให้เป็น เรื่องเป็นราวละก็ การย้ายมาอยู่ด้วยกันเฉยๆคือทางเลือกที่เข้าท่าที่สุด
เรื่องย้ายไปอยู่ด้วยกันเฉยๆ ฝรั่งเขาทำกันเป็นเรื่องปกติ แต่เราเป็นคนไทยมีขนบธรรมเนียมประเพณีไม่เหมือนเขา ลองคิดให้ดีก่อนนะคะ