ใจที่ไม่มีโรค หมายถึงใจที่ปราศจากอารมณ์ที่เป็นเหตุให้ขุ่นมัว คนที่รักษาสภาวะจิตใจของตน จะรู้จักการใช้กำลังใจไปในทางที่ถูกรู้จักระงับใจให้อยู่ในระดับปกติ ทำตนให้เป็นคนมีอารมณ์แจ่มใส ไม่มักมากในสิ่งต่างๆ ไม่เก็บความทุกข์ร้อนมาใส่ใจ คนที่มีกำลังใจเข้มแข็ง จะรู้สึกมีความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง มีความพอใจเป็นเบื้องหลัง มีความหวังเป็นเบื้องหน้า จึงสามารถทำคุณประโยชน์ให้ทั้งแก่ตนหรือส่วนรวมได้อย่างมากมาย ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจ จะทำอะไรก็ดูท้อแท้ กลัวแต่ความผิดหวัง จนไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
ยาล้างแผลใจ เล่มนี้ ได้แนะนำทั้งสมมติฐานของโรคใจ ที่เรียกว่ามะเร็งในอารมณ์ เช่น โรครัก-โลภ-โกรธ-หลง และโรคอารมณ์อีกหลายชนิด ที่จะเกิดติดตามมาหลังจากใจถูกอารมณ์ร้ายเหล่านี้เกาะกิน พร้อมแนะวิธีรักษาด้วยพุทธโอสถ คือ ยาธรรมะของพระพุทธองค์ เพื่อใช้รักษาอารมณ์ในยามที่ท่านประสบกับโรค
โรคทางใจ
ปกติใจของมนุษย์เป็นธรรมชาติที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง มีกำลังมากกว่าฟ้า ลึกกว่าท้องสมุทร กว้างใหญ่กว่าแผ่นดิน กำลังใจจึงมีอิทธิพลเหนือกว่าทุกสรรพสิ่งที่มีในโลก คนที่มีกำลังใจย่อมสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและคนอื่น ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจ ทำสิ่งใดก็มักจะไม่สำเร็จ
คนที่เป็นโรคทางใจ ย่อมเกิดผลร้ายกว่าโรคทางกาย โรคใจสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบและแผ่กระจายตัวไปได้ในพริบตา เกิดขึ้นได้วันละหลายครั้งไม่เลือกเวลา สถานที่ โรคใจที่ว่า คือ โรครัก โรคโลภ โรคโกรธ โรคหลง ซึ่งแต่ละโรคนี้ทำให้มนุษย์พบกับความวิบัติมานักต่อนัก
โรคลุแก่โทสะ
การคิดประทุษร้ายเพราะความไม่ชอบกัน เป็นโรคใจที่ทำให้คนโหดเหี้ยม ดุร้าย ก่อให้เกิดแต่ความขุ่นแค้น ยังใจให้ลุกโชนด้วยไฟ คือ โทสะที่คอยแผดเผาให้รุ่มร้อน ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ย่อมนำความเดือดร้อนมาให้ได้มากกว่าไฟตามปกติหลายเท่านัก คนที่ลุแก่อำนาจโทสะ ก็เหมือนเหล็กที่ถูกสนิมกัดกร่อนย่อมไม่มีความแข็งแรง
โรคโกรธ
ความโกรธมักเกิดขึ้นจากการกระทำที่ผู้อื่นทำแก่ตนทั้งเจตนาหรือไม่เจตนา แต่ก็สร้างความขัดเคืองขุ่นแค้นให้เกิดขึ้นได้ แม้แต่การกระทำของตัวที่ไม่ได้ดังประสงค์ก็ยังใจให้โกรธได้ คนมักโกรธแม้มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด มีความสามารถ แต่เมื่อถูกความโกรธครอบงำ ก็สามารถก่อกรรมทำเข็ญที่ร้ายแรงได้
โรคผูกโกรธ
ความผูกโกรธเป็นโรคที่เกิดต่อจากความโกรธ แต่มีโทษที่รุนแรงกว่าความโกรธ เกิดขึ้นได้เพราะการกระทำของผู้อื่นที่ตนไม่พอใจ เมื่อโกรธแล้วก็ผูกโกรธเอาไว้ให้คุกรุ่นอยู่ในใจ เหมือนเถ้าที่กลบไฟไว้ ผูกโกรธไม่รู้ลืม เมื่อพบเห็นหรือนึกถึงคนที่ทำให้โกรธขึ้นมาคราใด เป็นต้องฟุ้งซ่านแค้นเคือง พยายามหาทางทำตอบให้สมกับความแค้นที่เขาทำไว้กับตน
ยารักษาโรคทางใจ (โกรธ, หงุดหงิด, มักมาก)
โรคพยาบาท
ความพยาบาทเป็นโรคร้ายที่เกิดต่อจากความผูกโกรธ เมื่อผูกไฟโกรธให้ลุกโชนในใจแล้ว จึงผูกพยาบาทปองร้ายผู้ที่ทำให้โกรธนั้น โรคนี้มีโทษร้ายแรงทั้งกว่าความโกรธและความผูกโกรธ ที่มุ่งโทษแต่การกระทำแก้แค้นตอบแทน แต่ความพยาบาทนอกจากทำแก้แค้นแล้ว ยังหวังล้างผลาญผู้นั้นให้วิบัตย่อยยับไปเลยทีเดียว เมื่อยังแก้แค้นไม่สำเร็จก็จองเวรต่อไป ไม่รู้จักจบสิ้น
ยารักษา
โรคทั้ง 4 คือ โรคลุแก่โทสะ โรคโกรธ โรคผูกโกรธ โรคพยาบาท สามารถรักษาได้ด้วยพุทธโอสถ คือ ความเมตตา และความกรุณา เปลี่ยนความรู้สึกโกรธแค้น ผูกใจเจ็บ พยาบาทมาดร้ายต่อเขา ให้เป็นความรักใคร่สงสารแทน เมื่อเกิดความรู้สึกรักและเมตตาในผู้อื่น ย่อมทำให้กลายเป็นคนที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี รู้ถึงหัวอกเขาหัวอกเรา ก็จะบรรเทาเบาบางอารมณ์ร้ายให้จืดจางไปจากใจได้
++++++++++++++++++++++
โรครัก
ความรักที่มีเมตตาธรรม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น เคารพนับถือกันตามฐานะไม่ถือว่าเป็นโรค แต่ความรักที่มีแต่ความหึงหวง แก่งแย่งกัน จึงจะนับว่าเป็นโรค เมื่อเกิดโรครักขึ้น ไฟราคะ ก็เผาใจให้รุ่มร้อนกระวนกระวายในเมื่อยามผิดหวัง เมื่อยามตนสมหวังก็เผาผลาญร่างกายให้โรยรา เพราะเป็นไฟที่มีมากเกินพอดี
ยารักษา
เมื่อเกิดโรครักขึ้นต้องแก้ด้วยยาคือ สติ ระมัดระวังใจมิให้หลงใหลไปตามอำนาจของกามารมณ์ ให้นึกถึงโทษของความรักที่ทรมานตนจนฟุ้งซ่านกระวนกระวายขาดทั้งกำลังกายใจ ทำอะไรก็ให้รู้สึกท้อแท้ ต้องรู้เท่าทันว่า เมื่อโรครักเกิดขึ้นในใจแล้ว ย่อมทำให้ใจมีความวิปริตเปลี่ยนแปลงไปได้ทั้งในทางที่ดีหรือร้าย
+++++++++++++++++++++++
โรคโลภ
ความอยากที่ไม่มีประมาณ ทำให้เป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่รู้จักพอ ทั้งที่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็น่าจะมีความสุข แต่เพราะความโลภจึงทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน กระเสือกกระสน ดิ้นรนแสวงหา เมื่อไม่ได้สมใจ ก็เกิดความเศร้าเสียใจ ตรมตรอมใจ เป็นบ้าใบ้ไปก็มี หนักเข้าถึงกับเป็นไข้ใจอย่างรุนแรง ถึงกับฆ่าตัวตายเพราะความไม่สมอยาก
ยารักษา
ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นยาแก้ความโลภได้ดีที่สุด คือ รู้จักการแสวงด้วยหนทางที่ชอบอยู่ในกรอบของศีลธรรม ยับยั้งชั่งใจให้รู้ประมาณในการแสวงหา การได้มารวมถึงการใช้จ่ายก็ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะพอสมกับการได้มา ก็จะสามารถช่วยรักษาโรคของความโลภมากอยากได้ให้ผ่อนคลายและหายไปได้ในที่สุด
++++++++++++++++++++++++
โรคมักมาก
โรคทางใจที่เร่งเร้าให้ชิงสุกก่อนห่าม มักใหญ่ใฝ่สูง มีจิตสันดานที่เอาแต่กอบโกย ถือแต่ส่วนตัวเป็นใหญ่ ถึงมีก็ไม่รู้จักพอ ไม่มีความรู้สึกพอใจในสิ่งใดๆ ไม่มีใครที่จะทำให้เขามีความรู้สึกอิ่มได้ เหมือนไฟที่ไม่อิ่มด้วยเชื้อ มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำ และความตายไม่แหนงหน่ายไปจากสรรพสัตว์
ยารักษา
ความรู้จักพอ เป็นยาแก้ความมักมากที่ได้ผลทำให้มองเห็นค่าของความพอควรว่า เมื่อไม่มีสิ่งที่พอใจ ก็พอใจในสิ่งที่มี ตนได้ลงโทษความอยากยังดีกว่าการที่ตนจะถูกลงโทษเพราะความมักมาก เมื่อทำได้เช่นนั่น จะสามารถรักษาโรคมักมากอยากได้ไม่มีที่สิ้นสุดให้ทุเลาเบาบางจนหายขาดได้
+++++++++++++++++++++++++++++
โรคความอยาก
เป็นโรคประหลาดที่อยากมีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่อยากทำ ชอบการได้มาที่ไม่ต้องออกแรงแม้แต่จะคิด คนที่เป็นโรคนี้มักทำตรงกันข้ามกับความอยาก เช่น กลัวความลำบากแต่เป็นคนเกียจคร้าน ชอบความสุขสบายแต่ไพล่ไปทำเหตุแห่งทุกข์ อยากได้ดีแต่ไม่ทำความดี เข้าทำนองที่ว่า ทิ้งธุระที่มาถึงตัว มัวแต่พะวงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
ยารักษา
ต้องเป็นคนมีฉันทะ รักใคร่ที่จะทำความดี ฝึกฝนอบรมตนให้เห็นประโยชน์ของความดีที่ตนปรารถนา เห็นโทษของความเลวที่ตนรังเกียจ พร้อมที่จะทำความดีตามที่ตนปรารถนา ละเว้นความเลวร้ายที่ตนรังเกียจ ก็ช่วยให้จิตใจของท่านมีความปรารถนาอยากทำแต่ในสิ่งที่ดีๆ
++++++++++++++++++++++++++++++
โรคมายา คัดลอกจากหนังสือ ยาล้างแผลใจ
คนที่มีมายาสาไถย เป็นคนเจ้าเล่ห์ ทำตัวเป็นเหมือนภูติผีที่เที่ยวหลอกผู้อื่นกิน คนที่ทำตัวเจ้าเล่ห์โกหกปลิ้นปล้อน เป็นคนคดในข้องอในกระดูก ย่อมไม่เป็นที่ไว้วางใจของใครต่อใคร เป็นคนที่หมดความน่าเชื่อถือ ใหม่ๆ อาจจะหลอกใครต่อใครได้ แต่เมื่อเขารู้ทันก็จะเป็นเหมือนกับผีตายซาก ถูกปล่อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
ยารักษา
ต้องใช้สัจจะ คือ ความจริง มาปรับปรุงตัวรักษาใจให้เป็นคนมีคุณธรรมที่เที่ยงตรงต่อหน้าที่ จริงใจต่อเพื่อนฝูง ซื่อสัตย์ต่อนาย และต้องมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เมื่อได้หมั่นฝึกฝนอบรมจิตด้วยสัจจะแล้ว โรคมายาก็ไม่อาจเกาะกุมใจของเขาได้อีก
++++++++++++++++++++++++++
โรคโอ้อวด
เป็นคนประเภทขี้โอ่ คอยแต่จะฟังคำสรรเสริญเยินยอ เมื่อผู้อื่นกล่าวชมไม่ทันใจ ก็พูดบรรยายสรรพคุณของตนอวดคนอื่นโดยไม่เลือกสถานที่ เวลา ว่าตนรู้อย่างนั้น ดีอย่างนี้ จนบางทีโอ่เสียจนน่ารังเกียจ ทั้งที่ใครเขาไม่อยากฟัง
ยารักษา
ต้องรู้จักประมาณตน ปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะฐานะว่าตนเป็นอยู่ในระดับไหน ไม่เย่อหยิ่งทะนงตนว่าวิเศษวิโสกว่าผู้อื่นแล้วเหยียบย่ำผู้อื่นเลวกว่าตน คนที่รู้จักประมาณตนเป็นเหตุให้เห็นคนเป็นคน จึงสามารถวางตนได้เหมาะสม
+++++++++++++++++++++++++++
โรคหลงงมงาย
เป็นโรคทางใจที่ทำให้คนเป็นโรคนี้หลงเห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี เป็นหมอกม่านปิดกั้นสติปัญญาให้มืดมน คนที่ถูกไฟโมหะครอบงำจิตใจย่อมไม่อาจมองเห็นความเป็นจริงได้ แม้นต้องพบกับความทุกข์ลำบาก ก็ยังหลงหัวปักหัวปำ ไม่อาจถอนตัวถอนใจได้ เป็นเหตุให้มีชีวิตที่เศร้าหมองบั่นทอนชีวิตให้สั้นลง
ยารักษา
ต้องใช้ยา คือ สติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัวพร้อม พินิจพิเคราะห์ให้ได้เหตุและผลที่แท้จริงก่อนค่อยทำหรือปลงใจเชื่อในสิ่งใด ทำตัวให้หนักแน่นในเหตุผล ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นในอำนาจของความหลง ก็จะช่วยผ่อนคลายอำนาจของความงมงายไม่ให้ครอบงำใจได้
+++++++++++++++++++++++++++
โรคอิจฉา
เป็นโรคอิจฉาริษยาในลักษณะที่หวงความดี ไม่อยากให้ผู้อื่นดีกว่าตน คนเป็นโรคใจประเภทนี้ไม่ปรารถนาจะพบเห็นหรือแม้แต่ได้ยินว่าคนอื่นได้ดีทำความดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทนไม่ได้ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำดีเยี่ยงเขา เพราะมัวแต่คิดอิจฉาความดีของคนอื่น ตัวเองเลยไม่มีเวลาทำดี ยิ่งทำให้ค่าความดีของตนตกต่ำลงไป คนที่ใช้ความอิจฉาริษยาเป็นลูกศรยิงผู้อื่น แม้ตัวเองก็ได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจ
ยารักษา
ต้องฝึกใจให้มี มุทิตา ความพลอยยินดี ในคุณความดีของผู้อื่น ฝึกฝนอบรมใจให้เป็นคนมีอัธยาศัย ไมตรี ไม่แข็งกระด้าง เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีมีสุข ก็พลอยยินดีไปกับความสำเร็จของเขา แม้ตัวจะด้อยค่าลงไปกว่าเขา ก็ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ โรคร้ายความอิจฉาตาร้อนก็จะผ่อนคลายหายไปในที่สุด
++++++++++++++++++++++++++
โรคหงุดหงิด
คนเป็นโรคใจชนิดนี้เหมือนเป็นไข้เรื้อรัง ทำให้กลายเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นจุกจิกไม่เข้าเรื่อง สร้างความรำคาญใจให้กับคนรอบข้างได้ไม่จบสิ้น ต้องหาเรื่องหงุดหงิดบ่นว่าใครต่อใครไม่เลือกหน้า ถ้าไม่มีก็ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามากล่าวอ้างจนได้ คนที่เป็นโรคนี้มักไม่รู้ตัวว่าเป็นคนทำความรำคาญใจกับผู้อื่น เป็นคนที่น่าเบื่อ ใครต่อใครก็ไม่อยากคบ
ยารักษา
ต้องมีความสำนึกรู้ตัวตนอยู่เสมอ พิจารณาถึงโทษของความหงุดหงิดจู้จี้ขี้บ่น ว่าเราไม่ชอบคนประเภทนี้อย่างใด คนอื่นเขาก็คงไม่ชอบนิสัยอย่างนั้นของเราเหมือนกัน เมื่อคิดได้ดังนี้ก็จะทำให้หายหงุดหงิดไม่จู้จี้ขี้บ่น มีหน้าตาแจ่มใส มีจิตใจที่แช่มชื่น มีความเป็นอยู่ที่สุขกายสบายใจเลยทีเดียว
+++++++++++++++++++++++++++++
โรคขี้ขลาด
โรคขี้ขลาดหรือกลัวในเรื่องที่ไม่ใช่เหตุ หรือในขณะที่ประสบเหตุ เมื่อกลัวจนเกินกว่าเหตุย่อมปิดบังสติปัญญาที่จะใช้แก้ไขปัญหา นับเป็นโรคที่ยังใจให้หดหู่ห่อเหี่ยว ไม่องอาจผลาญกำลังใจของชีวิต ไม่ให้ต่อสู้กับปัญหาเพราะความขลาดกลัวเป็นเหตุ คนที่เป็นโรคนี้จึงต้องเสริมสร้างขวัญและกำลังใจเป็นพิเศษ
ยารักษา
ต้องใช้ปัญญา พิจารณาถึงเหตุและผลของความกลัว ว่าเรากลัวในสิ่งที่จำเป็นต้องกลัวหรือไม่ เช่นกลัวต่อการทำดี เพราะเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าทำเอาหน้า เป็นต้น เมื่อตรึกตรองได้ดังนี้ ก็จะทำให้เห็นคุณของความกล้าในสิ่งที่ชอบที่ควร ก็จะช่วยหยุดยั้งความกลัวที่ผิดปกติได้
ใจของมนุษย์เป็นสิ่งที่ลึกล้ำ
ยากที่จะหยั่งถึง...
กำลังใจจึงมีอิทธิพลเหนือกว่า
ทุกสรรพสิ่งบรรดามี
สำนักพิมพ์ ช่อระกา และ สำนักพิมพ์ เลี่ยงเชียง