ปฏิบัติการถอดรหัสมัดใจเพื่อนร่วมงาน
อันดับหนึ่ง มาแรงแซงโค้งต้องเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีน้ำใจ แบ่งปัน เวลาทำงานไม่ทัน ก็มีเขานี่แหละที่ยื่นมือมาช่วย มีคนโหวตมากถึง 64% ต่อมาคือ...
รับฟังความคิดเป็นของคนอื่น ตั้งใจฟังเราทุกครั้งที่เข้าไปปรึกษา 18%
พูดคุยยิ้มแย้มอยู่เสมอ สดใสทุกครั้งที่ได้เจอ 16%
ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน ขนาดจะหยิบของผ่านหน้าเรายังขอโทษเลย 2%
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว อย่ารอช้า...มาเริ่มปฏิบัติการถอดรหัสมัดใจเพื่อนร่วมงานให้อยู่หมัดกันเดี๋ยวนี้เลย
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าคำพูดเพราะๆ เป็นเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ เพื่อนร่วมงานจะรู้สึกประทับใจคุณได้ไม่ยากด้วยคำพูดหวานๆ ระรื่นหูนี่แหละ
รู้จักใช้คำว่าขอโทษ ขอบคุณ ขอบใจ ให้เป็นนิสัย
หากคุณทำงานผิดพลาดก็ควรกล่าวคำขอโทษ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ใช่เรื่องงานก็เถอะ เช่น เพื่อนฝากซื้อข้าวกลางวัน แต่คุณดันลืมซะสนิท
ถ้ามีโอกาสก็ซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ มาให้เพื่อนคนนั้นเป็นการไถ่โทษละกัน การขอโทษนั้นไม่ได้ทำให้ใครเสียศักดิ์ศรี แต่กลับทำให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้นด้วยซ้ำ
ถ้าจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน เช่น ฝากส่งอีเมล หรือขอติดรถกลับบ้าน ก็ควรกล่าวคำ ขอบใจหรือขอบคุณ คำง่ายๆ แค่นี้สามารถสร้างความรู้สึกที่ดี และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือคุณในครั้งต่อไป นี่ไม่ได้สอนให้ทำอะไรแบบหวังผลนะ...
การที่เรามีบุคลิกสดใส ร่าเริงตลอดเวลา ไม่ว่าใครก็อยากเข้าหาทั้งนั้น เริ่มต้นได้ไม่ยากสำหรับการเป็นสาวจิตใจดี
ก่อนอื่นต้องมีใจรักในงานที่ทำ จะได้ทำงานอย่างมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส แบบพร้อมรับทุกสถานการณ์ เช่น แม้จะโดนเจ้านายเล่นบทโหดก็ยังใจสู้ไม่ท้อ
การเปิดใจกว้างพร้อมรับความคิดใหม่ๆ จะทำให้คุณมีความคิดหลากหลายมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงาน ไร้ความเครียด
บริหารมุกอยู่เสมอๆ
ระหว่างพักทานข้าว ลองปล่อยมุกกระตุ้นต่อมหัวเราะดู ขอบอกว่าการหัวเราะนี่แหละ...เป็นกุญแจสำคัญที่นำความสนุก สดใส มาสู่ออฟฟิศ แถมช่วยให้เรากับเพื่อนร่วมงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้น
สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็สำคัญ ว่างๆ ลองขุดเอาความเป็นกุลสตรีที่มีอยู่มาใช้ สาวเจ้าคิด (แต่ไม่เจ้าแค้น) อย่างเรา ควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้โดย
เริ่มจากหาอุปกรณ์ที่มีอยู่จากบ้านหรือออฟฟิศ ก็เก็บเอามามิกซ์แอนด์แมท จากนั้นก็ลงมือจัดดอกไม้ได้ แต่อย่าลืมใส่ดีไซน์บวกไอเดียเก๋ไก๋เข้าไปด้วยล่ะ...ถ้าเป็นเราต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้น
สำเร็จเสร็จสิ้นแล้วก็เอาไปวางที่ห้องประชุม เพื่อให้ทุกคนได้เห็นทั่วกัน ถ้าใส่ใจอีกนิดจะลองเอาเข้าไปไว้ในห้องเจ้านายสักกระถาง...ก็ไม่ว่ากันนะ
สร้างห้องนั่งเล่นในออฟฟิศ ทำเป็นมุมโปรดที่ใครก็อยากมาแวะเวียน นั่งพักผ่อนระหว่างการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย
หาหนังสืออ่านเล่นเบาสมองมาตั้งไว้
สรรหาเกมส์สนุกๆ มานั่งเล่นคลายเครียดร่วมกันก็ได้
หลังจากนั้นก็รอรับคำชมจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานได้เลย...
หัดแต่งหน้า แต่งตัวให้น่าดู
ถ้าเบื่องานที่ทำทุกวันอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนลุคตัวเองให้น่ารักสดใสขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม จากที่เคยเป็นป้าแก่ๆ ก็ลดวัยมาสวยด้วยชุดทำงานที่มีสีสันดู เช่น
แต่งหน้าโทนชมพูบ้าง หรือแต่งตัวให้เป็นที่เจริญหูเจริญตาแก่เพื่อนร่วมงาน อาจเริ่มจากการเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมฉุนๆ ที่เคยฉีดอยู่ทุกวันมาเป็นกลิ่นวนิลาหวานๆ ดูก็จะยิ่งดี ใครได้เห็นหรืออยู่ใกล้ๆ ก็จะรู้สึกผ่อยคลายหายเครียด แต่ระวังอย่าแต่งอะไรเปิ่นๆ เว่อร์ๆ ให้เพื่อนรอบข้างเครียดเพิ่มขึ้นละกัน
ถ้ามีฝีมือและใจรัก
ลองทำขนมมาให้เจ้านายกับเพื่อนๆ ชิมบ้างก็ไม่เลวนะ เพราะนั่นเป็นวิธีหนึ่งที่เราจะสามารถแสดงความมีน้ำใจ รู้จักแบ่งปัน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
แต่ถ้าจะให้ดี อย่างมากอาทิตย์ละครั้งก็พอ ขืนทำบ่อยๆ มีหวังกระเป๋าฉีก แค่ทำให้ทุกคนในที่ทำงานรู้สึกว่า "พักนี้...คิดถึงขนมอร่อยๆ ของเรา" ก็เกินพอแล้ว
ให้ความสำคัญหรือใส่ใจทุกคนเท่าเทียมกัน
แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อย่ามองข้าม เช่น วันไหนเห็นเพื่อนๆ เคร่งเครียดกับงานกันนัก ก็เขียนข้อความขำขำหรือเป็นกำลังใจใส่การ์ด ไปวางบนโต๊ะทำงานเพื่อน
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
พูดง่ายๆ ก็คือรู้จักเกรงใจ บางครั้งแค่การพูดโทรศัพท์เสียงเบาๆ ในระหว่างที่เพื่อนนั่งทำงานอยู่ใกล้ๆ ก็ช่วยให้รู้สึกดีได้แล้วที่สำคัญ
อย่าลืมว่าความดีในตัวเราต้องออกมาจากข้างในด้วย ดีแบบขอไปทีคงไม่ไหวแน่...นอกจากจะเป็นที่รักในที่ทำงานได้ไม่นานแล้ว อาจจะเป็นที่รังเกียจไปเลยก็ได้ในภายหลังนะจ๊ะ
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย: