ใครรู้ตัวว่า ขี้อาย มั่งยกมือขึ้น?
รู้น่ะว่า ความขี้อายนั้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อย น่าอภิรมย์เท่าไหร่ สำหรับคนสุภาพเรียบร้อย ใช่มะแถมความขี้อายยังทำให้ พวกเขาไม่กล้าเข้าสังคม, ไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิดอยู่ และที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ มันทำให้พวกเขาไม่กล้าเหล่ ใครสักคนมาเป็นแฟนด้วยนี่สิ เจ็บไหมล่ะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านหว่านเสน่ห์ บอกไว้ว่า
ความจริง คนขี้อายนั้นเป็นที่ต้องการของ ใครต่อใครมากมาย (แต่อาจไม่รู้ตัวก็ได้) แต่ความที่บางคนขี้อายมาก ไปจึงทำให้พวกเขาชวด โอกาสที่จะเข้าไปตีสนิท หรือทำความรู้จักมักจี่กับ คนที่เขามีใจให้ อย่างน่าเสียดาย |
|
เพราะฉะนั้น ถ้า ความขี้อาย ทำให้คุณพลาดโอกาส
จากคนพิเศษที่คุณนั้นใฝ่ฝันล่ะก็ ลองอ่านคำแนะนำต่อไปนี้ดูสิ แล้วคุณจะสามารถเอาชนะความขี้อายได้นะเออ
ใน 10 วิธีเอาชนะความขี้อาย (Top 10 Ways To Overcome Your Shyness)
แนะให้คุณผู้อ่านเป็นคนกล้า (ในสิ่งที่ถูกที่ควรนะยะ ไม่ใช่กล้าบ้าบิ่นจนไม่ลืมหูลืมตา) โดยค่อยๆฝึกปรือความกล้า ดังนี้
|
|
1. ฝึกจากการเป็นแม่สื่อให้เพื่อน
ว่ากันว่าปัจจัยหลักที่ทำให้กลายเป็นคนขี้อายก็คือ ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ดังนั้นจงเอาชนะ ปัจจัยข้อนี้ด้วยการลองจีบใครบางคนให้เพื่อนดูสิ คุณจะได้ ไม่ต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับ การถูกบอกปัดไง การเข้าไปลองเลียบๆเคียงๆจีบสาวหรือจีบหนุ่มให้เพื่อนเนี่ย
เชื่อหรอกน่าว่าเป็นงานถนัดแหงซะเพราะการเป็นแม่สื่อแม่ชักน่ะได้บุญนะ แถมยังมีโอกาสได้ฝึกลับฝีปากไว้จีบนาง (หรือนาย) ในฝันให้ตัวเองด้วย ทำงี้ได้ประโยชน์ทั้งกะเพื่อนและกะตัวท่านเองงั้นอย่ารีรอ
|
|
2. ค่อยๆก้าวสั้นๆแต่ระมัดระวัง
ค่อยๆขจัดความอายให้เหมือนกับการฝึกหัดเดินของเด็กดูสิ เอาง่ายๆ เริ่มต้นจากรอยยิ้มก่อน ก็ได้คุณควรยิ้มให้ทุกคน เพราะจะช่วยแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นมิตรและสามารถที่จะเข้า ไปพูดคุยด้วยได้ไม่ยาก ถ้าเผอิญพบกะคนแปลกหน้าและอยากฝึกความกล้าก็นี่เลย เดินเข้าไปทักทายสะวีดัด สวัสดีเค้าหน่อย ทำแบบนี้ 2-3 ครั้ง แล้วค่อยชวนคนแปลกหน้าคุยถึงสิ่งละอันพันละน้อย
ชนิดค่อยๆเปิดตัวเอง แล้วจะรู้ว่าไม่เห็นยากตรงไหน
และถ้าเผื่อคุณกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาดต่อหน้าคนอื่นเข้าล่ะก็ จงลืมมันซะ เนื่องจากคนดีๆโดยทั่วไปมักให้อภัยกับความมะงุมมะงาหรา หรือความเคอะเขินของเพื่อนใหม่ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีพิษมีภัยเสมอแหละ แล้วจะวิตกจริตไปทำไมกันละท่าน
|
|
3. อย่าทำราวกับว่า คนที่คุณเล็งหรือกะจะเข้าไปจีบนั้นเป็นสัญลักษณ์ ทางเพศมากเกินไป
ในกรณีของฝ่ายชาย หากสนใจสาวสักคนขึ้นมา จงอย่ามีทรรศนะว่าเธอเป็นถ้วยรางวัลที่ยาก จะชนะใจเธอได้ แต่ ให้มองหล่อน เป็นคนธรรมดาคนนึงไม่ดีกว่ารึ จะได้ไม่เกิดอาการเก้อเขินไงตัว แล้วอีกอย่างขืนหนุ่มเจอสาวที่ชอบแล้วคิดถึงแต่เรื่อง อยากมีเพศสัมพันธ์กับเธอมากไปล่ะก็ ฝ่ายหญิงเค้าก็มีสัญชาตญาณที่ไม่อยากถูกใคร ลวนลามทางสายตาเหมือนกันนะ
เพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่เธอคิดว่ากำลังถูกรุกหนักเกินไป
โอกาสที่เธอจะปฏิเสธ ก็มีมากเท่านั้นก็ใครเค้าอยากถูกหิ้วไปเป็นนางบำเรอ ตั้งแต่เมื่อแรกพบกันล่ะโอ้ยถูกสายตาหื่นปานนั้น ใครวะจะอยากเข้าใกล้ไอ้บ้านั่น |
|
4. อย่าทำเหมือนกับว่าเค้าคนนั้นเป็น ของบูชาที่อยู่บนหิ้ง
แบบว่า อย่าทำอย่างกะคนที่คุณอยากรู้จักเป็นเทวรูปหรือ สิ่งที่ควรคู่กับการบูชามากกว่าจะรักก็แล้วกันไม่งั้นจะกล้าเดินเข้าไปทัก หรือพูดคุยกะเค้าด้วยไหมล่ะมีแต่จะกระบิดกระบวยไม่กล้าเข้าใกล้
เพราะเกรงบารมีสิไม่ว่างั้นเอางี้ก่อนจะสนอกสนใจใคร
จนถึงกับอยากเข้าไปพูดจาจีบเจิบเมื่อไหร่ให้มองอย่างงี้นะ น้องคนนั้นเค้าไม่ได้เป็นนางฟ้าหรือเทวดามาจากไหน แต่เป็นคนที่คุณอยากแบ่งปันสิ่งดีๆในชีวิตด้วยกันแบบนี้ น่าจะช่วย ลดความประหม่าลงได้หน่อย |
|
5. อย่าคาดหวังอะไรให้สูงเกิน
เมื่อสามารถทำความรู้จักมักจี่กะคนที่คุณสนใจได้แล้ว ควรปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน อย่ากระตือรือร้นหรือรีบรู้จักเค้ามากจนกลายเป็นความเครียด |
|