ดินสอ กับ ยางลบ
เรื่องมีอยู่ว่า ...
ดินสอ กับ ยางลบ
มีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่แท่งหนึ่ง
มียางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่ก้อนหนึ่ง
ดินสอแท่งนั้นเป็นเพื่อนกับยางลบก้อนนั้น ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน
ทำอะไรด้วยกัน
หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน มันจึงเขียนทุกที่ทุกอย่างเสมอตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ
หน้าที่ของยางลบก็คือลบ มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขียนทุกที่ทุกเวลา
เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิมเรื่อยมา
จนกระทั่งดินสอเอ่ยกับยางลบว่า "เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว"
ยางลบจึงถามว่า "ทำไมล่ะ"
ดินสอจึงตอบกลับไปว่า "ก็เราเขียนนายลบแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย"
ยางลบจึงเถียงว่า "เราทำตามหน้าที่ของเราเราไม่ผิด"
ทั้งคู่จึงแยกทางกัน
ดินสอพอแยกทางกับยางลบมันก็ดีใจที่สามารถเขียนอะไรได้ตามใจมัน
แต่พอเวลาผ่านไปมันเริ่มเขียนผิด ข้อความที่สวยๆ ที่มันเคยเขียนได้ก็สกปรก
มีแต่รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด มันคิดถึงยางลบจับใจ
ฝ่ายยางลบพอแยกทางกับดินสอมันก็ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องสกปรกอีกต่อไป
พอเวลาผ่านไป มันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า เพราะไม่มีอะไรให้ลบ มันคิดถึงดินสอจับใจ
ทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลงเขียนแต่สิ่งที่ดี
ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะที่ดินสอเขียนผิดเท่านั้น
ถ้าเปรียบการเขียนเป็นการจำ ดินสอในตอนแรกก็จำทุกเรื่องทั้งดีและไม่ดี
แต่พอเวลาเปลี่ยนไปมันก็หัดเลือกจำแต่สิ่งดีๆ เท่านั้น
ส่วนการลบเปรียบเหมือนการลืม
ยางลบในตอนแรกก็ลืมทุกอย่าง ทั้งดีและไม่ดี
แต่ทุกครั้งที่ลืมตัวมันก็จะสกปรก
แต่ตอนหลังมันเลือกลืมแต่เรื่องไม่ดี หรือคือการให้อภัยนั่นเอง
ฉะนั้นการเปรียบการเดินทางของทั้งคู่ดุจมิตรภาพ คือ การจำแต่สิ่งดีๆ
และลืมในสิ่งที่อาจผิดพลาดบ้าง ถ้าเราเป็นเช่นนั้นบ้างก็คงจะดีนะคะ
เพราะถ้ามนุษย์เราคอยแต่ที่จะชิงดีชิงเด่น
และคิดอาฆาตมาดร้ายกันอยู่ตลอดเวลาคงจะไม่มีความสุข
มิตรภาพสร้างขึ้นได้ยาก
แต่ทำลายได้ง่ายนิดเดียว
เราจะมีความสุขบนโลกใบนี้ถ้ารู้จักการให้อภัยนะ
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย: