ยิ้มนี้…..มีความหมาย

ยิ้มนี้…..มีความหมาย



ยิ้ม ..... เพื่ออารมณ์ดี
ยิ้ม ..... เพื่อไมตรีจิต
ยิ้ม ..... เพื่อสร้างมิตรภาพ
ยิ้ม ..... เพื่อความซาบซึ้งใจ
ยิ้ม ..... เพื่ออภัยและคืนดี
ยิ้ม ..... เพื่อวันนี้และวันหน้า ..... เพิ่มคุณค่าของชีวิตและจิตใจ






นักพันธุศาสตร์ได้ศึกษาและยืนยันว่า การยิ้มไม่ใช่เพียงเพื่อสื่อต่อกับผู้อื่นเพียงอย่างเดียว แต่เป็นธรรมชาติซึ่งเริ่มตั้งแต่ในวัยเด็กเล็ก เมื่อเด็กอายุ3เดือน ยิ้มธรรมชาตินี้จะทำหน้าที่เต็มที่และถ้าเด็กได้รับการเสริมกระตุ้นจากท่าทีโต้ตอบการยิ้มจากผู้ใหญ่หรือใกล้ชิด เด็กจะเลียนแบบการยิ้มบ่อยขึ้นมีลักษณะยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริง เหมือนการฝึกหนูถีบจักร ถ้าหยุดอาหารพฤติกรรมนั้นจะน้อยลงจนหยุดกระทำ เช่นเดียวกับเด็กที่ครอบครัวทอดทิ้ง หรือเด็กสถานสงเคราะห์จะถูกกระตุ้นน้อยมากจนในที่สุดไม่ยิ้ม มีพฤติกรรมโขกศีรษะกับพื้นและนั่งโยกตัว

ในห้องทดลอง เขาทดลองกับเด็กหลัง 4 เดือน โดยบันทึกการยิ้ม 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีผู้ยิ้มตอบ อุ้ม และหยอกล้อด้วย กับกลุ่มที่ไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบจากผู้ใดเลย ปรากฏว่ากลุ่มที่มีผู้สนใจยิ้มตอบ จะร่าเริงแจ่มใส อีกกลุ่มจะไม่ยิ้ม (เหมือนเด็กจากสถานสงเคราะห์ที่มีการโยกตัว และโขกศรีษะ)
ดังนั้น เด็กปกติที่เติบโตจากการเลี้ยงดูโดยแม่และคนเลี้ยงยิ้มรับ โต้ตอบ และสัมผัสจะเป็นเด็กยิ้มง่ายร่าเริง และพร้อมที่จะติดต่อสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น

ส่วนเด็กที่ถูกเลี้ยงอย่างบังคับเข้มงวดให้เก็บกดอารมณ์ หรือการแสดงออก จะยิ้มยากและไม่ค่อยอยากพุดคุยติดต่อกับผู้อื่น เพราะการพูดคุยยิ้มแย้มเป็นการแสดงออกทางอารมณ์กับผู้ที่เราติดต่อด้วย ในผู้ใหญ่การยิ้มมีความหมายและมีสาเหตุอื่นๆประกอบมากขึ้น โดยเฉพาะหนุ่มสาวการยิ้มให้กันและกันอาจสื่อถึงการทอดสะพาน ให้โอกาสผู้นั้นเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้นหรือบอกให้รู้อยากเป็นมิตร ยิ้มอาจเป็นการเร้าความรู้สึกทางเพศซึ่งกันและกันด้วย โดยเฉพาะการใช้สายตาประกอบพฤติกรรมเช่นนี้จะเป็นลักษณะการแสดงออกเพื่อเปิดเผยตนเอง และบอกให้รู้ว่าอยู่ในภาวะสบายอารมณ์

ในมนุษย์ การยิ้มเป็นการเคลื่อนย้ายกล้ามเนื้อบริเวณปากที่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าอากัปกริยาอื่น เป็นการสื่อสารที่รวดเร็วกว่าการยกมือหรือการเดิน ทั้งได้รับการชื่นชมมากกว่า การยิ้มต้องมีตัวเร้าหรือกระต้น อาจมาจากภายนอก เช่นบุคคลอื่นที่เราติดต่ออยู่ กำลังพูดคุยกับเพื่อนหรือไม่มีบุคคลแต่ติดต่อผ่านทางเสียงเช่น โทรศัพท์ คนก็ยิ้มโต้ตอบได้ หรืออยู่คนเดียว แต่มีความคิดผ่านแวบเข้ามาที่ทำให้ขำหรือถูกใจ จะยิ้มในหน้าหรือยิ้มคนเดียวได้ในบางครั้ง

มีข้อสรุปที่น่าฟังว่าการยิ้ม.....เป็นการที่ทารกน้อยใช้ผูกพันมารดาให้เป็นของตนและใช้พัฒนาตนเองเพื่อการเติบโต สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นจนในที่สุดเขาก็มีทารกน้อยๆอีกคนของเขาเอง”
ดังนั้น เมื่อคุณทราบว่า ยิ้ม มีความหมายต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่นและที่สำคัญคือ สร้างความสุขทั้งผู้ให้และ
ผู้รับ


 โปรดยิ้ม ตั้งแต่บัดนี้ ยิ้มด้วยความเต็มใจและถามตนเองทุกวันว่า วันนี้เรายิ้มแล้วหรือยัง ท่านจะพบความมหัศจรรย์อีกอย่างที่ตามมาคือ ท่านจะสวยขึ้นกว่าเดิมจนทุกคนแปลกใจในบุคลิกของท่าน ขอให้เริ่มตั้งแต่วันนี้นะคะ




ที่มา
กรมสุขภาพจิต

กระทรวง สาธารณสุข

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์