ก่อนหน้านั้นอังกฤษได้จัดตั้งเมืองบนดินแดนเซียร์ราลีโอน
เพื่อเป็นที่อพยพของอดีตทาสผิวดำของอังกฤษ
และทหารผ่านศึกของอังกฤษจากสงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา
เซียร์ราลีโอนตกเป็นอาณานิคมและฐานทัพเรือของอังกฤษ
ในการปราบปรามการค้าทาส ซึ่งทำให้ประชากรส่วนใหญ่ในกรุง Freetown
สืบเชื้อสายมาจากทาสที่ได้รับการปลดปล่อยก่อนที่จะถูกส่งไปยังอเมริกา
ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายมาจากไนจีเรีย และแองโกลา
หลังจากเซียร์ราลีโอนได้รับเอกราช
และมีการปกครองโดยระบบพรรคการเมืองเดียว
ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Siaka Stevens ระหว่างปี 2511-2528
รัฐบาลได้แสวงหาประโยชน์จากการทำเหมืองเพชรที่มีอยู่มาก
แต่ที่ตามมาคือ ปัญหาการคอรัปชั่น การแสวงหาประโยชน์
และการบังคับใช้แรงงานในเหมืองเพชร
ได้ส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองในเซียร์ราลีโอน
เหตุผลใหญ่ส่วนหนึ่งเกิดจาก ความไม่พอใจ
ความโกรธแค้น ต่อคนผิวขาว
ที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์
จากทรัพยากรล้ำค่าในเซียร์ราลีโอน
ประจวบกับประชาชนเกิดความขัดแย้ง
กับรัฐบาลแบบทรราชย์
ทำให้เกิดการแตกแยกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย
♣ สงครามความโหดร้ายในแอฟริกา ♣
กลุ่มกบฏ RUF (Revolutionary United Front soliders )กลุ่มเยาวชนหัวรุนแรง
และผู้ถูกบังคับใช้แรงงานในเหมืองเพชร
ได้ลุกฮือขึ้นจัดตั้ง
กลุ่มกบฏ RUF (Revolutionary United Front)
โดยมีโฟเดย์ แซนโกห์
อดีตนักรบในกองทัพ เป็นผู้นำ
โดยได้รับการสนับสนุนจาก
นาย Charles Taylor ผู้นำไลบีเรีย
กลุ่ม RUF ได้ทำการสู้รบต่อต้านรัฐบาล
ส่งผลให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
แย่งชิงอำนาจระหว่าง
ฝ่ายทหาร AFRC (Armed Forces Revolutionary Council )
ฝ่ายรัฐบาลพลเรือน - SLPP(Sierra Leone People’s Party )และฝ่ายรัฐบาลพลเรือน - SLPP
(Sierra Leone People’s Party )
ซึ่งจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ
จนเกิดเป็นการสู้รบสามเส้ายืดเยื้อยาวนาน
และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดสงครามการเมืองอันเหี้ยมโหดขึ้น
นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน
มีสถิติคนตายถึง 200,000 คน
พร้อมกับอีกหลายหมื่นคนที่ต้องพิการไปตลอดชีวิต
วิธีการของพวก RUF ที่ใช้ต่อต้านรัฐบาลคือ "การฆ่าประชาชน!"
ขนาดเอกอัครราชทูตของสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ
ถึงกลับเอ่ยปากว่าสงครามกลางเมืองครั้งนี้เป็น
"หนึ่งในความน่าสะพรึงกลัวที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์โลก
(one of the world's most repugnant insurgencies)
สงครามกลางเมืองที่สุดแสนเหี้ยมเกรียมและอำมหิต
กว่าครั้งใดๆในหน้าประวัติศาสตร์สงครามการเมือง
ก็เพราะว่าพลเมืองตาดำๆต้องเป็นผู้รับชะตากรรมอันโหดร้ายโดยตรง
นอกจากนี้เพื่อเป็นการบีบบังคับรัฐบาล
RUF ยังประกาศที่จะทำลายบ้านเมือง
ตึกรามบ้านช่องให้พังพินาศเป็นหน้ากลองอีกด้วย
ซึ่ง RUF ก็ทำตามที่ได้ประกาศไว้ด้วย
อาคารสถานที่ต่างๆทั้งในเมืองหลวง Freetown
และตามหมู่บ้านถูกทำลายด้วยอาวุธจนแหลกลาญ

พร้อมกันนี้ RUFได้ทำให้โลกต้องรับรู้กับปฏิบัติการ "ตัดข้อต่อ"
(crude amputation of limbs)
ซึ่งได้แก่การตัดแขนและมือของประชาชน
ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เพื่อเป็นการกระพือสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น
RUF มีศัพท์แห่งความตายของตัวเองด้วยกัน 2 คำ
ถ้ามีคำสั่งแห่งว่า "Shirt Sleeve" คนๆนั้นจะถูกตัดแขนตรงบริเวณหัวไหล่
และกับคำสั่งว่า "Long Sleeve" คนๆนั้นจะถูกตัดแขนตรงบริเวณข้อมือ
วันดีคืนร้าย RUF ก็จะบุกเข้ามาในเมือง หรือไม่ก็หมู่บ้านคนธรรมดา
แล้วให้เด็กใช้ปืนยิงชาวบ้าน แบบปูพรม.....
เพื่อสังหารทหารรัฐบาล ฆ่าชาวบ้าน ปล้น จี้ ข่มขืน ฆ่าผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็ก
รวมทั้งนำเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบ (ขึ้นไป) จนถึงวัยรุ่น เอาไปฝึกอยู่ในกองทัพ
เด็กซึ่งถูกนำตัวไปฝึกเป็นกองกำลัง
หากใครขัดขืนก็จะยิงทิ้ง หรือไม่ก็ตัดแขนตัดมือ
ส่วนคนที่ยอมเข้าพวก คนที่แข็งแรงหน่อยก็เอาไปเป็นแรงงาน
ในเหมืองเพชร(เถื่อน)
ส่วนพวกเด็ก วัยรุ่น จะให้พี้ยาเสพย์ติด แล้วติดอาวุธ
เป็นหน่วยล่าสังหารในดินแดนแห่งนี้แบบไม่รู้จบรู้สิ้น
นานาชาติได้พยายามเข้ามาส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสงครามกลางเมือง
โดยในปี 2541 กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแอฟริกาตะวันตก
Economic Community of West African States (ECOWAS)
ได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ
Economic of West African States Cease-fire Monitoring Group (ECOMOG)
นำโดยกองกำลังไนจีเรีย ไปยังเซียร์ราลีโอน
เพื่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ,
และในที่สุดในปี 2542 สหประชาชาติได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ
United Nation Mission in Sierra Leone (UNAMSIL)
เข้าปฏิบัติการรักษาสันติภาพจนส่งผลให้สงครามกลางเมืองยุติลงในปี 2544
และมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี และการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2545
กองทัพไทยได้มีส่วนร่วมปฎิบัติภารกิจกับสหประชาชาตินี้ด้วย
ในช่วงปี 2542-2548
โดยการส่งทหารไทยไป 6 ผลัดๆ ละ 5 นาย
(ข้อมูลจากกระดานเสวนา www.taharn.com)
ปัจจุบัน แม้ว่าเซียร์ราลีโอนจะพ้นจากภาวะสงครามกลางเมือง
แต่สหประชาชาติยังคงจัดตั้งหน่วยงาน United Nations Integrated Office
in Sierra Leone (UNIOSIL) เพื่อปฏิบัติหน้าที่การบูรณาการด้านต่าง ๆ
ในเซียร์ราลีโอน รวมทั้งจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อเซียร์ราลีโอน
และควบคุมการส่งออกเพชรจากเซียร์ราลีโอน (Kimberly Process)
เพื่อป้องกันการส่งออกเพชรผิดกฎหมายและนำเงินมาสนับสนุนสงคราม
ครั้งหนึ่ง เซียร์ร่า ลีโอนี่ เคยได้ชื่อว่าเป็น "Athens of Africa"
เนื่องจากเป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งศิลปะและวิทยาการของภูมิภาค SSA
แต่วันนี้ความเจริญรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีตกลับกลายเป็นเรื่องเล่าขานในตำนานไปเสียแล้ว
ผู้คนที่นี่ไม่เว้นแม้แต่สุนัขริมถนนก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง
ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะบอกกับอาคันตุกะจากต่างเมืองอย่างหดหู่ในช่วงตะวันลับฟ้าว่า
"Those dogs are not sleeping, they just have their eyes closed."
เมื่อ RUF ก็ยังมีอิทธิพลรังควานความสงบสุขอยู่
รัฐบาลก็หวังพึ่งไม่ได้
ทำให้ชาวเซียรา ลีโอน ต้องหาวิธีช่วยตัวเองด้วยการ
พากันไปตั้งกองกำลังต่างๆ เพื่อป้องกันตัวอยู่ทั่วประเทศ
จึงเป็นกลุ่มกองกำลังสารพัดที่แฝงอยู่ตามที่ต่างๆ
ทำให้ประเทศที่ครั้งหนึ่งน่าจะรวยที่สุดในทวีปอาฟริกา
กลายเป็นดินแดนแห่งความตายในพริบตา
ประเทศเซียรา ลีโอนี่ จึงเป็นแดนมิคสัญญีที่มีทุ่นสังหารกระจัดกระจายเกลื่อนทั่วประเทศ
แม้ประเทศนี้ เริ่มสงบลงแล้ว แต่การแก้ปัญหา การพัฒนาประเทศ
ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะเพชรอันเป็นที่หมายตาของกลุ่มผู้ต้องการผลประโยชน์
เพชรที่เสมือนเป็นเชื้อไฟให้นำไปสู่การทำรัฐประหาร
เพื่อชิงความเป็นใหญ่เหนือดินแดนแห่งนี้
แม้ทางสหประชาชาติได้หาทางออก
ด้วยการพยายามควบคุมธุรกิจการค้าเพชร
แต่ขบวนการค้าเพชรเถื่อนก็ยังมีอยู่
สภาพของเซียร์ร่า ลีโอนี่จึงคล้ายกับมีระเบิดเวลาซุกซ่อนอยู่
รอเพียงแต่ว่ามันจะระเบิดเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

ความโหดร้ายของสงครามกลางเมืองแอฟริกา
1. สงครามกลางเมืองในคองโก (Democratic Republic of the Congo)
สงครามกลางเมืองในคองโกเท่าที่ผมพอจะหาข้อมูลได้พบว่ามีจำนวนผู้คนไม่น้อยไปกว่า 4 ล้านคนที่เกี่ยวข้องกับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สงครามกลางเมืองของคองโกได้รับการเรียกขานวา the deadliest conflict เพราะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากทั้งจากการสู้รบและโรคระบาด โดยไม่รวมไปถึงผู้ที่ต้องตายอดอยากอีกหลายพันคน ข้อมูลระบุว่ามีกองกำลังติดอาวุธประมาณ 20 กองกำลังในสงครามกลางเมืองคองโกซึ่งมีความพยายามที่จะแย่งชิงทรัพยากรโดยเฉพาะแร่เพชรและความมั่งคั่งของป่าไม้ แม้วาจะมีทำสัญญาสงบศึกษาในปี 2002 แต่ก็ยังไม่มีกลุ่มใดยอมวางอาวุธโดยที่อัตราความรุนแรงก็ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ
2. สงครามกลางเมืองในซูดาน (Sudan)
ความขัดแย้งใน Darfur region ทางภาคตะวันตกของซูดานเริ่มต้นขึ้นเมื่อกองกำลังทหารเชื้อสายอาหรับที่มีรัฐบาลซูดานให้การสนับสนุนขัดแย้งผลประโยชน์กับกลุ่มที่ไม่ใช่ชาวอาหรับในเรื่องของการแย่งชิงพื้นที่และแหล่งน้ำรวมไปถึงแหล่งน้ำมัน การสู้รบทำให้มีผู้เสียชีวิตว่า 200000 คนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกว่า 2 ล้านคน
3. สงครามกลางเมืองในอูกันดา (Uganda)
สงครามกลางเมืองในอูกันดาจากเท่าที่ศึกษามาผมว่ามีความรุนแรงและมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุดประเทศหนึ่ง ความรุนแรงดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อปี 1987 เมื่อกองกำลัง the Lord's Resistance (the Lord's Resistance Army) ได้รุกรานทางเหนือของอูกันดาโดยอ้างเหตุผลในการสถาปนารัฐภายใต้บรรญัติสิบประการ (the Ten Commandments) แต่กองกำลังดังกล่าวกลับได้กระทำการอย่างรุนแรงต่อสิทธิมนุษยชน เช่น การเข้าปล้นทรัพย์สินในหมู่บ้าน มีการลักพาเด็กว่า 20000 คนเพื่อบังคับให้เด็กชายเป็นทหารและที่เลวร้ายกว่านั้นเด็กหญิงจะถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างทารุณ ในขณะที่มีพลเรือนจำนวนกว่า 12000 คนถูกฆ่าตายและยังมีอีกกว่า 1.4 ล้านคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย โดยรัฐบาลอูกันดาล้มเหลวในการป้องกันกำลัง LRA ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในประเทศซูดานพื้นบ้านที่มีพรมแดนติดกัน
4. สงครามกลางเมืองแองโกลา (Angola)
สงครามความขัดแย้งเริ่มต้นภายหลังจากการประกาศอิสรภาพจากโปรตุเกสในปี 1974 สงครามกลางเมืองในแองโกลานี้กินเวลากว่า 28 ปีซึ่งถือว่าเป็นสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุดในแอฟริกา โดยหลังจากการประกาศอิสรภาพแล้วนั้น*กลุ่มชาติพันธุ์ (national groups) สามกลุ่มได้พยายามปลดแอกตนเองให้พ้นจากการปกครองของโปรตุเกสและได้ต่อสู้กันเองภายหลังในช่วงสงครามเย็นก็ได้กลายเป็นสงครามตัวแทน (proxy war) ของสหรัฐอเมริกาและอดีตสหภาพโซเวียต
5. สงครามการเมืองในเซียรา ลีโอน (Sierra Leone)
ในปี 1991-2002 กองกำลังปฏิวัติ the Revolutionary United Front (RUF) ได้ต่อสู้ฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการปกครองประเทศและสิทธิในการเข้าครอบครองแหล่งแร่เพ็ชรซึ่งมีมากในเซียรา ลีโอน ในการทำสงคราม กองกำลังปฏิวัติ the Revolutionary United Front (RUF) ได้ใช้เงินที่ได้จากการขายเพ็ชรมาซื้อมาอาวุธและได้รับการสนับสนุนจาก Charles Taylor ซึ่งต่อมาได้เป็นประะธานาธิบดีของไลบีเรีย สงครามกลางเมืองของ เซียรา ลีโอนนี้ได้รับการกล่าวถึงมากในเรื่องของการฝึกเด็กเป็นทหารและการตัดทิ้งอวัยวะของประชาชน (amputation of civilians) ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
6. สงครามกลางเมืองในไลบีเรีย (Liberia)
สงครามกลางเมืองในไลบีเรียเริ่มต้นในปี 1999 เมื่อกลุ่มกบฏ Liberians United for Reconciliation and Democracy ยึดครองฐานที่มั่นทางภาคเหนือมีการสู้รบกับกลุ่มกบฏอีกกลุ่มหนึ่งคือ the Movement for Democracy in Liberia ซึ่งได้ยึดครองพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศ ประชาชนหลายพันคนถูกฆ่าตายในระหว่างการสู้รบ รัฐบาลไม่สามารถสร้างเสถียรภาพได้จากการสู้รบและการยึดครองพื้นที่อย่างต่อเนื่องของกลุ่มกบฏ ในที่สุดเมื่อทนต่อแรงกดดันจากนานาชาติไม่ไหว ประธานาธิบดี Taylor จึงหลบหนีไปลี้ภัยไปยังไนจีเรีย
7. การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดา (Rwandan Genocide)
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาปี 1994 เป็นการฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาว Tutsi ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยและชาว Hutu ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตกว่า 800000 ในช่วงเวลาเพียงกว่า 100 วัน เหตุการณ์ในรวันดาได้ชื่อว่าเป็นสงครามกลางเมืองที่นองเลือดที่สุดและเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายที่สุดในทศวรรษในปี 1990s

หากข้อมูลเรียบเรียงผิดพลาดประการใด ต้องขอโทษด้วย
เพราะเป็นครั้งแรกที่ จขกท. รวบรวมข้อมูลเอง
เครดิตเว็บไซด์ที่จขกท. รวบรวมมา ขอบคุณ ณ. ที่นี้ด้วย
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=6219.msg48850
http://atcloud.com/stories/46067


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday