ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน

ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน


ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน



ที่พวกเรามาบำเพ็ญสมาธิ ภาวนา ทำจิตใจให้สงบ

ก็เพื่อศึกษาปัจจุบันธรรม ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน

ปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้

ปกติจิตใจของเรามักจะคิดอยู่กับอดีต หรืออนาคตเป็นส่วนใหญ่

เราไม่ค่อยรู้จักว่าปัจจุบันคืออะไร

ในการศึกษาธรรมะ ปัจจุบันธรรม สำคัญมาก

เพราะอดีตก็ผ่านไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง



พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนว่า

อดีตผ่านไปแล้ว อย่าไปยึด อย่าไปคิด

เรามักครุ่นคิดอยู่ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว คิดแล้วก็แค้นใจ เสียใจ น้อยใจ

หรือไม่จิตก็คิดห่วงกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คิดแล้วก็ทุกข์




ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน




อันนี้พระพุทธเจ้าว่าไม่มีประโยชน์

ถ้าศึกษาปัจจุบันธรรม เราก็เข้าใจทั้งอดีตและอนาคต

เพราะอดีตเป็นเหตุ ปัจจุบันเป็นผล

ปัจจุบันเป็นเหตุ อนาคตเป็นผล

ฉะนั้น ปัจจุบันจึงเป็นที่รวมของเหตุและผล

ปัจจุบันนี่แหละเป็นเหตุ

เหตุ ก็มีเหตุดี กับเหตุไม่ดี เราเลือกทำอะไรก็ได้

ทำดีก็ได้ ทำชั่วก็ได้ เราก็เลือกเอา

ถ้าเราไม่ได้ปฏิบัติ ไม่ได้ศึกษาธรรมะ เราก็ทำตามอำเภอใจ

ทำตามความเคยชิน หรือว่าทำตามกิเลส ตัณหา



การกระทำก็มีทั้ง ทางกาย วาจา จิต

การกระทำเรียกว่า "กรรม"

มี 3 อย่างคือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

สิ่งที่เราทำไป เรียกว่า "ทำ" นี่แหละคือการกระทำ

การกระทำก็ทำตามความคิด คิดดีก็ได้ คิดชั่วก็ได้

พูดดีก็ได้ พูดชั่วก็ได้ ทำดีก็ได้ ทำชั่วก็ได้




สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
วัดป่าสุนันทวนาราม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์