เป็นผู้หญิงนี่ก็ดีเหมือนกัน
ชีวิตผู้หญิงไม่ได้น่าลำบากอย่างที่บ่นกันเท่าไหร่หรอก เพราะความใสๆ ในตัวทำให้ใครเห็นก็อกใจอ่อนไมได้ เลยทำให้นอกจากวิกฤตในที่ทำงานได้ตั้งหลายครั้ง เปลี่ยนความน่ารักของผู้หญิงให้เป็นประโยชน์ต่องานของเรา แค่รู้จักใช้ข้อดีให้งานพุ่งปรี๊ดได้ไม่ยาก
สาวๆ ตกงานน้อยกว่าผู้ชาย
ตามสถิติจากหน่วยงาน Bureau of Labor Statistics ว่าเกือบ 80% ของพนักงานที่เจอพิษเศรษฐกิจตั้งแต่ธันวาคม 2007 ถึง มิถุนายน 2008 จนต้องโดนให้ออกเป็นผู้ชาย อาจเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่ผู้ชายเข้าไปทำงานในวงการที่เศรษฐกิจซบเซาหนักที่ สุด อย่างการก่อสร้าง อุตสาหกรรมและด้านการเงิน เมื่อเทียบกับผู้หญิงซึ่งจะทำด้านสุขภาพ การศึกษา และงานราชการที่มั่นคง และกำลังเติบโตได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
สาวๆ เป็นหัวหน้าทีม แบบนุ่มลึก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการบอกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นหัวหน้าที่ดีมากกว่า เพราะนอกจากจะเป็นหัวหน้าสั่งงานแล้วยังเป็นนักฟังที่ดี คอยให้คำแนะนำเป็นนักแก้ปัญหาและเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ เก่งกว่าผู้ชาย อย่างธุรกิจที่เน้นการบริการ หัวหน้าต้องให้ลูกน้องตื่นตัวอยู่ตลอด ผู้หญิงจะเข้าถึงจิตใจพนักงานและรู้วิธีพูดสร้างกำลังใจในแผนกได้ดีกว่าด้วย
สาวๆ ใช้ใจมาก่อน
ผู้ชายมองทุกอย่างเป็นขาวและดำตอนตัดสินใจ แต่ผู้หญิงจะใช้ความรู้สึกหรือเซนส์เพิ่มเข้าไปอีก เรียกว่าให้หัวใจเป็นเข็มทิศนำทางมากกว่าสมอง ความอ่อนโยนถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงอย่างเราอยู่แล้ว ก่อนตัดสินใจอะไรเลยต้องคิดให้ดีทุกครั้ง
สาวๆ ไม่มีขาดเรื่องคุย
เจ้านายผู้หญิงสามารถผสมบุคลิกในแบบผู้ชาย เช่นตัดสินใจโชะๆ ภายใต้ความกดดันได้สบาย โดยใช้จุดเด่นของผู้หญิง อย่างทักษะการพูดที่ฟังดูอ่อนหวานแต่ก็มีความน่าเกรงขามซ่อนอยู่ในบทสนทนา ไม่แปลกเลยที่พอหัวหน้าผู้หญิงพูดเสียงเนิบๆ เร่งงานทำเอาลูกน้องขนหัวลุกซู่กันเกรียว
เก่งๆ อย่างฉัน คนรู้จักกันทั่วโลก
อินเตอร์เน็ตมีประโยชน์มาก เพราะทำให้โลกนี้รู้จักกันมากขึ้น ยิ่งยุคนี้ที่เว็บไซต์แนว Networking หรือสามารถกดหาคนๆ หนึ่งได้ไม่ยาก แค่ใส่ชื่อเข้าไปค้นหา อย่างที่เมืองนอกหนุ่มสาวทำงานจะรู้จักกันดีสำหรับเว็บไซต์นี้ linkedin สมัครเข้าไปแล้วเราก็อัพโหลดใบสมัครออนไลน์ หางานตามสายอาชีพหรือจะรับจดหมายรับรองจากหัวหน้างานเดิม (ถ้าเขาใช้งานเหมือนเดิม) ซึ่งเว็บนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลให้เหมือนกับเว็บไซต์เครือข่ายทั่วไป แต่เว็บนี้เน้นให้เข้ามาดูประวัติงานโดยเฉพาะ ส่วน facebook จะเป็นสังคมเพื่อเฮฮา เอาเป็นว่านอกจากสมัครงานปกติ ลองใช้วิธีนี้เปิดโอกาสให้คนอื่นอีก 50 ล้านคนเข้ามาดู เขาอาจสนใจในตัวคุณก็ได้
หนีงานยากไม่พ้น พุ่งชนเลยดีกว่า
ไทเลอร์ โคเวน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน บอกว่า คนชอบยื้อเวลา ทิ้งงานยากและกดดันไว้ทำทีหลังสุดของวัน เลยต้องเผางานในเวลาเร่งรีบน้อยนิด สุดท้ายก็เสร็จไม่ทันทุกที รู้อย่างนี้แล้วรีบจัดการงานที่สำคัญมากที่สุดเป็นอย่างแรกในตอนเช้า ส่งงานได้หน้ากับหัวหน้าแล้วยังนั่งทำงานแบบสบายใจ ลั้นลาไปทั้งวัน