ทะเลาะอย่างไรให้ลงตัว
หากเกิดปัญหาขึ้น เราจะประนีประนอมถนอมความรู้สึกคน รักได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหยุมหยิมไปจนถึงเรื่องการให้เกียรติ กัน และความเสมอภาคเท่าเทียม เราจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีที่จะจัดการ กับความขัดแย้งเหล่านี้ คุณจะตำหนิเขาอย่างไร โดยที่ไม่ใช้คำพูด ถากถางเขา คุณจะขอร้องเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอย่างไรโดยไม่มีการ ข่มขู่ หรือทะเลาะกันด้วยวิธีไหนด้วยคำพูดและการกระทำแบบใดที่ จะไม่ทำให้คุณเสียใจภายหลัง
ติเตียนโดยไม่ใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีนี้เราควรฝึกฝนไว้ใช้กับทุกๆเรื่องในชีวิตประจำวัน ลองนึกดูสิว่าถ้าเจ้านายของคุณ ตำหนิคุณเรื่อง งานโดยใช้คำพูดที่คุณฟังแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็จะไม่รู้สึกเครียดเลย หรือการที่คุณ สามารถบอกคนรักได้ว่าคุณไม่พอใจที่เขาทิ้งกางเกงในเกะกะบนพื้น โดยไม่ใช้คำพูดถากถางเขา สิ่งที่ควร ทำคือคุณควรรู้จักยั้งคำพูดเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าระเบิดออกไปอย่างกราดเกรี้ยว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเรา แนะให้คุณเก็บกดความโกรธเอาไว้นะ คุณสามารถบอกคนรักเข้าใจความรู้สึกของคุณโดยนำการกระทำ และความรู้สึกมาผูกไว้ในประโยคคำพูด เช่น "เวลาคุณ(การกระทำของเขา) ฉันรู้สึก(ความรู้สึกของคุณ)" โดยคุณเพียงแต่เติมคำลงในวงเล็บ ซึ่งควรเป็นคำพูดที่ตรงและเห็นภาพได้ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกางเกงในเกะ กะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิด" พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดใดๆ ที่จะไปพาดพิงถึงแรงจูงใจใดๆ ของ ผู้กระทำ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกาเกางชั้นในเกะกะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นทาสของคุณที่ต้องคอย ตามเก็บ" พูดอะไรให้มันตรงประเด็นและเข้าใจได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการพูดจาดูแคลน การพูดจาดูถูกกันไม่ได้เป็นผลดีอะไรขึ้นเลย รวมถึงแววตาที่แสดงความรังเกียจสะอิดสะเอียน หรือ คำพูดที่ออกแนวเยาะเย้ย สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณร้ายส่อว่าชีวิตคู่มีปัญหาขนาดหนักที่คุณจำเป็นต้องเปิดอก คุยกันแล้ว อย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณเหล่านี้ หากคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดจาเชิงเยาะเย้ยคนรักเมื่อใด เมื่อนั้น คุณควรสำรวจทบทวนความรู้สึกของตนเองได้แล้ว คุณกำลังคิดว่าไม่ว่าเขาทำอะไรมันก็ผิดไปหมด แล้ว สิ่งที่คุณทำนั้น มันถูกทุกอย่างแล้วเหรอ คุณควรมองพฤติกรรมของคนรักในแง่มุมอื่นๆดูบ้าง
โทษที่การกระทำ ไม่ใช่ที่ตัวผู้กระทำ การกล่าวโทษว่าตัวเขาน่ะผิด ไม่ใช่การกระทำของเขาที่ผิด จะนำไปสู่ปัญหาได้ ซึ่งเราก็โทษกันแบบ นี้อยู่บ่อยๆ "คุณไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลย" ไม่มีใครพอใจที่ถูกกล่าวหาอย่างนั้นหรอก และคนเราเมื่อ ถูกกล่าวหาก็จะต้องพูดจาปกป้องตัวเอง ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกโกรธและอยากจะระบายออกมา คุณควรจะสงบ สติอารมณ์และคิดมุ่งไปที่ตัวปัญหา ถ้าคุณอยากให้เขารู้ถึงความรู้สึกของคุณ ก็ควรใช้คำพูดที่บ่งถึงการ กระทำของเขาที่กระทบความรู้สึกของคุณ พูดเฉพาะการกระทำที่ทำให้คุณโกรธแทนที่จะพูดว่า "เวลา คุณโมโหนี่เหมือนวัวบ้าเลยนะ" ควรพูดว่า "เวลาคุณโมโหขึ้นมาฉันรู้สึกกลัวค่ะ"
พูดกันให้เข้าใจ ความมั่นคงทางอารมณ์นั้น เกี่ยวข้องกับการเข้าใจในความรู้สึกของตัวคุณเอง และสามารถแสดงมัน ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ไปพาลโทษสิ่งอื่นใด และมีความสามารถที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหานั้นๆได้ คู่รักที่รู้จักสงบสติอารมณ์และหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง โดยรู้จักการประนีประนอมก็จะอยู่กันได้อย่างมีความ สุข แต่การประนีประนอมอาจเป็นไปได้โดยไม่ราบรื่น หากอีกฝ่ายหนึ่งนิ่งเฉย ไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วย โดยการไม่พูดการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเงียบเฉยไม่ยอมพูดจาปรับความเข้าใจกัน ก็จะทำให้ความสัมพันธ์จบ ลงได้
ขจัดความคิดทางลบ ความคิดในเชิงลบอาจทำให้ชีวิตรักพังพินาศได้ หากแฟนของคุณเต้นรำใกล้ชิดติดร่างเพื่อนสนิท ของคุณเกินไปสักหน่อย มันไม่ได้หมายความว่าเขากำลังพยาายามลวนลามเธอ และหมดรักคุณแล้ว พึงจำ ไว้ว่าการกระทำที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียยว ไม่ได้ทำให้คนคนนั้นกลายเป็นคนเลวไปเลย ขจัดความคิดในนเชิง ลบออกไปจากหัวสมองของคุณเสียก่อนที่มันจะสายเกินไป
ไว้ใจในญาณสังหรณ์ ญาณสังหรณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในทางอารมณ์แห่งความสัมพันธ์นั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็อาจจะ แปรปรวนกลายเป็นเรื่องประสาทๆ หวาดระแวงได้ง่ายเช่นกัน อย่างถ้าคุณกำลังถกเถียงกันอยู่ และคู่รัก ของคุณกล่าวหาว่าคุณเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ก็จงหาแก่นของความจริงในสิ่งที่อาจดูเหมือนว่าเป็นความ หวาดระแวงจนเกินเหตุนั้น บางทีคุณอาจจะเพิ่งโมโหโกรธาในเรื่องขี้ประติ๋ว (ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อ ที่ถกเถียงอยู่เลย) จนทำให้อารมณ์ของคุณมีความเคลื่อนไหวไปในทางลย คู่ของคุณเขาก็จะรู้สึกได้ถึงความ เฉยเมยในอารมณ์นั้นของคุณ ก็เลยทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
ควบคุมความโกรธ ความโกรธเป็นสิ่งที่เราต้องระบายมันออกมา แต่การระเบิดความโกรธอย่างเดือดดาลนั้นไม่เป็นผลดี แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม การสะกดกลั้นมันเอาไว้ก็เป็นโทษได้เช่นกัน จากการวิจัยพบว่ายิ่งเก็บความ โกรธไว้มากเท่าไหร่ ก็จะนำไปสู่การระเบิดทางอารมณ์ที่รุนแรงมากเท่านั้น วิธีการจัดการกับความโกรธก็คือการสงบสติอารมณ์โดยเบนความสนใจไปที่สิ่งอื่น เช่น เลี่ยงออกไป เดินข้างนอกเสียและคิดถึงเรื่องอื่นๆแทน พอคุณเริ่มสงบลงก็กลับมาพูดกันใหม่ โดยใช้เหตุผล อย่าให้อา รมณ์รุนแรงมาแทรก
ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้น ถ้าคุณฝึกทักษะเหล่านี้ได้สำเร็จ บทเรียนที่คุณจะได้รับนอกจากคุณสามารถสร้างการสื่อสารที่เยี่ยม ยอดแล้ว คุณยังได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นรางวัล เพราะเมื่อคุณสามารถบอกคนรักได้ถึงความรู้สึก ของคุณ และรับฟังความรู้สึกของเขาได้เช่นกัน ความใกล้ชิดก็จะบังเกิดขึ้น และเมื่อนั้นคุณและคนรักก็จะ รู้สึกถึงความมั่นคง ซึ่งทั้งหมดนี้แหละที่เรียกว่า รักแท้
ที่มา
pooyingnaka