♣ มีแฟนทั้งที ... ขืนตาถั่วก็เจ๊ง ♣

♣ มีแฟนทั้งที ... ขืนตาถั่วก็เจ๊ง ♣


ยามตกหลุมรัก แหงสิที่ใครๆย่อมอยากรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ให้ยั่งยืน เพราะหลังจากนั้น...แห้ม...ก็หลังจากผ่านช่วงเวลาจีบกันอย่างอุตลุดคลุกคลานน่ะซี...ถามได้ ทีนี้ล่ะใครจะแน่ใจมั่งว้า ว่าช่วงเวลาโปรโมชั่นที่ฝ่ายหญิงมักได้รับการทะนุถนอมเอ็นดูอย่างกะ "ไข่ในหิน" จาก "แฟนที่ทุ่มไม่อั้น" เพื่อหวังคว้าใจของสาวเจ้ารายนั้นมาให้ได้จะหมดเมื่อไร

         
งั้นคงดีแน่ๆเลย ถ้าจะทำความรู้จักกับ "หนึ่งในดวงใจ ณ ตอนนี้ของคุณ" ให้มากขึ้น เพื่อให้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่เพื่อไม่ให้กลายเป็น "นักโทษในกรงเหล็ก" ไม่ใช่นกน้อยในกรงทองนะยะ อย่าสับสน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเป็นแฟนกะใครสักคน ไม่ต้องมาก ขอแค่คนเดียว เอาให้รอดก่อนเหอะ...อุ๊บ จึงควรมีแนวทางในการตัดสินใจเลือก "คู่แท้สองโลก"..ฮี่ฮี่นี่ล้อเล่นมาร่วมเรียงเคียงกายมั่งละน่า เช่น...

          1. เค้าไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์, สมองเสื่อม และความจำสั้นแน่นะ

          เอ้า เรื่องนี้สำคัญนะ อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าเค้าคงไม่ลืมวันคล้ายวันเกิดของคุณ, วันแรกที่เค้าให้ ดอกไม้กับคุณ เพราะหลัง จากนี้คงมีสาวน้อยรายแหงๆที่จะได้เห็นเค้าทำเซอร์ไพรส์ให้ ดอกไม้เหมือนสมัยนู้นอิอิ ไปจนถึงวันครบรอบวันแรกที่เราทะเลาะกันอย่างนิ่มนวล ซึ่งก็อีกตอนนี้คงตบตีกันอลหม่านกันไปแล้วยังก็บ่ฮู้ แต่ยังไง๊ยังไงขอยืนยันว่า แฟนที่ดีควรจำวันสำคัญที่เค้าอาจมองว่าแสนจิ๊บจ๊อยซะเหลือเกิน ทว่าเป็นวันแห่งความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่ายให้ดี...เอาไว้ก่อนดีที่ซู้ด

          ไม่ต้องจำให้มันตรงเป๊ะๆร้อก จะจำคลาดเคลื่อน ไปบ้างก็ได้ไม่ว่ากัน เช่นวันแรกที่เอ่ยปากบอกเลิฟ สมมติเค้าพูดคำนั้นในวันที่ 1 มกราคม...ก็ขอให้จำได้คลับคล้ายคลับคลาเป็นวันที่ 2 หรือ 3, 4, 5 มั่งก็ยังดีกว่าลืมไปเลย, ไม่สนใจอีกเลย เพราะดันไปสนใจอะไรอื่นแทนแล้วอ่ะดิ

          โอ๊ย ไม่โรแมนติกเอาซะเลยวุ้ย แต่สาวบางคนอาจแย้งว่า แค่เค้าจำได้ว่าตอนนี้หล่อนเป็นแฟนเค้าก็ดีแล้ว เฮ่อ....ทีพอเป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงชอบง้อฝ่ายชายแฮะ คงกลัวว่าแม้แต่ "รถไฟเที่ยวสุดท้าย" ก็ยังคว้าไว้ไม่ทันมั้ง หรืออาจ "ไม่มีรถไฟเที่ยวสุดท้ายวิ่งผ่านหล่อนแล้ว" หรือไงไม่ทราบ 

          2. สุขภาพทั้งหล่อนและเค้าเป็นไงบ้างล่ะ?

          คนที่คุณหลงน่ะ ตานั่นมีปัญหาสุขภาพด้านใดอยู่รึเปล่า? เช่น เป็นมะเร็ง, เป็นลูคิเมีย หรือเป็นเอดส์ ไหม? ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้หาทางช่วยเหลือเค้าทัน...มีน้ำใจนะเนี่ย แต่หากเป็นเอดส์ก็น่าคิดนะว่ายัง ควรเอามาทำแฟนอีกเหรอ? เดี๋ยวติดโรคจากเค้าไปด้วย ก็ซวยสิ แต่พูดนี่ไม่อยาก ให้ไปรังเกียจรังงอนคนติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์นะ เพราะถ้าเป็นเพื่อนน่ะเป็นได้ แต่หากต้องนอนด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพ...อุ๊ย พูดซะน่าเวียนหัว งั้นสรุปเลยล่ะกันว่า หากมีเพศสัมพันธ์กันอย่างลึกลับ... เอ๊ย ลึกซึ้ง ก็น่าเสียวไส้ ใช่ป่าว แต่ถ้ามีอาการไม่สบายอย่างอื่น เช่น เจ็บคอเป็นหวัด, ปากเป็นแผลหรือร้อนในอะไรเงี้ยะ ควรประคบประหงมดูแลกันและกันซะเถอะ คนเราจะเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของกันและ กันก็ควรเอาใจใส่หน่อยเด้ 

          3. ประวัติเทือกเถาเหล่ากอของแต่ละฝ่ายล่ะเป็นไง?

          คนที่คุณไปติดบ่วงเสน่หาน่ะ เค้ามีความรักความผูกพันหรือขัดแย้งกับใครเป็นพิเศษในครอบครัวหรือเปล่า? หรือสมาชิกในครอบครัวของเค้ารักกันชิบเป๋งหรือโต้วาทีกันทุกวันไหม? 

          ที่สู่รู้ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะบางคนเหมาะจะเป็นแฟนของใครอีกคน หากเค้าทะเลาะกับพี่น้องซะบ้างไม่ได้รักกันจนกลมดิกประเภทแห่กันไปไหนไปนั่น, ติดกันเป็นพรวนแบบแยกกันไม่ค่อยออก หรือกว่าจะแกะกันออกก็โอ๊ย....แฟนเฟินเกือบหมดความอดทน! เพราะไม่มีเวลาสวีตกัน 2 ต่อ 2 มั่งเลย หรือมีเวลา "ส่งตาหวาน" เช่นกัน แต่น้อยนิดซะเหลือเกิน 

          โห ยังไม่ทันดื่มน้ำสักอึก ก็เอาแล้ว ไม่รู้ ญาติโกโหติกาตั้งแต่สมัยไดโนเสาร์ดันโผล่มาอีกแล้ว งั้นตกลง เค้าไม่คู่ควรกะเรา หรือ เราไม่คู่ควรกะเค้าวะ?

          4. มีงานอดิเรกอะไรกันบ้างอ่ะ? 

          ชอบดูหนังฟังเพลง หรือชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะแล้วช้อปปิ้งไปด้วยแบบโอเพ่น มาร์เก็ต เช่น ตลาดนัดสวนจตุจักร หรือนิยมไปออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายที่โรงยิมหรือฟิตเนสที่ไหนกัน? แต่มีนะบางคนไม่ชอบทำอะไรเลยสักอย่างที่ว่ามา เพราะสนใจอย่างเดียวคือเล่นไพ่ แถมพี่แกก็เล่นมันทั้งวันทั้งคืนอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จักประยุกต์ไปเรียนเป็นหมอดูไพ่ยิปซีหรือหมอดูถอดไพ่เพื่อหารายได้มาช่วยอีกฝ่าย "ก่อร่างสร้างตัว"...เออก็ทำกันได้แฮะ 

          ขืน ใครคว้าคนหยั่งงี้มาเป็นแฟน คงได้ร้อง เพลง "ทำไมถึงทำกับชั้นได้" ไปอีก 5 ชาติแหงๆ 

          5. อยากได้แฟนมีความรับผิดชอบแค่ ไหนล่ะ?

          หากเป็นหญิงที่ปรารถนาอยากมีคู่เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง หรือไม่งั้นแค่รับผิดชอบพอหอมปากหอมคอก็ได้ฟะ แต่ไอ้ที่มีอยู่ดูแล้ว "มันไม่ใช่อ่ะ" เพราะแม้แต่ตัวเค้าเองก็ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ เช่น เสื้อผ้าใส่แล้วก็ทิ้งกองไว้เป็นเดือน, จานชาม กินแล้วก็ทิ้งไว้จนแมลงสาบแทะแถมหนูก็ชอบโผล่ออกมาวิ่งเล่นอยู่ในห้องล่ะก็ หากยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เลือกคนนี้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย

          แต่ไม่รู้นะ ว่าใครคิดยังไง ทว่า "การมีคู่" ยังไม่ถึงกับเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสูงสุดในชีวิตหรอก เพราะคุณยังรอ "วัดใจ" คนอื่นๆในอนาคตได้อีกน่ะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์