♣ 10 อันดับความเชื่อยามตั้งท้อง ♣
อันดับ 10 ถ้าลูกน่ารักต้องพูดว่าลูกน่าชัง สิ่งชั่วร้ายจะได้ไม่พรากลูกไปจากเรา
ความจริง : สมัยก่อนเด็กอาจจะต้องพบกับโรคร้ายต่างๆ ที่วิทยาการทางการแพทย์ยังไปไม่ถึง ทำให้อัตราเสียชีวิตของเด็กมีอยู่สูง ดังนั้นความเชื่อที่ว่าให้เรียกลูกว่าน่าชังแทนที่คำว่าน่ารักจึงเป็นอีกหน ทางหนึ่ง ที่ทำให้ผู้เลี้ยงดูสบายใจ หายกังวลไปได้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้วเรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใดค่ะ
อันดับ 9 ควร กลัดเข็มกลัดติดเสื้อลูกไว้ เพื่อจะไม่ให้วิญญาณร้ายเข้ามาทำร้ายลูกเราได้
ความจริง : เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดค่ะ และการใช้เข็มกลัดในเด็กเล็กๆ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะปลายเข็มแหลมๆ อาจทิ่มแทงลูกได้ ในกรณีที่หลีกเลี่ยงการใช้ไม่ได้ควรเลือกเข็มกลัดหัวโต ปลายมน ไม่มีส่วนแหลมคมยื่นออกมา และซ่อนปลายเข็มกลัดให้มิดชิด ไม่ให้ไปทิ่มแทงผิวเนื้อบางๆ ของลูกได้
อันดับ 8 แม่มือใหม่ไม่ควรสระผมเป็นเวลา 1 เดือนหลังคลอด เพราะจะทำให้ปวดหัว
ความจริง : ประเพณีทั้งไทยและจีนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อว่าถ้าแม่มือใหม่สระผมหลังคลอด จะมีอาการปวดหัวเรื้อรัง แต่ในทางการแพทย์แล้วเรื่องนี้ไม่มีผลกับการปวดหัวแต่อย่างใด และการไม่สระผมอาจเป็นแหล่ง เพราะเชื้อโรคอย่างเชื้อแบคทีเรียจากแม่ไปสู่ลูกได้ด้วยนะคะ
อันดับ 7 หลังคลอดแม่มือใหม่ต้องกินยาขับน้ำคาวปลา หรือยาดองเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย
ความจริง : แม่ส่วนใหญ่ยังคงได้รับการปลูกฝังว่าน้ำคาวปลาเป็นของเสียหลังคลอดที่ควรถูก ขจัดให้หมดไป ดังนั้นการดื่มยาขับน้ำคาวปลาจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วน้ำคาวปลาคือ เลือดที่ไหลซึมจากแผลในโพรงมดลูกในตำแหน่งที่รกลอกตัวออกไป โดยขั้นตอนธรรมชาติร่างกายของเราจะพยายามหยุดเลือดบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นถ้าเราดื่มยาขับน้ำคาวปลาจะเท่ากับไปเร่งให้เลือดตรงบริเวณนั้นไหล ออกมาจนเกิดภาวะตกเลือด และแม่บางรายถึงกับถูกหามส่งโรงพยาบาลเหตุเพราะดื่มยาชนิดนี้เข้าไปอย่างรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ อีกอย่างยาขับน้ำคาวปลาและยาดองเหล้ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งจะไหลออกมา ปะปนกับน้ำนมแม่ ทำให้ลูกได้รับแอลกอฮอล์ตามไปด้วย แอลกอฮอล์ที่ว่านี้มีผลต่อการทำงานของสมอง และทำให้พัฒนาการลูกล่าช้ากว่าปกติอีกด้วยค่ะ
อันดับ 6 ช่วงท้องถ้าแม่หน้าตาหมองคล้ำ ลูกจะออกมาเป็นผู้ชาย แต่ถ้าแม่ผิวพรรณสดใสลูกจะเป็นผู้หญิง
ความจริง : ทางวิทยาศาสตร์อธิบายได้ว่าระบบเลือดของลูกในท้องกับระบบเลือดของแม่ไม่ได้ เกี่ยวข้องกัน นอกจากนั้นฮอร์โมนของลูกกับแม่ก็ไม่ได้เชื่อมต่อกัน ด้วยเหตุนี้ความเชื่อที่ว่า ฮอร์โมนของลูกชายอาจจะส่งผลให้แม่มีผิวพรรณหมองคล้ำ หรือฮอร์โมนลูกสาวจะทำให้ผิวพรรณของแม่สดใสเปล่งปลั่งจึงไม่เป็นความจริงแต่ อย่างใดค่ะ
อันดับ 5 ถ้าแม่กินเฉาก๊วยลูกออกมาจะผิวคล้ำ แต่ถ้าดื่มน้ำมะพร้าวมากๆ ลูกจะผิวขาวสวย
ความจริง : ลูกจะผิวคล้ำหรือขาวขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อแม่ผิวขาวลูกจะมีผิวขาว ส่วนพ่อแม่ผิวคล้ำลูกจะมีผิวคล้ำ ฉะนั้น ไม่ว่าเฉาก๊วยหรือน้ำมะพร้าวไม่ได้มีผลกับผิวของลูกแต่อย่างใดค่ะ ส่วนที่เชื่อว่าให้แม่ท้องดื่มน้ำมะพร้าวเยอะๆ คงเพราะในน้ำมะพร้าวมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งจะเป็นเกลือแร่และวิตามิน แต่ที่ดีที่สุดถ้าอยากให้ลูกผิวพรรณดี สุขภาพแข็งแรง แม่ท้องควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับให้เพียงพอ ทำใจให้สบายค่ะ
อันดับ 4 ถ้าแม่สะดือหงายจะได้ลูกชาย ถ้าสะดือคว่ำจะได้ลูกสาว
ความจริง : คนสมัยก่อนอาจจะสังเกตเอาเองว่าคนที่มีสะดือหงายจะได้ลูกชาย สะดือคว่ำจะได้ลูกสาว ข้อมูลนี้ไม่ได้เป็นจริง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะจากประสบการณ์ของหมอพบว่า คนไข้บางรายมีท้องใหญ่สะดือคว่ำกลับได้ลูกชาย และบางรายสะดือหงายกลับได้ลูกสาวก็มีค่ะ
อันดับ 3 คนใต้เชื่อว่าคนท้องอย่านอนมาก เพราะจะทำให้คลอดยาก ดังนั้นแม่ท้องต้องทำงานเยอะๆ ถึงจะดี
ความจริง : แม่ท้องควรพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ความเชื่อนี้คงเกิดขึ้นเพราะความกลัวว่า ถ้าแม่ท้องนอนมากเกินไปโดยไม่ทำอะไรเลย อาจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ส่งผลให้ลูกไม่แข็งแรงไปด้วย ดังนั้นถึงแม้จะท้องก็ควรใส่ใจเรื่องการออกกำลังกาย อาจจะด้วยการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ค่ะ
อันดับ 2 คนอีสานเชื่อว่าแม่ท้องอย่านั่งขวางบันได เพราะจะทำให้คลอดยาก
ความจริง : ความเชื่อนี้อาจมีที่มาจากผู้หลักผู้ใหญ่กลัวว่าแม่ตั้งท้องนั่งตรงหัวบันได อาจพลัดตกลงมายังพื้นข้างล่าง ทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือแท้งลูกได้ง่าย กุศโลบายเพื่อต้องการให้แม่ท้องหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุด้วยความเชื่อแบบนี้จึง เกิดขึ้นค่ะ
อันดับ 1 ถ้า แม่ท้องแหลมจะได้ลูกชาย แต่ถ้าท้องกลมจะได้ลูกสาว
ความจริง : ลักษณะท้องจะกลมหรือแหลมขึ้นอยู่กับสรีระของแม่ท้องคนนั้นๆ ว่ามดลูกมีลักษณะอย่างไร และลักษณะกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นอย่างไร มากกว่าจะบ่งบอกเรื่องเพศ จากประสบการณ์ของหมอพบว่าแม่ท้องกลมบางคนได้ลูกชายก็มี หรือแม่บางคนท้องแหลมได้ลูกสาวก็มี