เริ่มจากการที่คุณพ่อเรียกลูกสาวเข้าไปพบ และบอกกับลูกสาวว่า
คุณพ่อ : "พ่อมีอะไรจะให้ดู เป็นของสำคุญมากนะ"
แล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ โดยกำสิ่งของไว้ในมือ ไม่ให้ลูกมองเห็น และคุณพ่อก็ถามลูกสาวว่า
คุณพ่อ : "อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ"
ลูกสาวพยักหน้า พ่อเลยยื่นข้อเสนอว่า
คุณพ่อ : งั้นเอามือเขกพื้น 3 ที
พอลูกเขกเสร็จตามที่พ่อบอก คุณพ่อพูดอีกว่า
คุณพ่อ : "ไม่พอเปลี่ยนเป็น 5 ทีดีกว่า"
ลูกก็เขกพื้นอีก 5 ที พ่อก็พูดต่อว่า
คุณพ่อ : "เปลี่ยนเป็น 10 ทีดีกว่า"
ลูกก็เขกพื้นอีก 10 ที พอเขกเสร็จพ่อพูดอีกว่า
คุณพ่อ : "เพิ่มเป็น 15 ทีละกัน"
ด้วยความอยากรู้ ลูกสาวยอมเขกพื้นเพิ่มเป็น 15 ที พร้อมพูดกับพ่อว่า
ลูกสาว : "ลูกอยากรู้จริงๆว่าในมือพ่อมันคืออะไร"
พ่อเลยแบมือออก เผยให้เห็นเหรียญ 5 บาทธรรมดาเหรียญหนึ่ง
หลังจากนั้น คุณพ่อก็เอามือกำเหรียญ 5 บาทเหรียญเดิมอีกครั้ง
และถามลูกสาวว่า อยากดูไหมว่าในมือพ่อมีอะไร ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 5 ที ลูกสาวส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า
ลูกสาว : ไม่อยากดูแล้ว เพราะรู้แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร
พ่อเลยต่อรอง
คุณพ่อ : "เขกแค่ 1 ทีก็ได้"
ลูกสาวยังส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า
ลูกสาว : "หนูรู้แล้ว หนูไม่อยากดูแล้ว"
คุณพ่อเลยบอกว่า
คุณพ่อ : "เอางี้ พ่อให้ดูฟรีๆก็ได้ เอาหรือเปล่า"
ฝ่ายลูกสาวตอบว่า
ลูกสาว : "ไม่เอา ไม่รู้จะดูไปทำมัย ก็รู้อยู่แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร"
ได้ฟังเช่นนั้น คุณพ่อเลยสอนลูกสาวว่า เหรียญ 5 ก็เปรียบเสมือนกับสิ่งอันพึงหวงแหนของของหญิงสาว
ถ้าใครได้รู้ได้เห็นก่อนเวลาอันควร ก็จะกลายเป็นของไร้ค่าในทันใด
คุณพ่อ : นี่แหละลูก ของอะไรที่ยังคงเป็นความลับ คนมักยอมทำตามทุกอย่างที่จะได้สมความปราถนา
มีความอยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปราถนาแล้ว ดูบ่อยๆก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรีๆยังไม่อยากดูเลย
เช่นกันสิ่งที่พึงหวงสำหรับสตรี ก็เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าใครได้รู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป ไม่ต่างจากเหรียญ 5 บาท ที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก
แล้วเหรียญ 5 บาทของคุณยังคงมีค่าอยู่หรือไม่