ในชีวิตของเราแต่ละคนนั้น ย่อมหนีอุปสรรคและปัญหาชีวิตต่างๆไปไม่พ้น อุปสรรคและปัญหาเหล่านี้มีอยู่มากมาย และเราจะต้องพบอยู่เกือบตลอดเวลา หากเราคิดว่าอุปสรรคเป็นเรื่องที่ทำให้เราต้องลำบาก ปัญหาต่างๆเป็นเรื่องยุ่งยากเกินกว่าจะแก้ไข เราจะเกิดความกลุ่มใจและมีแต่ความทุกข์
อุปสรรคและปัญหาชีวิต
วิธีแก้ก็คือ เมื่อเราพบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็ตาม ให้คิดว่าเรากำลังมีโอกาสดีที่จะฝึกฝนตัวของเราให้ก้าวหน้า ฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง เพราะอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ และเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น
ดังนั้นเราควรที่จะดีใจที่มีโอกาสพบอุปสรรคในชีวิตมากกว่าที่จะเสียใจหรือกลุ้มใจ
สมมติว่าเรากำลังเดินไปบนถนนสายหนึ่ง และพบกับกำแพงสูงขวางกั้นทางเดินของเราอยู่ข้างหน้า ถ้าเราเกิดความท้อถอย รู้สึกว่ากำแพงนั้นสูงเกินกว่าที่จะปีนได้และยอมแพ้ง่ายๆ ด้วยการเดินหันหลังกลับไปทางเดิม เราก็จะไม่สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายที่เราต้องการได้
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราพยายามหาทางข้ามกำแพงด้วยวิธีการต่างๆเช่นพยายามหาก้อนหิน กิ่งไม้ ฯลฯ เพื่อมาวางกองให้สูงขึ้นๆแล้วปีนข้ามไป ก็เท่ากับว่าเราได้หาทางฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิต ..และเมื่อทำสำเร็จ เราก็จะรู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารทำสิ่งที่ยากลำบากได้สำเร็จ จิตใจของเราจะเข้มแข็งขึ้น มีกำลังกาย กำลังใจเพื่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถเดินทางต่อไปได้อีกไกล และเมื่อเราพบกำแพงอื่นๆอีก
เราจะไม่รู้สึกกลัว เพราะเราสามารถผ่านอุปสรรคเช่นนั้นมาก่อนแล้ว ความท้อถอยหรือวิ่งหนีไปโดยไม่คิดแก้ไขไม่ได้ช่วยให้เราสบายใจขึ้น เพราะถึงอย่างไรเราก็หนีอุปสรรคในชีวิตไปไม่พ้น
ดังนั้นเมื่อเราพบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆขอให้เราคิดถึงมันในแง่ดี คิดว่ามันมีประโยชน์ต่อเรา ถ้าขาดอุปสรรคก็เท่ากับเราขาดประสบการณ์ ที่จะช่วยให้เรามีคามรู้ความเข้าใจในการดำเนินชีวิต ขาดความก้าวหน้าในชีวิต เพระฉะนั้น
จงอย่าวิ่งหนีปัญหาต่างๆ แต่ขอให้หันหน้าเข้าต่อสู้เผชิญหน้ากับมันด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส และหาทางแก้ไขให้หลุดพ้นจากอุปสรรคเหล่านั้น ถ้าเราสามารถทำได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อๆไปเมื่อเราพบปัญหาหรืออุปสรรคเช่นนี้อีก
เราจะสามารถเข้าใจและแก้ไขได้ทันที เราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความสามารถในการแก้ปัญหาเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญ ..เราจะมีแต่ความสุขในชีวิต
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
คุณ ทอแสง xchange.teenee.com