คู่แต่งงานเกือบครึ่งอยู่กินเกิน 7 ปี นิยมมี กิ๊ก

อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ระบุรัฐบาลใหม่ต้องให้ความสำคัญกับนโยบายภาคสังคมและครอบครัว ปัจจุบันสังคมเปิด บรรยากาศเป็นใจ สามีภรรยาแต่งงานเกิน 7 ปี นิยมมีกิ๊กเกือบร้อยละ 50 อัตราหย่าร้างพุ่ง เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว หากต้องการให้วันอาทิตย์เป็นครอบครัวต้องมีนโยบายและมาตรการที่เข้มแข็ง เป็นรูปธรรม

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ต้องให้ความสำคัญกับนโยบายภาคสังคมและครอบครัวมากกว่านี้ ต้องมีมาตรการชัดเจน อาจต้องเขียนกฎหมายใหม่หลายเรื่อง เช่น นโยบายให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว รัฐบาลต้องบอกว่าวันครอบครัวเป็นอย่างไร วันอาทิตย์ห้ามทำงาน จัดหาสถานที่ให้ครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกัน มีมาตรการจูงใจให้ครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกัน หากมาทั้งครอบครัวคิดค่าผ่านประตูลดราคาร้อยละ 25-30

เรื่องครอบครัวเป็นสิทธิของพ่อแม่ลูกต้องคิดร่วมกัน ต้องดีไซน์ให้ดี การออกแบบเวลากิจกรรมและการอยู่ร่วมกันสำคัญมาก เราจะไปด้านไหน มีปรัชญาอะไรในครอบครัวเรา ที่เราคิดร่วมกัน อย่าคิดแต่สิทธิตัวเอง รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ครอบครัวไทยในปัจจุบันมีปัญหาค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากนโยบายกับมาตรการแก้ปัญหาไม่สอดรับกันและช้ากว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ปัจจุบันสังคมไทยมีครอบครัวเดี่ยวคือ พ่อแม่ลูกเกินร้อยละ 50 ทำให้สิ่งที่เป็นความหมายและคุณค่าของครอบครัวไทยหายไป เริ่มเห็นความขัดแย้งและความรุนแรงไหลเข้ามาในระบบครอบครัวไทยมากขึ้น ตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือ อัตราการหย่าร้างสูงถึงร้อยละ 20-25 มีครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวร้อยละ 17 ที่พ่อหรือแม่เลี้ยงลูกตามลำพัง พบแนวโน้มการใช้ความรุนแรงในครอบครัว และครอบครัวแตกแยกเพิ่มขึ้นทุกปี

สิ่งที่เราค้นพบ คือ สภาวะความสุขในครอบครัวมีต่ำมาก มีข้อมูลหลายข้อที่ค้นพบ คือ หลังจากครอบครัวแต่งงานอยู่กินกันเกิน 7 ปี ไม่ว่าหญิงหรือชายเริ่มมีกิ๊ก มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว นอกใจคู่สมรสเพิ่มมากขึ้น พบเกือบร้อยละ 50 สิ่งที่น่าตกใจ คือ หญิงที่มีครอบครัวแล้วหันมามีกิ๊กเพิ่มจำนวนมากขึ้น คือ ผมคิดว่ามาจากบรรยากาศเปิด มีค่านิยมเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในความหมายตะวันตกมากขึ้น เป็นการมองความเท่าเทียมเพียงแต่เปลือก แต่ไม่รู้คุณค่าที่แท้จริง เห็นผู้ชายมีได้ เราก็มีได้ แต่ไม่ได้มองว่าเราจะแก้ปมปัญหาความไม่เท่าเทียมอย่างไร ในปัจจุบันมีกิจกรรมที่ทำให้พ่อบ้าน แม่บ้าน ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น มีสิ่งกระตุ้นยั่วยุมาก รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาเกิดลักษณะ แยกกันแบบเทียมๆ เกิดขึ้นมาก โดยสามีภรรยาอยู่กันตามหน้าที่ แต่ไปพึงพอใจคนอื่น จิตใจไม่มั่นคงต่อกัน สำหรับนโยบายภาคสังคมของรัฐบาลชุดที่เพิ่งหมดอำนาจไป ตนฟันธงว่าล้มเหลว ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ตนอยากให้มีนโยบายและมาตรการดีกว่านี้ เราพูดทุกครั้งทุกเวที ว่าครอบครัวเป็นฐานสำคัญที่สุด แต่นโยบาย กลไกที่มีอยู่กลับอ่อนแอมาก