คุ้มไหมหากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่าครอบครัว
ฉันเดินชนคนแปลกหน้า ฉันเอ่ยขอโทษไม่ตั้งใจ
เขากลับตอบ " ขออภัย ผมเองไม่ทันเห็นคุณ"
เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัยแสดงน้ำใจ แม้ไม่รู้จักกัน
แต่ที่บ้านเย็นวันนั้น ฉันทำอาหารอยู่ในครัว ลูกสาวตัวน้อยแอบมายืนข้างหลัง
ไม่ทันระวังฉันหันกลับมาชนเธอล้มลง
" อย่ามายืนเกะกะ"
ฉันดุใส่ ลูกสาวเดินจากไป หัวใจเธอปวดร้าว
คืนนั้นฉันได้ยินเสียงกระซิบจากเบื้องลึกของหัวใจ
กับคนแปลกหน้าเจ้าสุภาพได้กับลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ
ดูที่พื้นครัวสิดอกไม้หลากสีที่ลูกอุตส่าห์เก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจตกเกลื่อนอยู่ทั่วไป น้ำตาเธอใหล เหตุใดไม่แลเห็น ฉันเพิ่งรู้ตัว เลยค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างเตียงลูก
" ตื่นเถิดคนดีดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
ลูกตอบ " ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่ รู้ว่าคุณแม่ต้องชอบ
โดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"
ฉันตื้นตันใจนัก " ลูกรัก แม่ขอโทษจริงๆ ที่เอ็ดหนู"
" แม่จ๋า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูรักแม่ "
" แม่ก็รักลูก แม่ชอบดอกไม้ของหนูมาก โดยเฉพาะสีน้ำเงินจ้ะ"
หากเราตายจากไปในวันพรุ่งนี้
อีกไม่กี่วันนายจ้างก็หาคนใหม่มาทำแทนได้
แต่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอาจโศกเศร้าไปชั่วชีวิต
ลองคิดดูว่าคุ้มไหมหากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่าครอบครัว