กินเยอะ ๆ ดีมั๊ย
อะไรที่มันมากเกินไป ล้วนไม่ดีทั้งนั้นแหละ อย่างเช่น
ถ้าคุณดื่มน้ำแครอทวันละเป็นแกลลอน ก็คงไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์จากเบต้าแคโรทีนที่ได้รับเข้าไปมากมายสักเท่าไร ซ้ำยังทำให้ฝ่ามือ ฝ่าเท้าเป็นสีเหลือง น่าเกลียดอีกต่างหาก
โชคยังดีนะที่เป็นเบต้าแคโรทีน
จึงไม่มีพิษภัย แต่ถ้าเป็นวิตามินบางชนิด การได้รับมากเกินไปนอกจากจะเสียเงินแล้ว ยังทำลายสุขภาพได้อีก อย่างเช่น
วิตามิน เอ : ถ้าได้รับเกิน 25,000 ยูนิต (มากกว่า RDA 5 เท่า) จะทำให้ตับถูกทำลาย ผมร่วง มองภาพไม่ชัด และปวดศีรษะ
วิตามิน บี 6 : ถ้าเกินกว่า 400 มิลลิกรัมต่อวัน (200 เท่าของRDA) จะทำให้ปากชา แขนชา เดินไม่ไหว
วิตามิน ซี : ครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันจริงหรือไม่ แต่ถ้าได้รับมาก ๆ อาจทำให้ปวดท้องและท้องเสียได้
วิตามิน ดี : ถ้าได้รับวันละ 50,000 ยูนิต (125 เท่าของ RDA) จะมีผล ทำให้แคลเซียมไปเกาะตามเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ทำให้ทำงานผิดปกติ ทั้งนี้รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจด้วย
ไนอาซีน : โดยปกติแพทย์จะให้ไนอาซีนขนาด 2,000 มิลลิกรัม (100 เท่าของ RDA) เพื่อลดปริมาณคอเลสเทอรอลในคนไข้ แต่ถ้าบังเอิญคนไข้ได้รับมากเกินกว่าที่แพทย์สั่ง จะทำให้เกิดอาการดีซ่าน และตับถูกทำลายได้
เหล็ก : ส่วนใหญ่มักใช้ทำให้จำนวนเม็ดเลือดเพิ่มขึ้นในผู้สูงอายุหรือหญิงสาวขณะมีประจำเดือน ถ้ากรณีที่ได้รับติดต่อมาเป็นเวลานานและขนาดสูงมากกว่าวันละ 100 มิลลิกรัม (6 เท่าของ RDA) จะมีผลไปขัดขวางการดูดซึมธาตุสังกะสี ซึ่งเป็นตัวช่วย ทำให้แผลหายเร็วและระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างปกติ