นิ่วในถุงน้ำดีเกิดขึ้นได้อย่างไร
นิ่วในถุงน้ำดี (gallstones) เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) หรือคอเลสเทอรอลที่มีอยู่ในน้ำดี ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการตกผลึกของสารเหล่านี้ เชื่อว่าเกี่ยวกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดี และความไม่สมดุลของส่วนประกอบในน้ำดี การตกผลึกของสารเหล่านี้ อาจทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเพียงก้อนเดียว หรือก้อนเล็ก ๆ หลายๆ ก้อนก็ได้ รวมทั้งคนที่มีระดับคอเลสเทอรอลในเลือดสูง หญิงที่มีบุตรแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ทาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก จะมีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าคนทั่วไป
อาการ
เราอาจแบ่งอาการของโรคนิ่วในถุงน้ำดีออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ไม่มีอาการกับประเภทที่มีอาการ
ประเภทที่ไม่มีอาการ - นิ่วในถุงน้ำดี ส่วนใหญ่ (มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์) ไม่มีอาการ และในกลุ่มนี้ จะมีโอกาสเกิดอาการขึ้นได้ ประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย จะไม่มีอาการผิดปกติแสดงให้เห็นแต่อย่างใด และมักจะตรวจพบโดยบังเอิญ จากการตรวจเช็คร่างกายด้วยโรคอื่น
ประเภทมีอาการ - สามารถลำดับอาการตั้งแต่น้อยไปหามาได้ดังนี้
1.ท้องอืด แน่นท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังรับประทานอาหารมัน ซึ่งอาการแบบนี้ อาจเกิดจากโรคระบบทางเดินอาหารอื่น เช่น โรคกระเพาะอาหารหรือโรคของลำไส้ใหญ่ ก็ได้
2.ปวดเสียดท้อง อาการปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือลิ้นปี่ ซึ่งมักเป็นหลังรับประทานอาหารมัน แต่อาการอาจเป็นอยู่นานหลายชั่วโมง (แต่มักไม่เกิน 8 ชั่วโมง) แล้วค่อยกลับเป็นปกติ อาจร้าวไปสะบักขวา หรือที่หลัง
3.ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จะมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวามากขึ้น และมีการตรวจพบการกดเจ็บบริเวณนี้ ร่วมกับมีไข้ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วย
4.มีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง