ช่วงนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมขัง ประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่ธารน้ำใจของคนไทยก็ไม่เคยจางหาย พากันส่งกำลังใจรวมทั้งบริจาคเงินตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปช่วยพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าจะบริจาคอะไร อย่างไร ฟังทางนี้
นพ.พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย บอกว่า ในการบริจาคนั้น อย่างสภากาชาดไทยการรับบริจาคมี 3 รูปแบบ คือ บริจาคเป็นเงิน บริจาคเป็นสิ่งของ และบริจาคเป็นแรงงาน เช่น มาช่วยในการบรรจุของ ขนของ
การบริจาคเป็นเงินมีความสะดวก เพราะสามารถไปบริหารจัดการได้ เช่น พอมีผู้บริจาคเงินมา สภากาชาดก็อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อของที่กรุงเทพฯ บางทีก็ไปซื้อในพื้นที่ประสบภัยเลย ช่วยประหยัดค่าขนส่ง แต่ถ้าพื้นที่ประสบภัยข้าวของขาดแคลน หรือไม่สามารถหาซื้อได้ก็ซื้อจากกรุงเทพฯแล้วส่งไป ก็จะมีการประสานว่าสิ่งของอะไรที่จำเป็นสำหรับการเกิดภัยพิบัติในที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความราบรื่น
กรณีบริจาคเป็นสิ่งของ บางท่านมีจิตศรัทธาอยากบริจาคเป็นสิ่งของ ก็ขอให้สอบถามว่า สิ่งของชนิดใดที่ผู้ประสบภัยต้องการในพื้นที่นั้น ๆ และมีลักษณะเฉพาะอย่างไร แต่ขอความกรุณาอย่างหนึ่งคือของที่บริจาคอยากให้มีอายุนานพอสมควร คือไม่หมดอายุเร็ว เพราะของที่บริจาคไปนั้น ไม่ได้ไปถึงมือของผู้ประสบภัยทันที บางทีต้องนำมาเก็บไว้ในคลังเป็นเวลาหลายวันก่อนถูกบรรจุและส่งของดัง กล่าวไปช่วยเหลือ ก็อาจทำให้สิ่งของดังกล่าวหมดอายุ หรือเสียเพราะ โดนแดดโดนความร้อนด้วย ก็อยากจะให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ตรง นี้ด้วย
นอกจากนี้บริษัทห้างร้านหลายแห่งก็พากันบริจาคสิ่งของที่บริษัทผลิตซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้สอบถามมาสักนิดว่า ผู้ประสบภัยต้องการอยู่หรือเปล่า บางทีเขาขนมาให้ถึงที่จะให้ขนกลับก็คงไม่เหมาะ เพราะทุกคนแสดงความมีน้ำใจก็จะมีการรับไว้
แต่ก็จะเป็นปัญหาเรื่องที่เก็บหรือการใช้กำลังคนที่จำกัดอยู่แล้วไปจัดการของที่ผู้ประสบภัยไม่ได้ใช้ ดังนั้นก็อยากให้ประสานมาก่อน หรือโทรศัพท์มาสอบถามที่สภากาชาดไทย 0-2251-7853-6 สำหรับสิ่งของที่ใช้ได้แน่ ๆ คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง ไม่มีพลาดหรอก แต่ถ้าบางพื้นที่มีเรื่องของการนับถือศาสนา เป็นมุสลิม ก็ต้องพิจารณาเรื่องของที่จะนำไปให้กับผู้ประสบภัยด้วย
ส่วนการบริจาคเป็นแรงงาน มาช่วยบรรจุของ ขนของ ก็สามารถสอบถามมาก่อนได้เช่นกัน ว่าวันนี้มีการบรรจุสิ่งของหรือไม่ หรือจะให้มาช่วยกันอย่างไร อย่างนี้ก็จะเป็นการทำบุญที่ได้บุญอย่าง เต็มที่
สำหรับสิ่งของบริจาคสำหรับภัยน้ำท่วม อย่างที่บอกคงหนีไม่พ้นข้าวสารอาหารแห้ง ผ้าอนามัย ส่วนเสื้อผ้าอาจมีความจำเป็นสำหรับบางพื้นที่ที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เพราะน้ำท่วมหมด กรณีเช่นนี้ ก็อาจจะมีความจำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าด้วย ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ก็อาจจะมีประโยชน์ในพื้นที่แบบนั้น ส่วนน้ำดื่มก็ไปซื้อในพื้นที่ใกล้เคียงได้ เพราะมีน้ำหนักมากยากแก่การขนส่ง
“พูดตรง ๆ เลยเวลาเกิดภัยในวงกว้างอย่างนี้ ก็จะมีบางพื้นที่เวลามีการนำสิ่งของไปบริจาคโดยไม่ผ่านศูนย์ประสานงานช่วยเหลือน้ำท่วม ก็จะมีข่าวว่าบางพื้นที่คนไปช่วยกันเยอะ แต่บางพื้นที่ความช่วยเหลือไปไม่ถึง ที่ไหนออกข่าวก็ไปกันเยอะ ที่ไหนเดือดร้อน แต่เงียบ ๆ ไม่มีข่าวก็ไม่มีความช่วยเหลือไปถึง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้อยากให้สอบถามไปยังศูนย์ประสานงานช่วยเหลือน้ำท่วมของแต่ละจังหวัด หรือบริจาคผ่านองค์กรที่ดูแลเรื่องนี้อย่างเป็นระบบอยู่แล้ว เช่น เหล่ากาชาดจังหวัด จะมีการประสานทางจังหวัดอย่างใกล้ชิด ก็จะรู้ว่าตรงไหนยังไม่มีคนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” นพ.พิชิต กล่าว.
นวพรรณ บุญชาญ : สัมภาษณ์