คู่มือฉลาดเลือกกินผัก
"เมื่อปัจจัยหนึ่งที่ชี้วัดถึงความเจริญของประเทศ คือความปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะการกินการอยู่ ฉะนั้น จะมีประโยชน์อะไร หากในปัจจุบันมีพืชผักให้เลือกกินมากมาย แต่สุขภาพผู้คนกลับแย่ลง เพราะร่างกายได้รับสารพิษจากพืชผักเหล่านั้น”
ความข้องใจจาก คุณชวน ชูจันทร์ เกษตรกรเดินดินคนหนึ่ง ผู้มีบทบาทในการผลิตพืชผักอินทรีย์ออกสู่ท้องตลาดมากว่า 10 ปี ชวนให้เราต้องย้อนถามตัวเองว่า ผักที่เรากินทุกวันนี้ ปลอดภัยแล้วหรือ
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผักอีกมากมาย ที่ผู้บริโภคควรรู้ เพื่อประโยชน์ในการเลือกซื้อผักให้ครบคุณค่า และห่าง ไกลจากสารพิษตกค้าง
สำรวจผักในท้องตลาด
ผักในท้องตลาดบ้านเรามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป คุณอรสา ดิสถาพร ผู้ อำนวยการส่วนการส่งเสริมการผลิตผัก ไม้ดอก และพืชสมุนไพร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อธิบาย ประเภทของผักต่างๆ ตามความปลอดภัยไว้ดังนี้
ผักอินทรีย์ หรือผักออร์แกนิก แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยปลอดภัย จากการปนเปื้อนสารเคมีค่อนข้างสูง ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถสังเกตผักอินทรีย์ได้จากตราสัญลักษณ์รับรองที่ปรากฎบนบรรจุ ภัณฑ์
ผักประเภทนี้ใช้วิธีการปลูกแบบองค์รวมที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่ไม่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม (จี เอ็มโอ) โดยปลูกในสิ่งแวดล้อมที่ดี พื้นที่นั้นเลิกใช้สารเคมีตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป
ในการบำรุงพืชและกำจัดศัตรูพืชจะใช้สารที่สกัดจากธรรมชาติได้ เช่น น้ำหมักชีวภาพ น้ำยาสะเดาแทนสารเคมี สังเคราะห์และปุ๋ยเคมีทุกประเภท เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบนิเวศในดิน ทั้งเชิงกายภาพ เคมี และชีวภาพ รวมทั้งเพื่อ ป้องกันสารเคมีตกค้างในผลผลิตและสิ่งแวดล้อม
ผักไร้สารพิษ การปลูกผักชนิดนี้คล้ายคลึงกับผักอินทรีย์ คือ ปลูกในพื้นที่ที่เลิกใช้สารเคมีไม่ต่ำกว่า 3 ปี ไม่ใช้สารเคมี สังเคราะห์และปุ๋ยเคมี แต่จะใช้สารสกัดจากธรรมชาติแทน อย่างไรก็ตามการปลูกผักประเภทนี้ยังไม่มีการจำกัดเมล็ดพันธุ์ที่นำ มาใช้
ผักปลอดสารพิษ ผักชนิดนี้ใช้สารเคมีสังเคราะห์และปุ๋ยเคมีในการปลูก แต่มีฤทธิ์ตกค้างไม่นานและไม่ใช่สารต้องห้าม สามารถใช้ฮอร์โมนเร่งผลผลิตได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นสารเคมีอันตราย จากนั้นเมื่อใกล้เวลาเก็บเกี่ยว จะงดใช้สารเคมีต่างๆ และ เว้นระยะเวลาให้สารที่ใช้สลายตัว จึงจะเก็บเกี่ยวผักนั้นได้ ผักชนิดนี้อาจมีปริมาณสารเคมีตกค้างบ้าง แต่อยู่ในระดับที่ไม่เป็น อันตราย
ผักทั่วไป ได้แก่ ผักที่ปลูกโดยใช้ทั้งสารเคมีสังเคราะห์ และปุ๋ยเคมีโดยไม่มีการควบคุม หรือเว้นระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว จึง ทำให้มีสารพิษตกค้างในผักปริมาณสูงเกินกำหนด และไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เส้นทางการปนเปื้อนของผัก
เพราะผักอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ คนกินผักจึงมีสุขภาพแข็งแรง แต่หากผักนั้นมีสารพิษเป็นของแถม ย่อมเป็นผลเสีย ต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการบริโภคผักที่ปลอดสารพิษมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันจะพบ เห็นผักที่ตีตราว่าเป็นผักปลอดสารพิษ หรือผักออแกนิกส์วางจำหน่ายตามตลาดสด หรือซูเปอร์มาร์เก็ตกันมากขึ้น
แต่ทราบหรือไม่ว่า นอกจากการเลือกซื้อผักที่ระบุว่าปลอดสารพิษแล้ว ยังมีเทคนิคง่ายๆที่หากคุณทำได้ จะช่วยปก ป้องคุณจากสารเคมีตกค้างในผักได้อีกโขเลยค่ะ
คุณวิลาวัณย์ ใคร่ครวญ นักวิชาการชำนาญพิเศษ กรมวิชาการเกษตร ได้ให้หลักการเบื้องต้นในการเลือกซื้อผักไว้ดังนี้
• สด ไม่เหี่ยวเฉา ไม่มีรอยช้ำ หรือมีสีผิดธรรมชาติ
• สะอาด ไม่มีเศษดินและสิ่งสกปรกเกาะเป็นคราบ และไม่มีคราบสีขาวซึ่งเป็นสารฆ่าแมลงตกค้างอยู่ที่ผัก
• ไม่มีกลิ่นฉุน เมื่อดมผักดูแล้วต้องไม่มีกลิ่นฉุนแสบจมูก
นอกจากนั้นคุณวิลาวัณย์ยังฝากเคล็ด(ไม่)ลับ แบบฉบับคนฉลาดเลือกกินผักเพิ่มเติมมาด้วย ดังนี้ค่ะ
กินผักอายุสั้นดีที่สุด เลือกกินผักที่มีอายุสั้น เช่นผักบุ้ง ซึ่งตั้งแต่เริ่มปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว มีช่วงเวลาเพียง 45 วันเท่านั้น โอกาสในการเกิดโรค และแมลงจนต้องฉีดยาฆ่าแมลงจึงน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผักที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายรุ่น
กินผักตามฤดูกาล ทราบหรือไม่ ผักบางชนิดมีฤดูกาลการเติบโตของมัน เช่น ผักคะน้า ซึ่งฤดูกาลที่เติบโตได้ดีคือช่วงฤดู หนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ทำให้ผักคะน้าในช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงมากเหมือนการปลูกผักคะน้านอกฤดู กาล โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน ที่มีทั้งโรคผัก และแมลงศัตรูพืชมาก
กินผักใบดีกว่าผักหัว เพราะผักหัวจะสะสมสารพิษไว้มากกว่า
กินผักให้หลากหลาย ไม่ควรกินผักเพียงชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะมีโอกาสสูงที่สารเคมีตัวเดิมๆ ในผักจะเข้า ไปสะสมอยู่ในร่างกาย ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยได้
กินผักพื้นบ้านดีที่สุด ลองหันมากินผักพื้นบ้านให้มากขึ้น เพราะผักพื้นบ้านส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่ตามธรรมชาติและมีคนไป เก็บมาจำหน่าย ทำให้แน่ใจได้ว่าปลอดสารเคมีตกค้างอย่างแน่นอน
ในฐานะผู้บริโภค เราก็มีบทบาทช่วยเหลือคนกินผักด้วยกันได้ค่ะ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) จัดโครงการสายสืบผักสดปลอดภัย ส่งเสริมคนไทยสุขภาพดี หรือสายสืบผักสดขึ้น เพื่อป้องปรามและส่งเสริม ให้มีการขายผักปลอดสารพิษตกค้างเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค
โครงการนี้เชิญชวนให้ประชาชนร่วมสมัครเป็นสายสืบผักสดอาสา เพื่อเป็นเครือข่ายแจ้งข้อมูลตลาดที่ขายผักสดไม่ปลอดภัย ไปยังเจ้าหน้าที่ โดยสายสืบจะได้รับการอบรมความรู้เรื่องผักจากอย. ทั้งการเลือกซื้อผักสดที่ไม่มีสารตกค้างและยาฆ่าแมลง รวมถึงสาธิตการล้างผักและการตรวจสอบยาฆ่าแมลงด้วยชุดทดสอบเบื้องต้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานจะนำรถ Mobile Unit ออกให้ความรู้ และสุ่มเก็บตัวอย่างผักสดในตลาดเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมาตรวจสอบ ร้านที่ขายผักปลอดภัยจะได้รับป้ายรับรองคุณภาพผักสด แต่หากผักไม่ปลอดภัยจะสั่งให้ดำเนิน การแก้ไข และหากไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินการทางกฎหมายทันที