นานาทรรศนะท้องไม่พร้อมสู่ทำแท้ง

แม้การทำแท้งจะไม่ใช่ปัญหาใหม่ในโลกมนุษย์  ด้วยสะเทือนความรู้สึก กระทบจิตใจ บั่นทอนร่างกาย และบ่งบอกความเป็นไปของสภาพปัญหาสังคม 

มาช้านานและไม่มีทีท่าที่จะขจัดให้หมดสิ้นไปได้  ทั้งยังเป็นเรื่องผิดศีลธรรม  ย่ำยีความเป็นมนุษย์มากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง เพราะนั่นคือการทำลายชีวิตภายใต้สำนึกของคำว่า"บาปกรรม" จะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจของผู้ตั้งครรภ์ที่ "ท้องไม่พร้อม" ก็ตาม 

และล่าสุดกรณีข่าวที่กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ถึงการพบซากทารก 348  ศพ บรรจุใส่ถุงพลาสติกอยู่ภายในสถานที่บรรจุศพของวัดไผ่เงินโชตนาราม ซอยตรอกจันทน์ 43 แยก 20 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยสัปเหร่อของวัดดังกล่าวสารภาพรับจ้างจากคลีนิครับทำแท้งเถื่อนหลายแห่ง ให้นำศพเด็กน้อยผู้โชคร้ายเหล่านั้นมาไว้ที่ช่องเก็บศพเพื่อรอเผา  นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ สะท้อนความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้รับจ้างทำแท้งมีอยู่ทั่วไป  เกิดขึ้นอย่างโจ๋งครึ่มและค่อนข้างจะเดินเข้าไปใช้บริการได้ง่าย แม้จะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายก็ตาม  จนเกิดเป็นคำถามว่า แท้จริงแล้ว หญิงที่ท้องแล้วไปทำแท้ง เป็นแค่พวกรักสนุก วัยรุ่นใจแตก หรือถูกย่ำยีทางเพศจนมิสามารถให้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ให้พวกเขาได้มีโอกาสลืมตาและมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้กันแน่  ?

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มล.กัลยกร เกษมศรี  กล่าวว่า  ภายหลังทราบข่าวซากทารกเด็กจำนวนมากที่ถูกทำแท้งและเตรียมนำไปเผา ก็รู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก  ไม่รู้สึกบาปกันบ้างหรือ  ทั้งนี้   การทำแท้งในสังคมไทยเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว และสุ่มเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยต่อตัวผู้ที่ไปใช้บริการตามคลินิกทำแท้งเถื่อนด้วย ด้วยเครื่องมืออาจจะไม่ถูกต้องตามหลัก  แต่ถ้าในต่างประเทศจะมีคลินิกรับทำแท้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือไม่ต้องไปแอบทำกัน โดยเขามีแพทย์ที่มีจรรยาบรรณซึ่งไม่ได้หวังแค่เงินอย่างเดียวดูแลอยู่ด้วย  

"แง่คิดของคนที่ทำแท้ง  ทางแก้ มองว่า ควรป้องกันไม่มีอีกหนึ่งชึวิตเกิดขึ้นมากกว่า   ถ้าคิดว่า พลาดไปแล้ว ตัวเองมีกำลังเลี้ยงก็ปล่อยให้เด็กเกิดมา แล้วดูแลเขาให้ดี แต่ถ้าปล่อยให้เกิดมาแล้วกลายเป็นปัญหา  เราต้องลำบาก ก็อย่าเลยต้องคำนึงถึงตรงนี้  กับข่าวศพเด็กทารกกว่า300ศพ มองว่า แพทย์ตามคลินิกทำแท้งเถื่อนไม่ควรจะทำเพื่อเงินเท่านั้น บางครั้ง คนที่คิดอะไรไม่ออก ผู้ให้คำปรึกษาดีที่สุดคือก็คือหมอ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้ตั้งใจให้ตัวเองท้องและไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู ดังนั้น คนที่เป็นแม่และพ่อถ้าจะให้มีการทำแท้งควรคิดให้ดีก่อน มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจทั้งทางร่างกายและจิตใจเลย" มล.กัลยกร กล่าว

ด้านน.ส.เทียมใจ ทองเมือง  ผู้จัดการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  ให้ความเห็นว่า  น่าจะมีการจัดให้คลีนิค หรือฝ่ายที่ทำแท้งอย่างถูกกฎหมายไปเลย  ผู้หญิงจะได้รับการดูแลรักษาและจะได้ผ่านกระบวนการพูดคุยเตรียมความพร้อมทบทวนตรวจสอบและหาทางออกร่วมกัน อาจจะต้องมีแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ร่วมด้วยการทำแท้งเถื่อนมีความอันตรายมากในขณะที่ความต้องการทำแท้งมีมากก็เห็นกันอยู่  ส่วนการแก้ปัญหาการท้องในขณะที่ไม่พร้อมก็ต้องว่ากันไป

"เมื่อวัยรุ่นต้องมีเพศสัมพันธ์ เขาก็ต้องเรียนรู้เพศศึกษาอย่างถูกต้อง รู้จักวิธีการป้องกัน และรู้ว่าหากมีข้อผิดพลาดเขามีช่องทางไหนบ้างที่มิเช่นเพียงเพื่อนสนิท ซึ่งก็เป็นคนรุ่นเดียวกันที่วุฒิภาวะก็พอๆกันแต่ที่กล่าวมานี่ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยกับการทำแท้งทุกกรณีนะคะ บ้านพี่มีเคส ท้องในวัยเรียน พ่อรับปริญญา ลูก 1 ขวบ พอดี ส่วนแม่ก็ต้องมาเริ่มต้นเรียน ป.ตรีใหม่ เพราะไม่สะดวกใจที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยปิดแล้ว แต่ครอบครัวเราเปิดกว้าง รับได้ก็มีความสุขกันดี เด็กน้อยตอนนี้สองขวบแล้ว น่ารัก น่าเอ็นดู" น.ส.เทียมใจ กล่าว

ส่วน น.ส.จิตติยา วาจี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง  เผยว่า  ตอนนี้เด็ก เยาวชน หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปไม่ค่อยเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างแท้จริง  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัฒนธรรมของไทยเราปิดกั้นเรื่องนี้ ถ้าได้เรียนรู้การป้องกันว่าเป็นอย่างไร หรือปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ปัญหาก้ไม่เกิดขึ้นมากมายขนาดนี้

"ผู้ที่ทำแท้ง หลายคนเมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา อาจเป็นเพราะไม่รู้จะเลือกทางไหน ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาหรือช่วยกันหาทางออกที่ดีอย่างแท้จริง กับน้องๆ ที่คุยด้วย ที่มาปรึกษา เขาก็เล่าว่า ตอนตั้งครรภ์ไม่รู้จะไปคุยกับใครก็ไปถามเพื่อน ด้วยความไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน ก็มีแต่คำแนะนำให้ไปทำแท้งกัน มันก็เป็นทางออกที่ไม่ถูก" น.ส.จิตติยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง กล่าวปิดท้ายว่า ส่วนตัวก็ไม่สนับสนุนนักกับการเปิดให้มีคลินิกทำแท้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่หากทุกคนช่วยกันให้ความรู้ ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ มีการพูดคุย ปรึกษาเรื่องต่างๆ ต่อกัน ว่าผู้ที่ประสบปัญหามีทางเลือกอะไรบ้าง ก็อาจจะลดการทำแท้งได้ ทั้งนี้ ทางสมาคมวางแผนครอบครัวก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาท้องโดยไม่พร้อมได้มากเช่นกัน เพียงแต่เราต้องกล้า

ปิดท้ายที่ นายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ระบุว่า กับเรื่องดังกล่าว  ตนมอง2 ประเด็นหลักใหญ่ คือ การบังคับใช้กฎหมายควบคุมคลินิกเถื่อน  โดยมองว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ องค์กร หรือรัฐบาลที่เกี่ยวข้องทำงานไม่มีประสิทธิภาพพอในการป้องดูแลชีวิตเด็ก ทั้งๆที่ก็เห็นหลักฐานคือศพเด็กและรับรู้กันมาอยู่ตลอดกับปัญหาที่เกิดขึ้น  ในอีกแง่หนึ่งคือ ประชาชนผู้มารับบริการ ซึ่งไม่แน่ใจว่า มีวัยรุ่นกี่ส่วน ผู้ใหญ่กี่ส่วน สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นความบกพร่องที่ไม่มีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับคุมกำเนิด มีความเข้าใจผิดๆ  เกี่ยวกับกำคุมกำเนิด ท้องไม่พร้อม ไม่ตั้งใจมากกว่า

 ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน และหาทางออกให้กับตัวองไม่ได้ ถ้าจะปล่อยให้เด็กเกิดมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจนั้น ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า ขณะนี้ กำลังมีการนำร่างกฎหมายที่ช่วยเหลือผู้หญิงซึ่งตั้งครรภ์ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเจรจาหาทางออกให้กับเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ ซึ่งต้องติดตามดูกันต่อไปว่า ร่างดังกล่าวจะผ่านกฎหมายหรือไม่

"การมีเพศสัมพันธ์เป็นความสุขทางอารมณ์ของมนุษย์ทุกคน  แต่ก็อยากให้ทุกคนมีความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย กับปัญหาการทำแท้งมากมายที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า  คนไทยไม่มีความรับผิดชอบ พอตั้งครรภ์ขึ้นมาแบบไม่พร้อม หาทางออกไม่ได้ไปทำแท้ง หลักของทุกศาสนาในโลกนี้  ไม่สนับสนุนให้มีการทำแท้ง เพราะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอย่างยิ่ง  เด็กที่เกิดขึ้นมาเป็นของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้า ทำไมถึงต้องทำลายชีวิตกันด้วย" นายรัชฏะ ตั้งคำถามทิ้งท้าย