สุขทุกข์ในมือเรา
ชีวิตไม่อาจเป็นไปดังหวังได้หมด
เปรียบไปก็ไม่ต่างกับเกมกีฬาที่ต้องมีแพ้ชนะ ใครที่หวังชัยชนะไปเสียทุกครั้ง ก็เตรียมตัวทุกข์ใจไว้ได้เลย
พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่า
ให้เตรียมตัวเป็นผู้แพ้แต่อยู่ในมุ้งหามิได้ ใครที่คิดเช่นนั้น ก็คงงอมืองอเท้าตั้งแต่แรก คนเราควรพากเพียรอย่างเต็มที่ แต่ใครเล่าที่จะกำหนดผลสำเร็จไปได้หมด คนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ฉันใด ในยามที่ชีวิตตกต่ำ บัณฑิตพึงรู้จักทำใจให้เป็นฉันนั้น
แต่คนเรามักทำใจไม่ได้
เพราะคอยหวนคะนึงถึงวันคืนอันชื่นบาน สมัยยังมั่งมีศรีสุข หรือยังมีหน้ามีตา แต่อดีตนั้นมีไว้เพื่อเป็นฐานหนุนส่งให้เกิดปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคต ใครที่เอาอดีตมาเหนี่ยวรั้งตนไว้ไม่ให้ไปข้างหน้า ก็เท่ากับเป็นนักโทษในกรงขังของตัวเอง
ชีวิตนั้นให้รางวัลก็แต่ผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน
เพราะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นของจริง จริงอยู่บ่อยครั้งปัจจุบันมีแต่เรื่องระทมทุกข์ อดีตนั้นน่าพิสมัยมากกว่า แต่ถ้าเราจะหวนไปหาอดีตบ้างก็ควรเป็นชั่วครู่ชั่วขณะ เพื่อชุบชูจิตใจให้ชื่นบานจะได้มีกำลังมาฟันฝ่าชีวิตในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม
อย่าลืมว่าชีวิตจะสุขหรือทุกข์นั้น อยู่ที่เราเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพราะคนอื่นหรือเหตุอื่น เช่นเดียวกับความจนและความรวยนั้น อยู่ที่มุมมองของเรา คนไทยเป็นอันมาก กำลังทุกข์เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยากจนลง ตราบใดที่ยังจมอยู่กับความคิดแบบนี้ก็ไม่มีวันคลายทุกข์ไปได้
แต่เราลืมไปแล้วหรือว่า
ชีวิตความเป็นอยู่ของเราตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าบางช่วงในอดีต ลองมองไปรอบตัว จะพบว่า ข้าวของในบ้านหลายชิ้น เคยเป็นของสุดเอื้อมสมัยเรายังเด็ก หรือเป็นหนุ่มเป็นสาว รถยนต์ แก้วแหวนเงินทอง วีดีโอ สเตอริโอ ซีดี ฯลฯ
มองในแง่นี้เราไม่ได้จนลงแต่รวยขึ้นต่างหาก
ยิ่งถ้าเปรียบกับคนอีกมากมายตอนนี้ ไม่ว่าจะมองลงไปข้างล่างหรือมองขึ้นข้างบน เราก็ยังสบายกว่ามาก คนที่ถูกยึดรถไป สมควรแล้วที่จะคิดว่า ตัวเองโชคดีกว่าคนที่กิจการล้มละลาย ส่วนคนที่กิจการล้มละลาย ก็ยังนับว่าโชคดีกว่านักธุรกิจพันล้าน ที่มีหนี้ท่วมหัว
แต่ถึงจะเป็นหนี้เป็นสินมากแค่ไหน
เราก็ยังมีสิทธิเลือกได้ว่าตัวเองจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ เพราะถึงที่สุดสุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์หรือหนี้สิน หากอยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัว แย่แล้ว ๆ นรกก็เกิดขึ้นทันตาเห็น เรามีสิทธิที่จะคิดว่าตัวเองไม่แย่ แต่สิทธินี้เราจะใช้หรือไม่อยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง
กระนั้นก็ตาม
นอกจากวิธีคิดหรือมุมมองแล้ว คุณภาพจิตของเราก็สำคัญ ถ้าเราเป็นคนรู้จักสันโดษ ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้มาหรือมีอยู่ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักแสวงหาความสงบในจิตใจ วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่จะฟันฝ่าไปได้.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: พระไพศาล วิสาโล