สุขกาย สุขใจ = สุขในองค์กร

สุขกาย สุขใจ = สุขในองค์กร



วันนี้เรามีเทคนิคการดูแลสุขภาพ มาให้องค์กรต่างๆ ได้นำไปใช้ในการสร้างสุขให้บุคลากรในองค์กร ด้วยรู้สึกว่าในช่วงนี้ข่าวคราวความทุกข์ของคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คงทำให้คนจำนวนไม่น้อยทำงานอย่างไม่มีความสุขและเกิดภาวะเครียด จึงเห็นว่าหากคนในองค์กร โดยเฉพาะฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหาร ได้มีการนำเทคนิคการดูแลร่างกายอย่างง่ายๆในที่ทำงานไปส่งเสริมและปรับใช้ในองค์กรก็จะทำให้พนักงานองค์กรมีความผ่อนคลาย และมีความสุขภาพที่ดีขึ้น

 

          จะว่าไปแล้วก็ตรงกับ เทคนิคในการสร้างสุข 8 ประการ ที่แผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้ให้ไว้คือ happy boby และ Happy Relax ที่เชื่อว่า หากคนซึ่งเป็นพนักงานในองค์กรมีร่างกายแข็งแรงทั้งกายและจิตรใจ สมองปลอดโปร่ง รู้จักวิธีผ่อนคลาย ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข แม้ว่างานชิ้นนั้นจะยากเพียงใดก็ตาม ฉบับนี้จึงขอนำเทคนิคการเพิ่มพลังสมองและการดูแลสุขภาพสัก 3 ท่า เท่าที่พื้นที่จะอำนวยมาฝากกัน

 

          เทคนิคการเพิ่มพลังสมอง

 

          1. ท่าปุ่มสมอง

 

          เป็นท่ากระตั้นระบบไหลเวียนของเลือดโดยเฉพาะเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอ ช่วยให้สมองตื่นตัว เพิ่มสมาธิ และการรับรู้โดยวางมือข้างหนึ่ง แบไว้ตรงสะดือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งคลำหาร่องบุ๋มที่อยู่ใต้กระดูกไหปลาร้ากับกระดูกหน้าอกด้านขาว จากนั้นนวดบริเวณร่องบุ๋มเบาๆประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที พร้อมกวาดสายตาจากซ้ายมาขาว สลับไปมา (สลับมือกันทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง)

 

          2. ท่าเคลื่อนไหวสลับข้าง

 

          เป็นท่าที่จะช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น การประสานการทำงานของร่างกายทั้งซีกซ้ายและขาวดีขึ้น เพิ่มพัฒนาการด้านการได้ยิน การหายใจดีขึ้น และมีความอกทนได้มากขึ้น โดยก่อนทำงานสามารถส่งเสริมให้พนักงานทำท่านี้ที่ข้างโต๊ะทำงาน โดยเดินย่ำเท้าอยู่กับที่ยกเข่าให้สูง ยกแขนและขาข้างตรงกันข้าม เคลื่อนไหวสลับไปมาอย่างน้อย 10 ครั้ง

 

          3. ท่าเลขแปดหลังยาวสำหรับการมอง

 

          เป็นท่าพัฒนาการเคลื่อนไหวของดวงตาเพื่อให้เกิดการประสานงานของมือและตา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจำ มีความสงบเยือกเย็น มีสมาธิ เหมาะสำหรับพนักงานที่ทำงานศิลปะ ใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชี โดยให้พนักงานชูหัวแม่มือข้างใดข้างหนึ่งขึ้นไว้กลางระดับสายตา ระยะห่างประมาณช่วงศอก ตั้งศีรษะนิ่ง ไม่เกร็ง ตามองตามนิ้วที่เคลื่อนตลอด โดยลากนิ้วหัวแม่มือขึ้นไปด้านบนของขอบเขตสายตา และลากทวนเข็มนาฬิกากลับมาด้านซ้าย จนกระทั่งนิ้ววนมาถึงจุดต่ำสุด จากนั้นหมุนย้อยเข็มผ่านจุดกึ่งกลางไปทางขวาทำทีละข้างข้างละ 3 ครั้ง

 

          นอกจากท่าเพิ่มพลังสมองขั้นต้น 3 ท่า นี้แล้ว ควรส่งเสริมให้พนักงานดูแลสุขภาพกายและใจด้วยวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน คือ หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟิน การเปิดรับเรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน เช่น การกินอาหารร้านใหม่ รู้จักเพื่อนใหม่ เพราะจะทำให้สมองหลั่งสารเอนโดรฟินและโดปามีนซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ การรู้จักให้อภัยเพื่อลดภาวะของสมอง เพราะการไม่ให้อภัยคนอื่น โกรธตัวเอง ขี้โมโห ทำให้เปลืองพลังงานสมองเป็นอย่างยิ่ง

 

          การฝึกพูดดีๆ กับตัวเอง เพื่อเป็นการส่งผ่านความสุขให้ตนเองการฝึกหายใจให้ลึก เพื่อให้สมองจะได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอและถูกต้องเพราะในสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 2 ใน 3 ส่วน หากดื่มน้ำน้อยเกินไปเซลล์สมองจะขาดน้ำ การสื่อสารส่งถ่ายข้อมูลระหว่างเซลล์จะช้าลงทำให้คิดอะไรไม่ออก หรือคิดช้าตามไปด้วย

 

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์