
1.โทนเนอร์แปลว่าปรับสภาพผิว ไม่ใช่การบำรุงให้ใบหน้าชุ่มชื่นหรือได้ผลเทียบเคียงครีมบำรุง แต่เป็นการเตรียมผิวก่อนทาครีม ซึ่งผลที่ได้แน่นอน คือ ความสะอาดที่มั่นใจได้มากขึ้น และทำให้ผิวรู้สึกสบาย
2.ถ้าผิวมีสิว เลี่ยงทันทีกับโทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์ เมนทอล และไซลิไซลิค แอซิด ที่ยิ่งทำให้ผิวแห้ง และยิ่งเร่งการขับไขมันออกมามากขึ้น
3.การเช็ดถู ควรเลือกใช้สำลีธรรมชาติที่อ่อนนุ่มประกอบกันด้วย เช็ดผิวจากด้านล่างขึ้นด้านบน และทำอย่างเบามือที่สุด เพื่อลดการเกิดริ้วรอยและการขยายของรูขุมขน
4.ค่า PH ควรรักษาความเป็นกรดด่างของผิวหน้าให้สมดุล คือ ค่าความเป็นกรดด่างของผิวที่เหมาะสมคือ 4-6 หรือมีความเป็นกรดเล็กๆ (1-6 คือเป็นค่ากรด และ 7-14 เป็นค่าด่าง) โทนเนอร์ก็สำคัญที่ไม่ควรมีกรดมากเกินไปเพราะเป็นการขโมยออกซิเจนออกจากผิว ทำให้ต่อมไขในทำงานหนักขึ้น และต้องใช้เวลาอีกกว่า 30 นาที กว่าผิวจะปรับสภาพกลับมาตามเดิม
5.โทนเนอร์ช่วยให้ครีมบำรุงทำงานดีขึ้น เมื่อใช้หลังล้างหน้าในการปรับให้ผิวรักษาความสมดุล ชุ่มชื่น จากนั้นเมื่อทาครีมบำรุง ครีมจึงซึมซาบลงสู่ผิวง่ายขึ้น และลึกมากขึ้น หากใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ภายใน 1-2 นาที
6.โทนเนอร์สามารถดัดแปลงได้ โดยนำชนิดที่ปราศจากแอลกอฮอล์ไปแช่เย็นแล้วนำมาฉีดพรมใบหน้าและลำตัว เพื่อลดการขยายตัวของเส้นเลือด ผิวจะรู้สึกสบาย แถมยังได้บำรุงไปในตัว
7.โทนเนอร์จะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น เพียงนำโทเนอร์ที่มีกลิ่นหอม ชื่นใจ นำมาใส่ขวดที่มีหัวฉีด จากนั้นฉีดพรมบางๆ บนใบหน้าหลังแต่งหน้าเสร็จ จะช่วยให้เครื่องสำอางที่ใช้ส่วนผสมจากแร่ธาตุ ทั้งหลายเกาะผิวได้ดี และทำให้ผิวดูชุ่มชื่นขึ้น


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว