ย้อนอดีต ตุ๊กตากระดาษ ของเล่นที่หายไปในวันนี้

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ย้อนอดีต ตุ๊กตากระดาษ ของเล่นที่หายไปในวันนี้

หากย้อนไปในอดีต ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเล่นตุ๊กตากระดาษถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมฮอตฮิตของเหล่าเด็กผู้หญิงกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกเรียน เด็ก ๆ มักหยุดยืนดูแผ่นตุ๊กตากระดาษตาหวาน หน้าญี่ปุ่น ตามร้านค้าต่าง ๆ กันเนืองแน่น ความสุขที่ได้จากการเล่นนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะการเล่นตุ๊กตากระดาษเหล่านี้ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียว หรือเล่นร่วมกันกับเพื่อน ๆ ก็เปรียบได้กับการเสริมจินตนาการให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักผูกโยงเรื่องราวต่าง ๆ ตามใจคิด

แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไป ตุ๊กตากระดาษตาหวานใส่ชุดราตรีสุดหรูราคาแผ่นละ 50 สตางค์ - หนึ่งบาทในวันวาน มาถึงวันนี้กลับหายไปจากแผงร้านค้า หากจะมีปรากฏอยู่บ้างก็จะเป็นร้านค้าชานเมือง-ต่างจังหวัด ขณะที่บางส่วนแม้ได้รับการพัฒนาให้เป็นตุ๊กตากระดาษคุณภาพดี ทำจากกระดาษแข็ง ทนทาน แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าในอดีต

ชัยฤทธิ์ ศรีโรจน์ฤทธิ์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Hello Kids ในเครือแปลน ฟอร์ คิดส์ อีกหนึ่งผู้ผลิตสื่อที่คร่ำหวอดในแวดวงครอบครัวให้ความเห็นว่า การเล่นตุ๊กตากระดาษของเด็ก ๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุก อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม สติปัญญา ไปพร้อม ๆ กันด้วย

"ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาอะไร สิ่งที่เด็กได้รับมันก็เหมือนกัน คือเด็กได้ฝึกบทบาทสมมติ ได้ฝึกภาษา ทักษะทางสังคม และการทำงานของกล้ามเนื้อ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงแค่เด็กใช้นิ้วจับตุ๊กตาและเดินเรื่องไปตามจินตนาการ แต่หากมองให้ลึกลงไปแล้ว การเล่นตุ๊กตากระดาษ เด็กยังได้ฝึกเรื่องของรสนิยม เพราะเขาจะได้รู้จักพิจารณาว่า การสวมใส่ชุดในลักษณะนี้ควรจะใส่เมื่อใด"

"อีกประการหนึ่งคือ ตุ๊กตากระดาษนั้นค่อนข้างบอบบางกว่าตุ๊กตาธรรมดา ๆ โดยเฉพาะบริเวณคอที่มักจะขาดก่อนส่วนอื่น ๆ เด็กจะได้เรียนรู้วิธีการเก็บรักษา หรือถ้ามันพังไปจะซ่อมอย่างไรให้กลับมาเหมือนเดิม" ชัยฤทธิ์กล่าว

แต่ข้อดีของตุ๊กตาราคาประหยัดยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะหากเทียบกับของเล่นราคาแพง ๆ ตุ๊กตากระดาษถือว่าถูกกว่ามาก

ส่วนในแง่ของฟังก์ชันการเล่นก็ได้รับการพัฒนาไปค่อนข้างมากเช่นกัน โดยในปัจจุบัน นอกจากจะมีวางจำหน่ายในลักษณะของตุ๊กตากระดาษธรรมดา ๆ แล้ว ยังมีการพัฒนารูปแบบของตุ๊กตากระดาษให้เป็นรูปเล่มสวยงาม ทำจากกระดาษแข็งที่มีความทนทาน หรือมีลักษณะเป็นกล่อง พอเล่นเสร็จก็เก็บใส่กล่อง เป็นต้น นอกจากนั้น ในส่วนของอุปกรณ์เสริม ปัจจุบันก็ได้รับการพัฒนาไปมากเช่นเดียวกัน โดยมีการพัฒนาบ้านตุ๊กตาในลักษณะของบ้านป็อปอัป ฯลฯ

ในจุดนี้ ชัยฤทธิ์แนะนำว่า "หากต้องการหาซื้อตุ๊กตากระดาษราคาไม่แพง ย่านสำเพ็งก็ยังมีขายอยู่ แต่ก็อาจต้องระวังในเรื่องของสีที่ใช้พิมพ์ ไม่ให้เด็กเอาเข้าปาก ซึ่งผู้ปกครองค่อนข้างควบคุมได้ง่าย เพราะเด็กที่เล่นตุ๊กตากระดาษมักมีวัยตั้งแต่ 4 - 6 ขวบ ซึ่งไม่ใช่วัยที่เอาของเล่นเข้าปากแล้ว"

"แต่ถ้าอยู่ในรูปเล่มก็อาจมีราคาสูงกว่านั้น โดยจะมีความแตกต่างในแง่ของวัสดุที่ใช้ ตัวตุ๊กตามีความทนทานมากขึ้น ส่วนชุดที่ออกแบบมาก็ไม่ใช่ชุดราตรีหรูหราเพียงอย่างเดียว แต่จะมีความสมจริงมากกว่า และหลากหลายมากกว่า เน้นไปที่แต่ละสาขาอาชีพ"

อย่างไรก็ดี ในฐานะผู้ผลิตสื่อสำหรับเด็ก เขายังได้ฝากทิ้งท้ายว่า หากพ่อแม่ยุคปัจจุบันจะมองหาของเล่นในอดีตที่ตนเองประทับใจให้กับลูก การเลือกตุ๊กตากระดาษก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี แต่ก็ไม่ควรมองว่า ของเล่นที่ได้มาจากการซื้อหาจะเป็นของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอไป

"ตุ๊กตาหรือของเล่นสำหรับลูกที่ดีที่สุดคือ ของเล่นทำมือที่พ่อแม่ทำขึ้นเองให้ลูก ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องซื้อหาแล้ว ของเล่นชิ้นนี้ยังมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ซึ่งต้องกระตุ้นให้พ่อแม่มีความกล้าที่จะทำ อย่าหาข้ออ้างว่าพ่อแม่ไม่สามารถวาดรูปได้ หรือทำไม่สวย ขอแค่ใส่ความตั้งใจทำลงไปก็เพียงพอแล้วครับ"