อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหนาว วันเดียวเจอกับอากาศถึงสามฤดู แล้วอย่างนี้จะไม่เป็นหวัดคัดจมูกได้อย่างไรกัน.....?
ไข้หวัดถือเป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว ติดต่อกันได้ง่ายทั้งทางลมหายใจ น้ำมูก หรือน้ำลายของผู้ป่วย แม้จะเป็นโรคที่ไม่เป็นอันตรายนัก แต่หากไม่รู้จักดูแลรักษาตัวเองให้ดี ก็อาจส่งผลให้เกิด
โรคแทรกซ้อนรุนแรงได้ เป็นโรคที่พบมากกว่าฤดูกาลอื่นๆ เพราะหวัดหน้าร้อน ก็มีน้อยยกเว้นคนที่เข้าๆ ออกๆ ในห้องแอร์บ่อยๆ หวัดหน้าฝนก็มีน้อยคนที่ตากฝนแล้วเป็นหวัดมักจะเป็นผู้ดี ผิวบาง ที่ไม่เคยโดนแดด โดนฝน แต่หวัด ฤดูหนาวเป็นได้ทุกคน เพราะว่าอากาศหนาว ทำให้ความต้านทานโรคของร่างกายลดต่ำลง ฤดูหนาวคนมักจะปิดประตูหน้าต่างกันความหนาวเข้ามาโดยบังเอิญหากมีคนเป็นโรคไข้หวัดเข้ามารวมในห้องนั้น จามฮัดเช้ย 2-3 ครั้ง ไวรัสหวัดก็จะแพร่กระจายไปเต็มห้องสามารถติดต่อมายังคนใกล้เคียงได้ง่าย โรคไข้หวัดในฤดูหนาวเกิดจากเชื้อไวรัสหวัด โดยมักจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อ ตามตัว น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บหน้าอก เจ็บคอ ตาแดง เหนื่อย อ่อนเพลีย วิงเวียน นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดความรู้สึกทางเพศลดลงด้วย ส่วนมากจะไปทำงานไม่ไหว ทำให้เป็นโรคที่เป็นสาเหตุของคนไข้ ขาดงาน ลางานมากเป็นอันดับหนึ่ง ยิ่งถ้าหากว่ากินยาแก้หวัดลดน้ำมูกยิ่งง่วงนอนมากขับรถไม่ได้ ทำงานกับเครื่องจักรอันตรายมาก อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้จึงทำให้ต้องขาดงานมากที่สุด โรคไข้หวัดติดต่อกันง่ายทางน้ำมูก น้ำลาย ไอ จาม และจุมพิต ก็ตาม แต่ก็ต้องมีเหตุเสริม และสาเหตุช่วยคือ ความค้านทานของร่างกายลดต่ำลงจาการอดนอน กินเหล้าจัด สูบบุหรี่ ตากแดด ตากฝน โดนแอร์ โดนพัดลม เป็นสาเหตุช่วย ดังนั้นการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงจากการสัมผัสคนที่ป่วย เป็นโรคไข้หวัดโดยตรง ไม่อยู่ในที่แออัด อากาศทึบรวมกับผู้ป่วย คนเป็นไข้หวัดเองก็ควรระวังไม่แพร่กระจาย ไปยังคนข้างเคียงที่รักหรือชัง เวลาไอจามควรจะมีผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ปิดจมูก หรือเลี่ยงโดยการไม่ไปทำงาน พยายามฟิตให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ เมื่อใดควรพาไปพบแพทย์ 1. ถ้ามีไข้สูงหรือมีไข้นานผิดปกติประมาณ 3 วันขึ้นไป 2. ไอมากผิดจากหวัดทั่วไป 3. อาเจียน ซึม ถ่ายเหลว มีผื่นขึ้นหรืออาการผิดปกติอื่นๆ จะรักษาได้อย่างไร ไม่มียาฆ่าเชื้อโรคไวรัสหวัดโดยตรง ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะเพราะไร้ประโยชน์ การรักษาส่วนมากจะกินยาบรรเทาอาการที่ป่วยและทรมานคือ 1. พาราเซตามอล ลดไข้ แก้ปวดเมื่อย คลอเฟนนิรามีน ลดน้ำมูก ลดอาการแพ้ ลดอาการคัดจมูก แต่ยานี้ง่วงนอนมาก 2. ยาแก้ไอน้ำดำ เป็นยาแก้ไอ 3. ไบโซว่อน เป็นยาละลายเสมหะ 4. ยาโรมิล่าร์ เป็นยาระงับไอ 5. วิตามินซี ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง จะรักษาได้อย่างไร 1. กินอาหารที่เป็นประโยชน์ 2. ออกกำลังกายและพักผ่อนนอนหลับและทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ 3. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดยัดเยียด 4. รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ 5. อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่าใช้ของร่วมกับผู้ป่วย
|
|