แกงเผ็ดเป็ดย่าง
แกงเผ็ด เป็นแกงที่โขลกด้วยพริกชี้ฟ้าแห้ง ที่ต้องใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลักได้แก่ เนื้อหมู ไก่ ปลา เป็นต้น ผักเป็นเพียงส่วนประกอบรอง ได้แก่ มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเจ้าพระยา หน่อไม้ ยอมมะพร้าว เป็นต้น ส่วนผักที่โรยให้มีกลิ่นหอม คือ ใบโหระพาและใบมะกรูด ส่วนน้ำแกงจะใช้กะทิ ถือเป็นแกงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
สำหรับแกงเผ็ดเป็ดย่าง ถือเป็นแกงที่นิยมทำสำหรับงานเลี้ยงต่างๆ เพราะถือว่าเป็ดย่างเป็นวัตถุดิบราคาแพง ในปัจจุบันมีผู้เรียกแกงเผ็ดว่า แกงแดง หรือ แกงเผ็ดแดง ซึ่งเป็นการเรียกที่ผิด เพราะเรียกตามสีของน้ำแกง ที่ถูกต้องควรเรียกว่าแกงเผ็ด
ส่วนผสม
เป็ดย่างแล่เอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นพอคำ | 250 กรัม |
หัวกะทิ | 1/2 ถ้วยตวง |
หางกะทิ | 3 ถ้วยตวง |
สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ | 1/2 ถ้วยตวง |
มะเขือเทศสีดา | 5 ลูก |
องุ่นม่วง | 10 ลูก |
มะเขือพวง | href20 ลูก |
ใบโหระพาเด็ดใบ | 1 กำ |
พริกชี้ฟ้าสีเขียว, สีแดง หั่นเฉียง | 2 เม็ด |
ใบมะกรูดฉีก | 3 ใบ |
น้ำปลา | 2 1/2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลปี๊บ | 1 ช้อนโต๊ะ |
ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกชี้ฟ้าแดง | 10 เม็ด |
ตะไคร้ซอย | 1 ช้อนชา |
กระเทียมซอย | 1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
หอมแดงซอย | 1 ช้อนโต๊ะ |
ผิวมะกรูดซอย | 1/2 ช้อนชา |
รากผักชีซอย | 1 ช้อนโต๊ะ |
ลูกผักชีคั่วป่น | 1 ช้อนชา |
ยี่หร่าคั่วป่น | 1/2 ช้อนชา |
กะปิ | 1 ช้อนชา |
เกลือป่น | 1/2 ช้อนชา |
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด
2. นำหัวกะทิเคี่ยวให้แตกมันไฟปานกลาง นำเครื่องแกงลงผัดให้หอม
3. ใส่เป็ดย่าง ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ตักใส่หม้อหางกะทิ
4. ตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวให้เข้าเนื้อสักครู่
5. ใส่สับปะรด มะเขือพวง องุ่นม่วง มะเขือเทศสีดา คนให้สุกทั่ว
6. ใส่พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ใบมะกรูดและใบโหระพา ปิดไฟยกลงตักใส่ชาม
ข้อเสนอแนะ
1. พริกชี้ฟ้าแห้งแดงจะทำให้สีของแกงสวย
2. อาจใช้หมูย่างแทนเป็ดย่างได้
3. การใช้กะทิสำเร็จรูป ถ้าต้องการหางกะทิให้ใช้น้ำเปล่าผสม โดยใช้อัตราส่วนคือกะทิ 1 ถ้วยตวง ต่อน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
4. การใช้กะทิสำเร็จรูปจะเคี่ยวให้แตกมันช้า ให้ใช้น้ำมันช่วยผัดกับกะทิ จะทำให้ร้อนและแตกมันเร็วขึ้น
5. สามารถใช้น้ำนมถั่วเหลืองแทนน้ำกะทิได้
6. อาจใส่ผลไม้ที่มีรสอมเปรี้ยวอื่นๆได้ เช่น ลิ้นจี่ มะม่วง
7. ลักษณะของอาหาร เป็นแกงที่มีน้ำข้นเล็กน้อย มีมันสีแดงลอยหน้า สีน้ำแกงแดงสด หอมกลิ่นเครื่องเทศ มีรสเค็ม เผ็ด หวานกะทิ
ที่มา http://www.horapa.com/