เลือดกรุ๊ปไหน ทานอะไรดี
หลายคนอาจงงอยู่ไม่น้อยว่า การรับประทานอาหารกับกรุ๊ปเลือดของแต่ละคน จะมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
กรุ๊ป A
คนที่มีเลือดกรุ๊ป A จะอ่อนไหวต่อโรคมะเร็งมากกว่าหมู่อื่น ๆ นะคะ เพราะฉะนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จึงควรหมั่นไปตรวจสุขภาพร่างกายอยู่เป็นประจำ
สำหรับคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ เคยสังเกตตัวเองดูบ้างรึเปล่าว่า เวลาที่ดื่มนมเข้าไปบางครั้งอาจมีอาการแน่น ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยวขึ้นได้ เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A จะทำปฏิกิริยากับนม
จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภท นม ข้าวสาลี และเนื้อแดงไม่ติดมัน ส่วนอาหารที่ควรหันมารับประทานกันเพิ่มขึ้นก็คือ พวกผักใบเขียว ใบเหลือง รวมทั้งธัญพืช และถั่วต่างๆ ยิ่งถ้าทานเข้าไปเยอะ ๆ ก็จะยิ่งมีประโยชน์มากค่ะ
กรุ๊ป B
พวกที่อยู่ในกลุ่มเลือดกรุ๊ป B ถือว่าเป็นเลือดที่ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ รับประทานอะไรจึงจะดี
หมู่เลือดกรุ๊ป B ว่ากันว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคนเรารู้จักเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงแฮปปี้อย่างมากกับการดื่มนม และรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าท้องไส้จะปั่นป่วน หรือท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยวอย่างคนกรุ๊ปเลือด A
นอกจากนี้ อาหารพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น กวาง แกะ หรือกระต่าย ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น แต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อไก่
กรุ๊ป O
กรุ๊ปเลือดนี้ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกของมนุษย์เราเลยก็ว่าได้ ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีสุขภาพแข็งแรงดีมาก เมื่อกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เป็ด ไก่ และปลา (ยกเว้นหมู) แล้วก็ออกกำลังกายหนัก ๆ เช่น เต้นแอโรบิก จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
เนื่องจากว่าเมื่อแสนปีที่แล้ว พวกมนุษย์หากินด้วยการล่าสัตว์ และเก็บผักบางชนิดกินบ้าง แต่ไม่มีการกินนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม คนที่มีเลือดกรุ๊ป O จึงไม่เหมาะนักที่จะดื่มนม และมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคแผลเน่าเปื่อย หรือเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่น ๆ อีกด้วย
กรุ๊ป AB
เลือดกรุ๊ปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในหมู่มนุษย์เรา คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีเพียงแค่ 2% เท่านั้นเอง จะมีลักษณะคล้ายๆ คนเลือดกรุ๊ป B คือ รับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ แต่ก็มีจุดอ่อนคือ ระบบย่อยอาหาร มักจะมีกรดเกิดขึ้นมากในท้องส่วนล่าง หรือลำไส้ใหญ่
ดังนั้น ข้อแนะนำก็คือ ควรรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่น้อยและอย่าบ่อยนัก อาจสังเกตได้ง่าย ๆ ถ้ามีอาการผิดปกติคือ จะเรอบ่อย
ที่มา Teenpath
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!