
อยากให้คนอื่นจดจำคุณอย่างไร ?


ประเพณีการสลักชื่อและข้อความบนหินในสุสาน (epitaph) ของชาวตะวันตกก็มีข้อควรให้ครุ่นคิด epitaph เป็นคำกรีก แปลตรงตัวว่า 'บนหินหลุมศพ' อาจเป็นข้อความ บทกวี อาจบอกที่มาของชาติตระกูล หรือบอกความรู้สึกของญาติมิตร ด้วยคำตั้งแต่แบบเคร่งขรึม เศร้าสร้อย เปี่ยมด้วยความรักอาลัย ไปจนถึงแบบเจืออารมณ์ขัน ส่วนใหญ่เขียนมีสัมผัสนอกแบบบทกวี
บางป้ายบอกสาเหตุความตาย เช่นหลุมศพของ แอนนา โฮปเวลล์ ผู้จากไปเพราะเปลือกกล้วย :
Here lies the body of our Anna
Done to death by a banana
It wasn't the fruit that laid her low
But the skin of the thing that made her go.
หรือชายชาวนิวยอร์กผู้ตายเพราะก้างปลาติดคอ :
He got a fish-bone in his throat
and then he sang an angel note.
หรือชายผู้ขับรถไม่ดีนัก :
Here lies the body
of Jonathan Blake.
Stepped on the gas
Instead of the brake.
(ที่นี่ฝังร่างของ จอนาธาน เบลก ผู้เสือ กเหยียบคันเร่ง แทนที่จะเหยียบเบรก)
จำนวนไม่น้อยมีอารมณ์ขันแม้กับความตาย เช่น ที่ฝังศพของผู้หญิงชาวเมือง โคโลราโด สปริงส์ คนหนึ่งซึ่งแต่งงานกับชาวเท็กซัส เห็นชัดว่านางรักสามีผู้ถูกฝังในเท็กซัสเพียงไร!
I would
rather be here
than in Texas.
(ฉันยอมอยู่ที่นี่ดีกว่าในเท็กซัส)
หรือป้ายศพของหมอฟันคนหนึ่งนาม บราวน์ :
Stranger tread
This ground with gravity.
Dentist Brown
Is filling his last cavity.
(filling his last cavity เป็นการเล่นคำ ซึ่งอาจแปลว่าการอุดฟันผุครั้งสุดท้ายหรือการอุดพื้นที่ว่างคือหลุมศพ!)
บ้างก็มีลักษณะของความขัดแย้งแบบขำเศร้าๆ :
Here lies the body
of John Round.
Lost at sea
and never found.
(ที่นี่ฝังร่างของ จอห์น ราวน์ด สูญหายในทะเลและไม่พบศพ)
หรือชายลูกดกคนหนึ่งแห่งเมืองจอร์เจีย :
Here lies the father of 29.
He would have had more
But he didn't have time.
(ที่นี่ฝังร่างของพ่อซึ่งมีลูก 29 หน่อ เขาอยากมีลูกมากกว่านี้ แต่มีเวลาไม่พอ!)
ป้ายฝังศพของฝรั่งส่วนใหญ่ก็มีค่านิยมคล้ายบ้านเราคือไม่นิยมจารึกเรื่องไม่ดีของคนที่ตายไปแล้ว ต่างกันที่ว่าชาวตะวันตกไม่เคยลืมเรื่องที่ใครคนหนึ่งทำไม่ดีต่อพวกเขาหรือสังคมง่ายๆ เหมือนคนไทย
เคยถามตัวเองไหมว่า อยากให้คนอื่นจดจำคุณอย่างไร หลังจากคุณจากโลกนี้ไป?
ชีวิตเป็นของไม่จีรัง เช่นเดียวกับชื่อเสียง ทรัพย์สินเงินทอง ข้อแตกต่างเดียวที่มนุษย์แต่ละคนสร้างก็คือการกระทำ บทกวีพระนิพนธ์ของกรมพระปรมานุชิตชิโนรสบทนี้เป็นตำราเรียนที่เด็กยุคผมท่องจำจนขึ้นใจ ความหมายของมันเป็นสัจธรรม
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
แปลว่า สัตว์พวกวัวควายช้าง เมื่อตายไปก็ทิ้งเขางาทั้งคู่ไว้ ส่วนร่างกายคนเรานั้นสลายไปสิ้น เหลือแต่ความดีความชั่วที่ทำไว้เท่านั้น
ประวัติศาสตร์ตลอดอารยธรรมของมนุษยชาติบันทึกตัวอย่างต่างๆ ของ 'สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา' ผ่านไปหนึ่งวันหลังคุณตาย มีคนร้องไห้เพื่อคุณ ผ่านไปสิบปีหลังคุณตาย อาจมีคนพูดถึงคุณนานๆ ครั้ง ผ่านไปยี่สิบปี สามสิบปี อาจไม่มีใครจดจำคุณได้ ต่อให้คนที่มีชื่อเสียงมาก ผ่านไปสักร้อยสองร้อยปี ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงแล้ว ยกเว้นบุคคลพิเศษจริงๆ ที่ชาวโลกยังกล่าวขวัญถึงหลังจากตายไปแล้วสองสามพันปี เช่นบุคคลอย่าง โซเครติส พระพุทธเจ้า พระเยซู ฯลฯ
เราอาจไม่ต้องทำความดีสูงส่งในระดับพระพุทธเจ้า แต่หากในช่วงชีวิต 60-70 ปี เราสามารถกระทำเรื่องเล็กๆ สักเรื่องสองเรื่องซึ่งก่อนตายเราสามารถระลึกถึงด้วยความรู้สึกที่ดีว่า เป็นการกระทำที่ทำให้ไม่เสียเวลาที่อยู่ในโลกนี้โดยสิ้นเชิง ก็นับว่าเป็นชีวิตที่ควรค่ากับการเกิดมา
วินทร์ เลียววาริณ
12 ธันวาคม 2552

ประวัติผู้เขียน
วินทร์ เลียววาริณ (ชื่อเกิด สมชัย เลี้ยววาริณ) เกิดปี พ.ศ. 2499 ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา [1] เป็นนักเขียนที่ได้รับ รางวัลซีไรต์ ถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน) และเมื่อปี พ.ศ. 2542 (สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน) โดยก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักเขียน เขาทำงานด้านออกแบบมาก่อน คือเป็นสถาปนิก นักตกแต่งภายใน นักออกแบบกราฟิก และนักโฆษณา
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว