เต้าหู้ : วิธีเลือกซื้อ : รู้ได้อย่างไร ว่าไม่ใส่สารกันบูด
เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในปัจจุบันว่า นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว "เต้าหู้" เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง เวลาเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ เราก็จะได้เห็นหน้าค่าตา เต้าหู้ บ่อยเป็นพิเศษ แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลากินเจ เราก็ยังคงนิยมใช้ เต้าหู้ มาประกอบอาหารกันอยู่เป็นประจำ ในปัจจุบันเต้าหู้ที่เห็นขายกันอยู่ใน ท้องตลาด มีทั้งเต้าหู้สดและเต้าหู้อุตสาหกรรม |
เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในปัจจุบันว่า นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว "เต้าหู้" เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง เวลาเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ เราก็จะได้เห็นหน้าค่าตา เต้าหู้ บ่อยเป็นพิเศษ แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลากินเจ เราก็ยังคงนิยมใช้ เต้าหู้ มาประกอบอาหารกันอยู่เป็นประจำ ในปัจจุบันเต้าหู้ที่เห็นขายกันอยู่ใน ท้องตลาด มีทั้งเต้าหู้สดและเต้าหู้อุตสาหกรรม |
เต้าหู้สด เต้าหู้สดที่ผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ จะไม่ใส่สารกันบูด เวลาใช้ ควรซื้อมาแล้วใช้ประกอบอาหารทันที เต้าหู้ที่สดใหม่ จะมีกลิ่นหอม และรสดีที่สุด เต้าหู้ที่ทำขายวันต่อวัน ไม่มีของเหลือค้างก็ไม่น่าจะมีสารกันบูด แต่ถ้าอยากพิสูจน์ก็ไม่ยาก แค่เอาเต้าหู้วางไว้เปลือยๆ ไม่ต้องหล่อน้ำเลี้ยง ไว้นอกตู้เย็น ถ้าไม่บูดเปรี้ยวในหนึ่งวัน ก็สันนิษฐานได้เลยว่า เป็นเต้าหู้ที่ใส่สารกันบูด
เต้าหู้อุตสาหกรรม จะใช้ความร้อนสูงและบรรจุภัณฑ์มายืดอายุเต้าหู้ จะระบุอายุการเก็บไว้ต่างๆกัน ถ้าบรรจุในบรรจุภัณฑ์พลาสติกสูญญากาศ จะระบุอายุตั้งแต่ 3-6 สัปดาห์ ส่วนเต้าหู้หลอดอายุ 6 สัปดาห์ แต่คุณรู้หรือไม่ ว่าความอร่อยของเต้าหู้อยู่ที่ความสด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเต้าหู้ ที่ทั่วโลกยอมรับ William Shurtleff และ Akiko Aoyagi บอกว่า เต้าหู้อุตสาหกรรม ในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ สามารถคงความสดอยู่ได้ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้น ถึงไม่เสียแต่ก็ไม่สด รสชาติเสื่อมลง
ดังนั้นเราควรซื้อ เต้าหู้ที่มีอายุไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ผลิต (โอ้.. จะหาซื้อได้ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือเปล่านี่) เอาเป็นว่า เวลาหยิบนอกจากจะดูว่ายังไม่หมดอายุ ก็เลือกเอาที่เก่าน้อยที่สุดแล้วกันค่ะ แล้วก็ถ้าใครที่ชอบซื้อมาเก็บไว้ทีละเยอะๆ คงต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ ซื้อมาพอใช้ หมดแล้วซื้อใหม่ดีกว่า