โดยเชื่อว่า พืชผักบางอย่างรับประทานเข้าไปแล้วจะเกิดโทษในขณะที่ พืชผักบางอย่างรับ ประทานเข้าไปจะเกิดผลดี ข้อห้ามข้อแนะนำเหล่านี้มักจะนำไปใช้กับกลุ่มบุคคลที ่มีลักษณะพิเศษ ดังนี้
1.หญิงตั้งครรภ์
ข้อห้ามได้แก่ ห้ามกินบอน จะทำให้สายรกเปื่อย ห้ามกินผักแว่นจะทำให้รกพันคอเด็ก ห้ามกินกล้วยจี่ จะทำให้รกติด เป็นต้น ข้อห้ามเหล่านี้ถูกอ้างว่าจะมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ ทั้งสิ้น
หากจะพิจารณาถึงผลโดยตรงต่อเด็กแล้วอาจจะเป็นไปไม่ได ้ ผลที่จริงแล้วเกิดกับแม่ต่างหาก เช่น บอนหากทำไม่ถูกวิธีจะทำให้คันปาก ผักแว่นหากทำไม่สะอาด อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย เป็นต้น
สำหรับข้อปฏิบัตินั้นได้แก่ ให้กินปลีกล้วย ขนุนอ่อน เพราะจะทำให้ช่วยบำรุงน้ำนม จุดนี้ชาวบ้านเองคงจะสังเกตเห็นว่า ผักทั้ง 2 อย่างมียางขาวๆ คล้ายนมจึงคาดหวังว่าคงช่วยได้ และจากการปฏิบัติจริงพบว่าได้ผลจริงด้วย ฉะนั้น จึงได้ตั้งเป็นข้อปฏิบัติตลอดมา
2.หญิงหลังคลอด
ห้ามกินผักเย็น เช่น แตงทุกชนิด ห้ามกินผักหวาน ผักกาด ชะอม หน่อไม้ ผักเลียบ พริกด้วย ผักพวกนี้ จะทำให้เกิดอาการเจ็บท้องทั้งแม่และลูก
ผักที่แนะนำให้กิน ได้แก่ ปลีกล้วย ผักตำลึง ขนุนอ่อน บัวบก ไพล เพาะจะช่วยให้น้ำนมมาก และไพลช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
ข้อปฏิบัตินี้ได้มีการปฏิบัติสืบต่อกันมานาน และถ่ายทอดมาให้ลูกหลาน แต่การที่จะปฏิบัติตัวอย่างไรหรือไม่นั้น อาจจะพบได้น้อยลงไปบ้างแล้ว
เพราะปัจจุบันระบบการคลอดจากสถานบริการของรัฐมุ่งใช้ ยาบำรุงและอาหารหลัก 5 หมู่ อย่างไรก็ดีแกงเลียงจึงเป็นอาหารยอดฮิตสำหรับคนหลังค ลอดเพราะประกอบด้วยผัก ที่แนะนำมาเกือบครบถ้วน
3.ผู้มีคาถาอาคม
กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะมีข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการกินอาห าร ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นข้อห้าม โดยจะมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังว่า พืชผักเหล่านี้จะทำให้คาถาเสื่อมลง พืชผักที่ห้ามกินคือ
มะขามป้อมอันเป็นพืชที่อยู่ในตำนานเรื่อง ทรพี ทรพา จากตำนานนี้ได้ถูกนำมาเป็นข้อห้ามของคนที่มีคาถาที่จ ะไม่กินมะขามป้อม
ในขณะเดียวกันจะนิยมใช้ส้มป่อยมาใช้ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น การล้าง เสนียดจัญไร การนำมาใช้สระหัว เป็นต้น สำหรับผักที่ห้ามกินนั้น ได้แก่ น้ำเต้าฟักเขียว และโหระพา
โดยถือว่าผักเหล่านี้กินแล้วทำให้อ่อนแรงลง คาถาอาคมเสื่อม ซึ่งหมอคนเมืองคนหนึ่งเล่าว่า “น้ำเต้าเป็นของเย็น กินแล้วคาถาจะเสื่อมไม่ขึ้นมันแพ้กันฟักเขียวกินแล้ว จะอ่อนแรง ช้างที่ตกมันเอาฟักหัวเขียวโยนให้กินจะอ่อนกำลังลงได ้”
นอกจากข้อห้ามเหล่านี้แล้ว คนเหล่านี้จะไม่กินอาหารในงานศพ นอกจากนี้จะเป็นเวลาหลังจากเผาศพเสร็จแล้วถึงกินได้โ ดยถือว่ากินของผี ผีจะข่มเอาได้ ความเชื่อนี้ยังมีอยู่เพราะกลุ่มหมอพื้นบ้านต่างๆ ยังคงยึดมั่นกับความเชื่อเหล่านี้จริงๆ
ที่มา handbtoday
ภาพประกอบ : อินเตอรืเน็ต