ภาวะของคนสองประเภท (4)
อันรูปร่าง ผิวพรรณ กิริยามารยาทตลอดถึงความรู้สึกนึกคิด
การงานทั้งปวงของหนุ่มๆสาวๆ นั้น จะคลี่คลายหายเข้ากลีบเมฆไปทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ผลที่สุดก็จะยังเหลือแต่ความยุ่งและความแก่ตลอดเวลา
สมาชิกในครอบครัวมากขึ้น
มิใช่อาชีพมันจะเจริญขึ้นตามตัวเสมอไปซ้ำอายุกำลังเรี่ยวแรงก็มีแต่จะลดน้อยถอยลงไปทุกๆ วัน แม่เหล็กแม่แรงพ่อเหล็กพ่อแรงนั้นมันจะถ่วงน้ำหนักได้สักกี่คน เมื่อถึงเวลานั้นโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดา และครูอาจารย์ ซึ่งเคยเป็นยาเบื่อไม้เมามาแต่ก่อนโน้น จะกลับมาเป็นยาแก้ลมชโลมหัวใจของลูกรักด้วยความระลึกถึงบุณคุณของท่านอีกครั้ง
คนแก่ๆ ก็ไม่ยอมแพ้หนุ่มๆ สาวๆ เหมือนกัน
มีลูกมีหลานแล้วไม่เพียงแต่จะเอาไว้กอดรัก และโชว์เพื่อนบ้านเท่านั้น ยังครุ่นคิดอยากจะปลูกฝังเพื่อจะให้มีหน่อแหนงสืบเชื้อวงศ์ตระกูลเป็นห่วงถึงอนาคตของเขา กลัวจะพ้นผ่านขัยวัยอันควรแก่กาลของเขา ยิ่งบางคนลูกมากเลี้ยงไม่ไว้หาให้ไม่พอ นึกว่าแต่งงานให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียที จะได้ไม่เป็นทุกข์ด้วยเขา ที่ไหนได้กว่าจะเสร็จเรื่องแต่ละคน เข้าทำนองที่ว่า ที่ดีไม่ได้ ที่ได้ไม่ดี ก็เป็นทุกข์ตอนหนึ่งแล้ว
ต่อจากนั้นไป
ก็จะต้องเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเขาทุกวิถีทาง หากอาชีพและความรักใคร่ของเขายังกลมกลืนพอไปกันได้ ก็ค่อยสบายใจไปตอนหนึ่ง ถ้าเขาเกิดมีเรื่องจุกจิกอะไรขึ้นในระหว่างนี้แล้ว ก็จะทำให้คนแก่ใช้สมองมากเหมือนกัน
ขั้นต่อไปเมื่อเขาได้หลานขึ้นมาแล้ว
สองตายายก็จะตาลุกตาล่อจนลืมตัว ทิ้งแบก กลับมาได้หาม ไม่ทราบว่าความทุกข์ของฆราวาสนี้มันจะไปสิ้นสุดลงไหน ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแต่พันเข้าเหมือนกับปลาติดอวน พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งแทงตลอดในทุกข์ของฆราวาสได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นของสุดวิสัยของผู้ครองฆราวาสที่จะปลดเปลื้องทุกข์ให้หมดสิ้นไปได้
คำพิพากษาของศาลว่า
ผู้นี้กระทำผิดต่อกฏหมายมาตรานี้แล้วจะต้องได้รับโทษจำคุกเท่านี้เท่านี้ๆ ปีแล้วจึงจะพ้นได้ เรียกว่า โทษมีกฎหมายปรับตามโทษานุโทษนั้นๆ แต่ส่วนโทษของฆราวาสนี้ซิ เมื่อไรมันจะพ้นได้ เพราะทำผิดเองตัดสินตนเอง
โดยไม่มีแม่บทกฎหมาย นี่ว่าเฉพาะทุกข์เดียว คือ
ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งแก่ถึงขนาดนี้ หากจะพูดถึงเรื่องทุกข์สายใหญ่ๆ แล้วก็ยังมีอีกมากเป็นต้นว่าทุกข์เรื่องอาชีพ เจ็บป่วย และทะเลาะวิวาททุบตีซึ่งกันและกัน ตลอดถึงทุกข์ใจเศร้าโศกอาลัย มันเหลือที่จะคณานับให้ถ้วนได้ พระพุทธเจ้าทรงประมวลความทุกข์ของมนุษย์ สัตว์ไว้มีอยู่ ๑๑ ประการแล้ว ดังที่ยกมากล่าวแล้วไว้ในข้างต้นนั้น
สรุปแล้วทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้เกิดแต่อุปทานขันธ์ คือ
ถือว่านามและรูปอันนี้มันเป็นของๆ เรา แต่ถึงอย่างไรก็ดี หากผู้ได้รับทุกข์แล้วไม่หลงมัวเมาประมาทจนเกินควร มาสำนึกถึงความผิดโดยการยกเอาทุกข์ขึ้นมาพิจารณาให้ถ่องแท้ แล้วตั้งใจจะบำเพ็ญตนให้สมภาวะที่ตนเป็นฆราวาสดำเนินชีวิตตามวิธีที่พระพุทธเจ้าได้ทรงวางไว้เพื่อผู้ครองฆราวาส ถึงแม้ทุกข์จะไม่หมดสิ้นไปทีเดียวแต่ก็พอจะได้รับความสุขตามอัตภาพวิสัย เท่าที่การปฏิบัติของตนจะพึงอำนวยผลให้
เราเกิดมามิใช่เทวดาบนชั้นฟ้าสวรรค์จะมีความสุขได้
มิใช่แต่เฉพาะมีทรัพย์มากมีเกียรติยศชื่อเสียงโด่งดังและบริวารชนมากเท่านั้นก็หาไม่ ถึงจะมีสิ่งเหล่านั้นแล้วก็ตามที ถ้าไม่มีคุณธรรมประจำตนเป็นลักษณะแล้ว อาจเป็นทุกข์มากกว่าคนที่เขามีคุณธรรมเป็นเครื่องดำเนินชีวิตของเขาถูกต้องตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ได้ ดังนั้น จึงนำฆราวาสธรรม มาแสดงให้เห็นพอเป็นเอกเทศ เพื่อเป็นการศึกษาของผู้สนใจ เมื่อน้อมนำไปปฏิบัติตามแล้วจะได้รับผลดังที่ท่านแสดงไว้หรือไม่เชิญทดลองดู